8 บทเรียนที่ทำให้ 'ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ชีวิตมีความสุข'

8 บทเรียนที่ทำให้ 'ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี  ชีวิตมีความสุข'

บัณฑิตวิทยาลัยจุฬาฯ ผนึกบริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด ประเทศไทย สานต่โครงการ Nutrition Academy Thailand หลักสูตรอบรมระยะสั้นสำหรับภาคธุรกิจ พร้อมเปิด 8 บทเรียนดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพที่ดี ชีวิตมีความสุข

Keypoint:

  • จุฬาฯเปิดตัวหลักสูตร Nutrition Academy Thailand หลักสูตรอบรมระยะสั้นสำหรับภาคธุรกิจ เรียนรู้ให้เท่าทันบริบทของเทคโนโลยีและบริการสุขภาพทางการแพทย์อย่างครบวงจร 
  • การเรียนรู้ตลอดชีวิต เสริมความก้าวหน้าด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทย รองรับเทคโนโลยีทางการแพทย์ และสังคมผู้สูงอายุ
  • 8 บทเรียนที่ผู้สูงอายุและผู้ดูแลสูงวัยควรรู้ พร้อมเช็กวิธีการดูแลสุขภาพ การจัดสภาพแวดล้อม อาหารที่เหมาะสมกับวัยเก๋า สร้างสุขภาพที่ดี มีชีวิตที่Happy

‘Nutrition Academy Thailand’ เป็นหลักสูตรอบรมระยะสั้นสำหรับภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไป หนึ่งในหลักสูตร Lifelong Learning ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมมือกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยให้เกิดความก้าวหน้า สามารถขับเคลื่อนธุรกิจด้านสุขภาพของไทยให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในระดับสากล

โดยหลักสูตร ‘Nutrition Academy Thailand’นอกจากเป็นการอบรมระยะสั้น ยังเป็นการพัฒนาต่อยอดด้านการวิจัย การจัดการความรู้ และนวัตกรรมทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการทางสุขภาพให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่สนใจ อบรมองค์ความรู้เกี่ยวกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสุขภาพ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และการบริการสุขภาพอย่างครบวงจร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

“สังคมสูงอายุ” โอกาสผู้ประกอบการ ลงทุนวิจัย นวัตกรรมตอบโจทย์

อว.ประสานสร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัย ช่วยเสริม 'วชช.' พัฒนาชุมชน

‘Smart Aging’ สูงวัยออกกำลังกายได้ทุกที่ ฟิตสมวัยในยุค 5G

เทรนด์ดูแลสุขภาพ 'ยุคใหม่' 18ปีลดน้ำหนัก-ฝังเข็มแก้โรคทำงาน

 

เดินหน้าหลักสูตร Nutrition Academy Thailand

บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Nutrition Academy Thailand โดยมี  รศ.ดร.ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ กล่าวว่าความร่วมมือในครั้งนี้  ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะขยายองค์ความรู้ด้านสุขภาพและการแพทย์ให้ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ

โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริหารภาคธุรกิจได้รับการอบรม ถ่ายทอดความรู้ ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จากหลายแขนง เพื่อช่วยเพิ่มพูนทักษะและศักยภาพให้พร้อมรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสุขภาพ  โดยจะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของพนักงาน

ทั้งนี้ หลักสูตร ‘Nutrition Academy Thailand’  เป็นไปตามการจัดการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ภายใต้โครงการบริการวิชาการ การจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสหวิทยาการ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CUGS Academy: Lifelong Learning and Interdisciplinary Graduate School, Chulalongkorn University โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพวิชาชีพของบัณฑิตรุ่นใหม่และบุคลากรในภาคแรงงานไทยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงขึ้น

ปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพและการแพทย์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการบริการทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและทำให้มีสุขภาวะ และอายุขัยเฉลี่ยไปในทางที่ดีขึ้น

โดยในส่วนของบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ ได้มีการเปิดวิชา ‘การดูแลตนเองเพื่อการเป็นผู้สูงวัยสุขภาพดีมีความสุข (Aging Society and The Oral Health Care)’ ซึ่งเป็นการนำเสนอความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพตนเองซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีและมีความสุขในทุกช่วงวัย โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในมิติต่าง ๆ ตามแนวทางการบูรณาการดูแลผู้สูงอายุขององค์การอนามัยโลก

 

8 บทเรียนที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสุขภาพดี มีความสุข

โดยรายวิชาดังกล่าว จะเป็นผลผลิตจากการประชุมผู้เชี่ยวชาญ และความร่วมมือกับกรมอนามัย กรมการแพทย์ สำนักอนามัย สำนักงานกองทุนสนับสนึนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้โครงการบูรณาการสหศาสตร์เพื่อรองรับสังคมสูงวัย (จุฬาอารี) เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นก่อนเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ 

สำหรับเนื้อหาวิชาเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ดูแลตนเอง สร้างสุขภาพดีมีความสุข จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 บทเรียน มีดังนี้

  1. ความรอบรู้และการตระหนักรู้ตนเองด้านสุขภาพตามแนวทางองค์การอนามัยโลก
  2. กิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพดีมีความสุข
  3. โภชนาการเพื่อสุขภาพดีมีความสุข
  4. การได้ยินและการมองเห็นเพื่อสุขภาพดีมีความสุข
  5. การดูแลตนเองเพื่อชะลอสมองเสื่อมเพื่อสุขภาพดีมีความสุข
  6. การดูแลสุขภาพจิตเพื่อสุขภาพดีมีความสุขและสุขภาวะ
  7. การดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อสุขภาพดีมีความสุข
  8. สรุปบทเรียนการดูแลตนเองเพื่อเป็นผู้สูงวัยสุขภาพดีมีความสุข

อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้สูงอายุ มีความจำเป็นและสำคัญมาก เราควรเอาใจใส่ในด้านสุขภาพและสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น หลักในการดูแลผู้สูงอายุแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ วิธีดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และวิธีจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้สูงอายุ

เช็กวิธีดูแลสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้สูงอายุ

วิธีดูแลสุขภาพดีให้ผู้สูงอายุ การทำงานของร่างกายจะเสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยวิธีดูแลสุขภาพผู้สูงอายุประกอบด้วยการดูแลอวัยวะส่วนต่าง ๆ และจัดการเรื่องเข้ารับการตรวจและรักษาปัญหาสุขภาพได้ดังนี้

1). ดูแลสุขภาพดวงตา

  • ลูกหลานควรพาผู้สูงอายุเข้ารับการตรวจสุขภาพดวงตาหรือวัดสายตา เพื่อตัดแว่นสายตาที่เหมาะสม รวมทั้งตรวจดูว่าผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพตาหรือไม่ เพื่อเข้ารับการรักษาต่อไปในกรณีที่ดวงตาผิดปกติ
  • ไม่ควรให้ผู้สูงอายุสูบบุหรี่ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่เมื่ออยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงเกิดจอตาเสื่อม หรือต้อกระจกได้
  • เตรียมผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารให้ผู้สูงอายุรับประทานอย่างเหมาะสมและเพียงพอ
  • เมื่อต้องออกแดดจ้าควรเตรียมแว่นกันแดดให้ผู้สูงอายุได้สวมใส่เพื่อถนอมสายตา

2). ดูแลการได้ยิน

  • ดูแลให้ผู้สูงอายุเข้ารับตรวจเกี่ยวกับการได้ยิน ภาวะสูญเสียการได้ยินนับเป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะค่อย ๆ เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
  • การสูญเสียการได้ยินส่งผลต่อการดำเนินชีวิต ทำให้ฟังหรือปฏิบัติตามคำแนะนำที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา
  • ลูกหลานควรพาผู้สูงอายุไปตรวจเกี่ยวกับการได้ยิน เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยหาสาเหตุของการไม่ได้ยิน และเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องทันท่วงที

3). ดูแลสุขภาพช่องปาก

  • ผู้สูงอายุควรลดปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล รวมทั้งเลี่ยงรับประทานอาหารประเภทนี้นี้ก่อนเข้านอน เพราะน้ำตาลอาจเกิดการสะสมและกลายเป็นแป้งอยู่ในช่องปากและฟัน ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพปากและฟันเกิดขึ้น
  • ดูแลผู้สูงอายุให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ
  • ผู้สูงอายุควรบ้วนน้ำลายหลังแปรงฟันทุกครั้ง โดยไม่ต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากทันทีที่แปรงฟันเสร็จ เนื่องจากน้ำยาบ้วนปากอาจล้างฤทธิ์ฟลูออไรด์ของยาสีฟัน
  • ดูแลผู้สูงอายุไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป รวมทั้งให้งดสูบบุหรี่ เนื่องจากทำให้เสี่ยงเกิดมะเร็งช่องปาก และมะเร็งบางชนิดมากขึ้น
  • หมั่นให้จิบน้ำบ่อย ๆ อมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่ผสมน้ำตาล หรืออมน้ำแข็งก้อนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันปากแห้ง

4). ดูแลสุขภาพเท้า

  • หมั่นล้างเท้าให้สะอาดทุกวันเพื่อป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ เนื่องจากสิ่งสกปรกที่ติดตามผิวหนัง อาจทำให้ระคายเคืองและติดเชื้อ ทั้งนี้ ควรเป่าเท้าและระหว่างนิ้วเท้าให้แห้งเพื่อป้องกันฮ่องกงฟุต
  • ทาครีมบำรุงเท้า เพื่อลดอาการหยาบกร้านของผิวหนัง โดยเลือกใช้ครีมสำหรับทาเท้าโดยเฉพาะ
  • หมั่นดูแลเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้เดินได้สะดวก
  • เมื่อตัดเล็บ ควรเล็มเล็บเท้าตรงๆ ไม่ตัดเป็นมุม เนื่องจากอาจทำให้เล็บฝังอยู่ในเนื้อเท้า
  • ควรดูแลเท้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยอาจสวมถุงเท้าตอนนอน
  • ผู้สูงอายุควรเลี่ยงสวมรองเท้าที่แน่นเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเท้าไม่ได้ ทำให้เกิดตะคริวและชาที่เท้า
  • ผู้สูงอายุควรเลือกใช้รองเท้าที่ทำจากวัสดุหนังแบบนุ่มหรือมีความยืดหยุ่น เพื่อความสบาย คล่องตัว และควรเลือกรองเท้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีป้องกันการอับชื้น

5). ดูแลสมอง

  • ผู้สูงอายุควรได้รับอาหารที่ดีและมีสารอาหารครบถ้วนให้รับประทาน ทั้งยังต้องรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพดีและแข็งแรง
  • ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรดื่มมากเกินไป
  • ผู้สูงอายุควรหมั่นตรวจเช็คสัญญาณชีพ ชีพจรการเต้นของหัวใจ และดูแลความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • จัดการให้ผู้สูงอายุนอนหลับอย่างเพียงพอ
  • หมั่นพูดคุยหรือพาผู้สูงอายุไปเที่ยวเพื่อสร้างความผ่อนคลาย หากิจกรรมเสริมสร้างทักษะให้ได้ใช้สมองเพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือมีกิจกรรมใหม่ๆตามสมควร

6). ดูแลสุขภาพจิต

  • ชวนผู้สูงอายุพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ หรือติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์ในกรณีที่ไม่ได้เจอกัน
  • สอนให้ผู้สูงอายุใช้งานอินเทอร์เน็ต และ social media เพื่อให้ท่านได้ทำกิจกรรมใหม่ๆในยามว่างที่ไม่ได้ออกไปข้างนอก ทั้งยังสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยเสริมสร้างทักษะใหม่ๆให้ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพดีทั้งกายใจ
  • เข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมหรือชุมชน เพื่อทำกิจกรรมและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น
  • วางแผนทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ท่านไม่เหงาและเกิดภาวะเครียด

7). กระตุ้นให้เคลื่อนไหวร่างกาย

  • พาผู้สูงอายุออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกผุ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง รวมทั้งเสริมสร้างการนอนหลับ อารมณ์ และความจำ
  • กระตุ้นให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น ประมาณครั้งละ 30 นาที โดยเลือกกิจกรรมให้เหมาะสม เช่น เดินเร็ว ขึ้นลงบันได ว่ายน้ำ ฝึกออกกำลังกายอย่างง่าย โดยใช้เก้าอี้ช่วย
  • ลองให้ผู้สูงอายุถือของเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างตามสมควร
  • ชวนทำสวน ทำกิจกรรมเข้าจังหวะอื่นๆ หรือกิจกรรมที่กระตุ้นการเดิน ขยับเขยื้อนร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดี

 8). ดูแลปัญหาสุขภาพการปัสสาวะและขับถ่าย

  • ดูแลให้ดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ เนื่องจากอาการเกี่ยวกับปัสสาวะจะกำเริบได้หากดื่มน้ำน้อย
  • ลดปริมาณการดื่มชา กาแฟ โคล่า หรือเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีนและน้ำตาลที่เยอะจนเกินควร
  • ตรวจดูว่ายารักษาโรคที่ใช้อยู่ส่งผลต่อการขับปัสสาวะของผู้สูงอายุหรือไม่

จัดสภาพแวดล้อม เตรียมอาหารอย่างไรให้เหมาะกับสูงวัย

  1. การจัดสภาพแวดล้อมสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก  เพราะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยตรง หากผู้สูงอายุอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย  สะอาด  ลดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุได้ และยังเอื้อต่อการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีแก่ผู้อยู่อาศัย
  2. วิธีจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้สูงอายุควรปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
  3. จัดบ้านให้ปลอดภัย สะอาดสะอ้าน อากาศถ่ายเทได้ดี มีแสงแดดส่องเข้าถึงเพื่อไม่อับชื้น
  4. ติดเครื่องส่งเสียงหรือสัญญาณเตือนภัยในกรณีที่ผู้สูงอายุต้องอยู่ตามลำพังบ่อย ๆ
  5. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟไว้ตามทางเดิน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว หรือบ้านที่ติดตั้งเตาแก๊สควรติดตั้งเครื่องจับควันและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมทั้งทดสอบการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ
  6. เลือกวัสดุสำหรับปูพื้นในห้องน้ำที่ไม่ทำให้ลื่นง่าย และควรทำราวจับไว้ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุเดินได้สะดวกขึ้นและไม่หกล้ม
  7. เก็บของให้เป็นระเบียบ ทำความสะอาด กวาดพื้นให้เรียบร้อย ไม่ทิ้งไว้ตามทางเดินหรือบันได
  8. ติดตั้งโคมไฟที่เปิด-ปิดอัตโนมัติใช้งานตอนกลางคืน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นเส้นทาง และเดินเข้าห้องน้ำหรือขึ้นลงบันไดได้อย่างสะดวกสบาย
  9. ม้วนสายไฟเก็บให้เรียบร้อย รวมทั้งตรวจสอบความชำรุดของเต้าเสียบและสายไฟอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าชำรุด ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ป้องกันการเกิดอันตรายสำหรับผู้สูงอายุ
  10. ควรให้ผู้สูงอายุสวมรองเท้าสำหรับใส่เดินภายในบ้าน ไม่ควรให้สวมถุงเท้าเดินหรือเดินเท้าเปล่า
  11. เสื้อผ้าที่ผู้สูงอายุสวมใส่ควรรัดกุม ไม่รุ่มร่าม เพื่อป้องกันเดินสะดุดหกล้ม

ขณะที่การรับประทานอาหารของผู้สูงอายุ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดี มีความสุขในการใช้ชีวิตและห่างไกลต่อโรคต่างๆ ได้ โดยผู้สูงอายุ ควรรับประทานอาหารดังนี้ 

  • รับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5 ส่วน โดยเลือกผักและผลไม้สดสะอาด
  • ดูแลให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำระหว่างวัน
  • จัดอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา ที่สามารถย่อยได้ง่ายให้รับประทานในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
  • ควรดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับวิตามินดีอย่างพอเพียง อาทิเช่น รับแสงแดด ให้รับประทานอาหารเสริม เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสุขภาพดี
  • ลองให้ผู้สูงอายุรับประทานเครื่องดื่มพลังงานสูง อาทิเช่น นม และ Milk Shake หรือเครื่องดื่ม Smoothie(หวานน้อย) เพื่อป้องกันภาวะน้ำหนักตัวลดลง