พยากรณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายวัน บางนา 'อุณหภูมิ' สูงสุดทะลุ 50 องศา
กรมอุตุฯ พยากรณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายวัน ตั้งแต่วันที่ 4 -6 เมษายน 2566 ชี้ บางนา "อุณหภูมิ" สูงสุดในไทย ทะลุ 50 องศา เสี่ยงเกิดฮีทสโตรก
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน พยากรณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดรายวัน ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 -6 เมษายน 2566 ระบุว่า จังหวัดที่มีค่าดัชนีความร้อนสูงสุด ดังนี้
- 4 เมษายน 2566
- กำแพงเพชร 28.7 องศา
- มุกดาหาร 31.4 องศา
- บางนา 36.6 องศา
- ชลบุรี 33.8 องศา
- สงขลา 34.4 องศา
- 5 เมษายน 2566
- แม่สอด จ.ตาก 41 องศา
- ศรีษะเกษ 38.4 องศา
- บางนา 45.5 องศา
- ชลบุรี 45.8 องศา
- พังงา 43.3 องศา
- 6 เมษายน 2566
- เพชรบูรณ์ 40.6 องศา
- ศรีษะเกษ 41.5 องศา
- บางนา 50.2 องศา
- แหลมฉบัง จ.ชลบุรี 49.4 องศา
- ภูเก็ต 47.9 องศา
ดัชนีความร้อน หรือ Heat Index คือ "อุณหภูมิ" ที่คนเรารู้สึกได้ในขณะนั้นว่า อากาศร้อนเป็นอย่างไร หรืออุณหภูมิที่ปรากฎในขณะนั้นเป็นเช่นไร โดยค่าดัชนีความร้อนสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อระบุความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับผลกระทบจากความร้อน หากพื้นที่ที่มีอากาศร้อนหากเกิดร่วมกับความชื้นสูงแล้วจะทำให้คนเรารู้สึกเหมือนอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของอากาศ ณ ขณะนั้น ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'กรมอุตุนิยมวิทยา' ประกาศ ฉ.1 'พายุฤดูร้อน' ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 6 - 9 เม.ย.
- น่านแชมป์พบ 'จุดความร้อน' มากที่สุด ปภ.เตือน 9 จว. 'อากาศร้อนจัด' ทะลุ 40 องศาฯ
- เตือนภัย 'ฮีทสโตรก' กรณี 'เอ๋ ชนม์สวัสดิ์' ภัยร้ายเสี่ยงตายหน้าร้อน
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยพยากรณ์ค่าดัชนีความร้อน (HI) มี 4 ระดับ ดังนี้
- สีเขียว หมายถึง ระดับเฝ้าระวัง แทนค่าดัชนีความร้อน 27-32 °C ผลกระทบต่อสุขภาพ คืออ่อนเพลีย วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวจากการสัมผัสความร้อน หรือออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงงานท่ามกลางอากาศที่ร้อน
- สีเหลือง หมายถึง ระดับเตือนภัย แทนค่าดัชนีความร้อน 32-41°C ผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการตะคริวจากความร้อน และเกิดอาการเพลียแดด หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน
- สีส้ม หมายถึง ระดับอันตราย แทนค่าดัชนีความร้อน 41-54 °C ผลกระทบต่อสุขภาพ มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะลมแดด (Heat Stroke) ได้หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน
- สีแดง หมายถึง ระดับอันตรายมาก แทนค่าดัชนีความร้อน มากกว่า 54 °C ผลกระทบต่อสุขภาพ จะเกิดภาวะลมแดด (Heat Stroke) โดยมีอาการตัวร้อน เวียนศีรษะ หน้ามืด ซึมลง ระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายล้มเหลว และทำให้เสียชีวิตได้หากสัมผัสความร้อนติดต่อกันหลายวัน
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศของประเทศไทยในช่วงสัปดาห์นี้ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 4 – 5 และ 10 เม.ย. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมี อากาศร้อน โดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 9 เม.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมี พายุฤดูร้อน เกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา