'กาแฟ' ไม่ใส่นมน้ำตาล ช่วยลดไขมันได้จริง แต่ระวัง! ดื่มมากไปมีผลข้างเคียง

Key Points:

• นักวิจัยพบว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนแบบไม่มีแคลอรี (ไม่ใส่นม-น้ำตาล) สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกายและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ได้
• ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนแบบไม่ใส่นม-น้ำตาล ในปริมาณ 100 มก. ต่อวัน สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ประมาณ 100 แคลอรี
• แม้การบริโภคคาเฟอีนจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้จริง แต่นั่นไม่ถือเป็นการรักษาโรคอ้วน และหากดื่มมากเกินไป อาจเป็นอันตรายได้

ไม่นานมานี้ ทีมวิจัยจากสถาบันคาโรลินสกาในสวีเดน มหาวิทยาลัยบริสตอลในสหราชอาณาจักร และอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมกันศึกษาวิจัยถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “คาเฟอีน” ในเลือดและปริมาณการเผาผลาญ “ไขมัน” ในร่างกาย เพื่อหาว่าการดื่มชา-กาแฟ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

นักวิจัยค้นพบว่า เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนแบบไม่มีแคลอรี (ไม่ใส่นม-น้ำตาล) สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกายและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ และอาจนำไปใช้เป็นแนวทางในการใช้คาเฟอีนไร้แคลอรีเพื่อลดภาวะ “โรคอ้วน” แต่ทั้งนี้จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม

 

• ดื่ม ชา-กาแฟ แบบไม่ใส่นมน้ำตาล 100 มก. เพิ่มการเผาผลาญได้ 100 แคลอรี

ด้านทีมนักวิจัยกล่าวย้ำว่า การศึกษาของพวกเขาครั้งนี้ เป็นการศึกษาขยายผลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งอธิบายไว้ว่า “การดื่มกาแฟ 3-5 แก้วต่อวัน ซึ่งมีปริมาณคาเฟอีนโดยเฉลี่ย 70-150 มก. ช่วยลดไขมันในร่างกายและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ แต่การวิจัยชิ้นนั้นเป็นเพียงการศึกษาเชิงสังเกต ผลวิจัยชุดดังกล่าวจึงอาจจะยังแสดงผลลัพธ์ไม่ชัดเจน 

ดังนั้น พวกเขาจึงนำงานวิจัยชิ้นนั้นมาเป็นตัวตั้งในการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Mendelian Randomization” ซึ่งสามารถระบุผลลัพธ์ได้ชัดเจนผ่านหลักฐานทางพันธุกรรม (ระดับยีน)

จากการศึกษาใหม่ครั้งนี้ ทีมวิจัยค้นพบว่า มียีนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคาเฟอีน และการเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกายจริง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ในผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนแบบไม่ใส่นม-น้ำตาล ในปริมาณ 100 มก. ต่อวัน สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ประมาณ 100 แคลอรีต่อวัน

 

• คาเฟอีนช่วยเผาผลาญไขมันได้จริง แต่ไม่ควรดื่มเพื่อหวังผล "ลดน้ำหนัก"

ดร.คาทารินา คอส อาจารย์อาวุโสด้านโรคเบาหวานและโรคอ้วนจากมหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ ในสหราชอาณาจักร ออกมาเตือนผู้บริโภคว่า งานวิจัยนี้มุ่งค้นหาประโยชน์ของคาเฟอีนในเลือดที่มีผลต่อสุขภาพ ซึ่งอาจมีประโยชน์ในทางการแพทย์ ทั้งนี้เป้าหมายการวิจัยไม่ได้ต้องการแนะนำให้ดื่มกาแฟมากขึ้นเพื่อลดน้ำหนัก

ขณะที่ ดร.สตีเฟน ลอเรนซ์  รองศาสตราจารย์คลินิกที่โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัย Warwick ในสหราชอาณาจักร อธิบายเพิ่มเติมว่า การดื่มชา-กาแฟ ในปริมาณที่มากเพื่อหวังผลในการลดไขมันหรือ “ลดน้ำหนัก” ไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัย เนื่องจากบางคนอาจมีภาวะไวต่อคาเฟอีน ดังนั้น หากดื่มกาแฟมากๆ จะทำให้มีอาการใจสั่นและจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ การดื่มกาแฟมากๆ ต่อวันจึงไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน

“หลักฐานทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การบริโภคคาเฟอีนช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันแม้ในขณะพักผ่อน แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ถือเป็นการรักษาโรคอ้วน และหากดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือเป็นอันตรายได้” ดร.สตีเฟน กล่าว

ดร.สตีเฟน บอกอีกว่า หากต้องการลดไขมันร่างกาย ทางที่ดีควรควบคุมปริมาณการกินแคลอรีในแต่ละวัน และออกกำลังกาย เพียงแค่นี้ก็ให้ผลในการลดไขมัน และลดเสี่ยงเบาหวานได้เช่นกัน แถมไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะหัวใจสั่นจากเคเฟอีนแม้แต่น้อย

----------------------------------------

อ้างอิง : TheGuardian, ScienceAlert, Harvard T.H. CHAN