'กัลฟ์' จับมือ 'ทันตะ จุฬาฯ' สานต่อ GULF Sparks Smiles ปีที่ 3 เพื่อรักษากลุ่มเด็กพิเศษ
"กัลฟ์" จับมือ "ทันตะ จุฬาฯ" สานต่อโครงการผ่าน GULF Sparks Smiles ปีที่ 3 หน่วยที่ 4 ขยายขอบเขตการรักษาสู่กลุ่มเด็กพิเศษ และกองทุนอวัยวะเทียมสำหรับผู้บกพร่องทางช่องปากและใบหน้า
ปัญหาสุขภาพช่องปาก ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะฟันผุ และโรคเหงือก ซึ่งเป็นสองปัญหาที่พบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัยทำงานที่พบโรคฟันผุมากถึง 91.8% และส่วนหนึ่งไม่ได้เข้ารับการรักษา นำไปสู่การสูญเสียฟันเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุสูง ทั้งนี้ เมื่อดูอัตราการเข้าถึงการรักษาในไทย พบว่ามีประชาชนเข้าถึงการรักษาสุขภาพฟันเพียง 10% เท่านั้น
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ กัลฟ์ ร่วมกับ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สานต่อ "โครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน" ปี 3 หน่วยที่ 4 มอบงบประมาณ 8,500,000 บาท พร้อมขยายขอบเขตการรักษาสู่กลุ่มเด็กพิเศษ และกองทุนอวัยวะเทียมสำหรับผู้บกพร่องทางช่องปากและใบหน้า
การออกหน่วย ทันตกรรมเคลื่อน ที่ในครั้งนี้ ระดมทีมทันตแพทย์ นิสิต และบุคลากรมากกว่า 800 คน เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถ walk-in ลงทะเบียนเข้ารับบริการตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ และผ่าฟันคุด พร้อมทั้งมีการให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพฟัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีประชาชนสนใจเข้ารับบริการรวมกว่า 1,058 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 930 คน และเด็ก 128 คน
สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การเข้าถึงการรักษาทางทันตกรรมทำได้ยาก ช่วงนั้นหลายคนกลัวการต้องไปทำฟัน กัลฟ์ และ ทันตะ จุฬาฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของ ปัญหาด้านสุขภาพช่องปาก ที่อาจส่งผลต่อเนื่องในระยะยาว จึงได้ร่วมกันจัดโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อลงพื้นที่ไปยังบริเวณพื้นที่ห่างไกลจากหน่วยงานสาธารณสุข และรักษาฟันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้ชำนาญการที่เป็นทันตแพทย์จิตอาสาจากคณะทันตะ จุฬาฯ
"การดำเนินโครงการเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชน ได้ช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม และยังได้เห็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนของนิสิตทันตแพทย์ผ่านการออกหน่วย ทันตกรรมเคลื่อนที่ โครงการนี้ไม่เพียงสร้างโอกาสให้กับคนไข้ที่มารักษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับทีมทันตแพทย์และกลุ่มจิตอาสาด้วย"
ศ.ทพ.ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการสำรวจเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า คนไทยเข้าถึงการรักษาสุขภาพฟันไม่ถึง 10% ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย หากเทียบกับประเทศสิงคโปร์ หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งอยู่ที่ 40-50% โดย โรคทางช่องปาก ส่วนใหญ่ที่พบ ได้แก่ ฟันผุ และโรคเหงือก เป็นบทบาทของคณะทันตแพทยศาสตร์ ที่ยังต้องเดินหน้าออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลประชาชนที่เข้าไม่ถึงการบริการ
สำหรับโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ในครั้งนี้ ให้บริการตั้งแต่ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด และการทำฟันสำหรับเด็ก โดยมีทันตแพทย์อาสา อาจารย์แพทย์ และบัณฑิตศึกษา รวมถึงบุคลากรทั้งผู้ช่วยทันตแพทย์ หน่วยสนับสนุนระดมกำลังรวมแล้วกว่า 800-1,000 คน
ทั้งนี้ งบประมาณ 8,500,000 บาท ที่ทาง กัลฟ์ ให้การสนับสนุนส่วนหนึ่งจะนำไปปรับปรุงคลินิกทันตกรรม โครงการทันตกรรมปากเกร็ด ซึ่งคณะทันตแพทย์ศาสตร์ดูแลมามากกว่า 20 ปี รวมถึงต่อยอดความช่วยเหลือให้กับกลุ่มผู้พิการที่ต้องการอวัยวะเทียม เช่น ตาเทียม หูเทียม จมูกเทียม เป็นการคืนรอยยิ้มให้กับประชาชนและผู้ป่วยที่ยากไร้ต่อไป
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า หน้าที่หลักสำคัญประการหนึ่งของมหาวิทยาลัยคือ การรับใช้สังคม ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง การที่กัลฟ์ได้ร่วมสนับสนุนในการให้บริการด้านสุขภาพฟันแก่บุคคลทั่วไปในครั้งนี้ ในนามของมหาวิทยาลัย ต้องขอบคุณกัลฟ์มา ณ โอกาสนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีอีกครั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการออกไปรับใช้สังคมด้วยกัน
ศิรินรัตน์ ธีระทวีพงศ์ หนึ่งในประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เล่าว่า ปกติตนเองและครอบครัวรักษาฟันที่คณะ ทันตะ จุฬาฯ เป็นประจำและเคยเข้าร่วมโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่มาแล้วในปีที่ผ่านๆ มา โดยวันนี้ตั้งใจเดินทางมาถึงตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง กับลูกสาวและลูกชาย
"ขอบคุณคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้จัดทำโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ซึ่งช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการรักษา สามารถเดินทางเข้ามารับบัตรคิวได้ ไม่ต้องรอคิวนาน อย่างน้อยหนึ่งปีได้มีโอกาสเข้ามารับการตรวจสุขภาพฟัน อุดฟัน ทราบถึงปัญหา และได้ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง" ศิรินรัตน์ กล่าว
โครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ยังคงมุ่งมั่นส่งต่อความช่วยเหลือให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับการรักษาทางทันตกรรมที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังให้คนไทยรู้จักป้องกัน ดูแล รักษา สุขภาพช่องปากแบบถูกวิธี สะท้อนถึงพันธกิจของ กัลฟ์ ภายใต้แนวคิด "Powering the Future, Empowering the People" ที่มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอย่างยั่งยืน
"อวัยวะเทียม" เพิ่มรอยยิ้มผู้ป่วย
จากจุดเริ่มต้นที่ได้มีการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ห่างไกลและได้สร้างรอยยิ้มให้กับทางประชาชนในพื้นที่ต่างๆ นำมาสู่การต่อยอดความช่วยเหลือให้กับ กลุ่มผู้พิการที่ต้องการอวัยวะเทียม ซึ่งอยู่ในการดูแลของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ไม่ใช่เพียงการสร้างรอยยิ้ม แต่คือการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
รศ.ทพ.ดร.นิยม ธำรงค์อนันต์สกุล อาจารย์ประจำภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์ กล่าวว่า คนไข้แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ไม่มีหู ตา จมูกตั้งแต่กำเนิดซึ่งมีปริมาณค่อนข้างมาก ถัดมาก็คือ อุบัติเหตุ และผ่าตัด ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี ที่หน่วยบูรณะช่องปากและใบหน้ามีผู้ป่วย 5-6 คนต่อวัน และคาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากอวัยวะเทียมค่าใช้จ่ายสูง และยังไม่มีสิทธิการรักษาที่ครอบคลุม ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง
"การสนับสนุนของกัลฟ์ในครั้งนี้ จะช่วยผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่ไม่มีกำลังทรัพย์ได้เข้าโครงการทุน เพื่อสร้างโอกาสให้คนไข้ได้เข้าถึงการรักษา สิ่งที่เราได้คือ ความสุขจากการที่ได้เห็นเขาจิตใจดีขึ้น หากถามว่าเราจะวัดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจากไหน ก็จากรอยยิ้ม เพราะรอยยิ้มผู้ป่วยเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น" รศ.ทพ.ดร.นิยม กล่าว
"สุขภาพช่องปาก" ใครว่าไม่สำคัญ
- ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ ฟันผุ โรคเหงือก
- วัยทำงาน พบโรคฟันผุมากถึง 91.8%
- มีฟันผุที่ไม่ได้รักษา 43.3%
- เริ่มมีการผุบริเวณซอกฟัน มีหินน้ำลาย เลือดออก 75.5%
- มีร่องลึกปริทันต์ตั้งแต่ 4 มิลลิเมตร ขึ้นไป 25.9%
- สาเหตุนำไปสู่การสูญเสียฟันเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุสูงถึงประมาณ 10 ซี่/คน
ดูแลสุขภาพฟันง่ายๆ ด้วยตนเอง
- ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เป็นประจำทุกวัน
- แปรงนานครั้งละ 2 นาที
- ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันทุกซี่
- เปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อปลายขนแปรงบาน หรือทุก 3-4 เดือน
- สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากอมและกลั้วคอ 1-2 นาที
- ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
อ้างอิง สสส. , คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย