‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ ป่วยระยะต้นไม่มีอาการ ใครควรตรวจคัดกรอง-สิทธิฟรี
ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือ ผู้ว่าฯหมูป่า เสียชีวิตด้วย ‘โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่’ ซึ่งคนไทยแนวโน้มพบสูงขึ้น มีวิธีเลี่ยง และตรวจคัดกรอง เพราะระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการ
อาหารที่เสี่ยงก่อโรค
แนวโน้มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี สำหรับประเทศไทยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 2 ในเพศหญิง
วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากโดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค เช่น
- อาหารไขมันสูง
- อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น
- การกินอาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม
- อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ
- และเนื้อสัตว์แปรรูป ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรค
ปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย การมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ตลอดจนการมีประวัติครอบครัวหรือตนเองเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น
มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่มีอาการระยะแรก
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เริ่มจากการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ (polyp) และพัฒนาจนเป็นมะเร็งโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงมักจะไม่มีอาการในระยะเริ่มแรกของโรค จะมีอาการก็ต่อเมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจนถึงระยะสุดท้าย ส่งผลทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
อาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่
- การถ่ายอุจจาระผิดปกติ
- มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย
- ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
- ถ่ายไม่สุด
- ถ่ายเป็นมูกหรือ มูกปนเลือด หรืออาจถ่ายเป็นเลือดสด
- ขนาดลำอุจจาระเล็กลง
- และมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด เป็นต้น
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
การตรวจพบโดยเร็ว ตั้งแต่ยังไม่มีอาการผิดปกติ จึงสำคัญมาก ซึ่งการตรวจคัดกรอง มะเร็งลำไส้ใหญ่ทำได้หลายวิธี เช่น ตรวจเม็ดเลือกแดงในอุจจาระทุก 1-2 ปี ,การสวนสารทึบรังสีตรวจลำไส้ใหญ่ หรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทุก 5 ปี
- วิธีคัดกรองที่แพร่หลายมีหลักๆ 2 วิธี ได้แก่
- การตรวจเลือดออกแฝงในอุจจาระ แนะนำให้ตรวจในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปที่ไม่มีความเสี่ยงอื่นๆ เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็ว หากผลการตรวจปกติ จะทำการตรวจอุจจาระซ้ำทุก 1 ปี และหากผลตรวจผิดปกติ จะพิจารณาตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต่อไป
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นวิธีการคัดกรองที่เป็นมาตรฐาน สามารถมองเห็นติ่งเนื้อและสามารถตัดออกได้ แนะนำให้ตรวจในคนอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีความเสี่ยง ได้แก่ มีญาติในลำดับที่ 1 เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่, มีโรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือ เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หากผลการตรวจปกติ จะพิจารณาตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ซ้ำในอีก 5-10 ปี
คนที่ควรตรวจคัดกรอง
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ ส่งผลให้การรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายจากโรคสูง ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
ควรรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงโดยการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระปีละครั้ง หากผิดปกติควรได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ กรณีพบติ่งเนื้อหรือความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบริเวณดังกล่าวเพื่อวินิจฉัยต่อไป
บัตรทองตรวจคัดกรองฟรี
ผู้ที่อยู่ในสิทธิประกันสุขภาพบัตรทอง บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง หากตรวจพบในระยะเริ่มแรกการรักษาก็จะได้ผลดี ในปี 2561 สปสช.บรรจุสิทธิประโยชน์บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯ
สำหรับผู้ที่อายุ 50–70 ปี โดยวิธีตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT Test) จำนวน 1 ครั้ง ทุก 2 ปี หากผลตรวจผิดปกติจะได้รับการตรวจยืนยันด้วยการส่องกล้องและการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ
อ้างอิง :
กรมการแพทย์