'โรคปอดอักเสบในเด็ก' ระบาดจีน 'รมว.สธ.' สั่งกรมควบคุมโรคเฝ้าระวังใกล้ชิด

'โรคปอดอักเสบในเด็ก' ระบาดจีน 'รมว.สธ.' สั่งกรมควบคุมโรคเฝ้าระวังใกล้ชิด

'โรคปอดอักเสบในเด็ก' ระบาดที่จีน 'รมว.สธ.' ระดมนักวิชาการด้านโรคติดเชื้อร่วมถก สั่งกรมควบคุมโรคติดตามใกล้ชิด พร้อมเตรียม 4 มาตรการรองรับ ขณะที่ WHO ยืนยันเป็นเชื้อเดิม

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 จากการระบาดของ 'โรคปอดอักเสบในเด็ก' ที่ประเทศจีน ทำให้มีข้อกังวลเรื่องการแพร่ระบาดมายังประเทศไทย ล่าสุด 'กระทรวงสาธารณสุข' ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ได้แก่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ, ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ และหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรครองรับ 

 

 

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันชัดเจนว่า โรคปอดอักเสบในเด็กที่ประเทศจีน เกิดจากเชื้อก่อโรคตัวเดิมที่ว่างเว้นการระบาดช่วง 3 ปีในช่วงของการเข้มงวดมาตรการโควิด แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุด ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อมาหารือเพื่อเตรียมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคแล้ว 

 

 

รมว.สาธารณสุข ระบุต่อว่า หากสถานการณ์มีความจำเป็น จะเพิ่มความเข้มข้นใน 4 มาตรการ คือ 

1. มาตรการเฝ้าระวังโรค ให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด กรณีพบผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ให้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค หากพบผู้ป่วยปอดอักเสบจำนวนมากผิดปกติ หรือบุคลากรทางการแพทย์เป็นปอดอักเสบ หรือพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลันหรือเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบสอบสวนและเก็บตัวอย่างส่งตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและควบคุมโรคต่อไป 

 

2. มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ให้สื่อสารความเสี่ยงกับประชาชนทั้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจและผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ 

 

3. มาตรการด้านการรักษา ให้โรงพยาบาลเตรียมชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ยา เวชภัณฑ์ และเตียง เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินตามแผนการตอบโต้สถานการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เมืองท่องเที่ยว 

 

และ 4. กรณีพบการระบาดของโรคปอดอักเสบรุนแรงไม่ทราบสาเหตุเป็นวงกว้างในต่างประเทศ จะยกระดับการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค โดยด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติคัดกรองผู้มีอาการทางเดินหายใจและเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อก่อโรค รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้ทันที 

 

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนตระหนักเพื่อระมัดระวังป้องกัน แต่ไม่ต้องวิตกกังวล และให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะต่อไป