สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก 'ไมโครไบโอม' สมดุลดี สุขภาพดี

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก 'ไมโครไบโอม' สมดุลดี สุขภาพดี

โรงพยาบาลวิมุต จับมือ 'แอมิลิ (AMILI)' บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านจุลชีพในลำไส้ นำเสนอนวัตกรรมในการตรวจ 'ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร' และ การนำวิธีปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระ (Fecal Microbiota Transplantation: FMT) เข้าสู่ตลาดประเทศไทย

Key Point  :

  • จุลินทรีย์ในลำไส้ หัวใจสำคัญของการทำงานระบบต่างๆ ในร่างกาย หากเกิดภาวะไม่สมดุล เราอาจเผชิญกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ
  • ไมโครไบโอม ระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งรวมโพรไบโอติกทั้งตัวดีและไม่ดีที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย 
  • การรักษาสมดุล ไมโครไบโอมในลำไส้ เป็นวิธีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโดยรวมเพื่อป้องกันโรคร้ายและสร้างสุขภาพกายและใจที่ดีในระยะยาว

 

จุลินทรีย์ เป็นส่วนสำคัญในร่างกาย หากเกิดความไม่สมดุล อาจส่งผลต่อร่างกายและโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ระบบหลอดเลือด ถัดมา คือ ระบบทางเดินอาหาร ท้องอืด ลำไส้แปรปรวน ติดเชื้อ ในบางกลุ่มอาจมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง รวมถึง ระบบภูมิคุ้มกัน ท้ายที่สุด ยังส่งผลกระทบทางอารมณ์ สมาธิสั้น นอนไม่หลับ เป็นต้น

 

นายแพทย์กุลเทพ รัตนโกวิท แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหารและตับระบบประสาทและการเคลื่อนไหวทางเดินอาหาร หัวหน้าศูนย์ทางเดินอาหารและตับ รพ.วิมุต กล่าวว่า หลายคนอาจไม่ทราบว่าการดูแลสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการทำงานที่เป็นปกติของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย หากจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดภาวะไม่สมดุล เราอาจเผชิญกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ อาทิ ลำไส้แปรปรวน ท้องผูก ท้องเสียเป็นประจำ ระบบการเผาผลาญไม่ดี อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่ายๆ หรือมีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

“อีกทั้ง การนอนไม่หลับ เครียด ในมุมของอารมณ์มีความเกี่ยวเนื่อง เนื่องจากความสมดุลผิดปกติไป หากนอนไม่หลับ ร่างกายไม่แข็งแรง ก็จะมีปัญหาตามมา ร่างกายจะเชื่อมโยงกัน เป็นบันไดขั้นต่อๆ ไป มีความผิดปกติจุดหนึ่งก็จะส่งผลต่อระบบอื่นๆ”

 

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก \'ไมโครไบโอม\' สมดุลดี สุขภาพดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

ตรวจ 'ไมโครไบโอม' ในระบบทางเดินอาหาร

ล่าสุด โรงพยาบาลวิมุต เดินหน้ายกระดับการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุม ภายใต้กลยุทธ์ “Outside In” มุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้บริการยิ่งขึ้น ตลอดจนเทรนด์สุขภาพยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ประกาศความร่วมมือกับ 'แอมิลิ (AMILI)' บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านจุลชีพในลำไส้ พร้อมนำนวัตกรรมในการตรวจ 'ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร' มาใช้ในโรงพยาบาล เตรียมเปิดแล็บภายในปีนี้

 

ไมโครไบโอม (Microbiome) เป็นชื่อเรียกระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งรวมโพรไบโอติกทั้งตัวดีและไม่ดีที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย โดยหากไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร (Gut Microbiome) มีความสมดุล กล่าวคือ มีจุลินทรีย์ดีหลากหลายสายพันธุ์ในจำนวนมากพอ ก็จะช่วยทำหน้าที่ย่อยอาหาร เสริมการเผาผลาญ ดูแลระบบภูมิคุ้มกัน สังเคราะห์วิตามิน และช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย สมอง และอารมณ์ได้

 

ทั้งนี้ ‘ไมโครไบโอม’ ได้รับการศึกษาวิจัยมาอย่างต่อเนื่องและพบว่า การรักษาสมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้ เป็นวิธีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโดยรวมเพื่อป้องกันโรคร้ายและสร้างสุขภาพกายและใจที่ดีในระยะยาว ปัจจุบัน วงการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และความงามทั่วโลกให้ความสนใจการดูแลสุขภาพด้วยการปรับสมดุลจุลินทรีย์ให้ร่างกายทั้งภายในและภายนอก

 

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก \'ไมโครไบโอม\' สมดุลดี สุขภาพดี

 

 

ตลาด ‘ไมโครไบโอม’ ทั่วโลกมูลค่า 743 ล้านดอลลาร์

นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รพ. วิมุต เล็งเห็นถึงการตื่นตัวของคนไทยและทั่วโลกในเรื่องการดูแลสุขภาพก่อนล้มป่วย ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์ไมโครไบโอมในลำไส้กำลังเป็นเทรนด์สุขภาพมาแรง

 

โดย Research Reports World (RRW) เผยว่า ตลาดไมโครไบโอม ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 743.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และจะแตะ 3,523.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตแบบทบต้น (CAGR) ที่ 29.61%

 

“รพ. วิมุต มุ่งเสาะหานวัตกรรมใหม่ ๆ มาเสริมทัพบริการด้านสุขภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดภายใต้กลยุทธ์ Outside-In เดินหน้าพัฒนาธุรกิจจากมุมมองของผู้ใช้บริการ เราได้ลงนามร่วมทุนกับแอมิลิ (AMILI) บริษัทเฮลท์เทคชั้นนำจากสิงคโปร์ที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านจุลชีพในลำไส้ เพื่อเปิดตัว Gut Microbiome Test โปรแกรมตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้เฉพาะบุคคลที่โรงพยาบาล พร้อมมุ่งช่วยให้คนไทยเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างตรงจุด ช่วยให้แพทย์สามารถแนะนำการปรับสมดุลจุลินทรีย์ให้เหมาะกับแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

 

"ในอนาคต รพ. วิมุต มีแผนจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยด้านไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารแห่งแรกในไทย ร่วมกับ AMILI ช่วยยกระดับการศึกษาไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารจากกลุ่มตัวอย่างคนไทยเพื่อนำข้อมูลไปใช้พัฒนาการรักษาโรคและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาอาหารเสริมโพรไบโอติกส์เพื่อเสริมการรักษาโรคทางเดินอาหาร ลำไส้แปรปรวน และโรคอ้วน” นายแพทย์พิชิต กล่าวเสริม

 

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก \'ไมโครไบโอม\' สมดุลดี สุขภาพดี

 

สำหรับ โปรแกรม Gut Microbiome Test ที่ รพ.วิมุต ช่วยตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ผ่านการตรวจอุจจาระ เพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ความสมดุล (Balance) และความหลากหลาย (Diversity) ของจุลินทรีย์ในลำไส้ และวางแผนการปรับสมดุลในลำไส้ ซึ่งรวมถึงการปรับการรับประทานอาหารและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้คนไข้แต่ละคนได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ อาจแนะนำให้รับประทานโพรไบโอติกส์ที่มีสูตรและสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่เหมาะกับสุขภาพลำไส้ตามผลการตรวจจุลินทรีย์เฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากโพรไบโอติกส์

 

ตรวจ ไมโครไบโอม อย่างไร

สำหรับ ขั้นตอนการตรวจ Gut Microbiome Test เหมือนการตรวจอุจาระทั่วไป แต่ปัจจุบันยังไม่มีห้องปฏิบัติการในไทยต้องส่งไปแปรผลที่ห้องปฏิบัติการของ AMILI ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยใช้เวลาราว 14 - 21 วัน สามารถจัดกรุ๊ปตัวโรค มุ่งเป้าเรื่องความสมดุลได้แม่นยำ รวมถึง แนะนำเรื่องอาหาร ตรวจอาหาร การรักษา ครบวงจร

 

สามารถรู้ความเสี่ยงของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน น้ำหนักเกิน ไขมัน หลอดเลือดหัวใจ กลุ่มภาวะภูมิคุ้มกัน เป็นต้น โดยช่วงอายุที่ควรตรวจ ยังไม่มีข้อห้ามด้านอายุ แต่ที่แนะนำ คือ หลังช่วงวัยรุ่น เพราะจุลินทรีย์ค่อนข้างนิ่ง

 

นายแพทย์เจเรมี ลิมป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง AMILI กล่าวว่า AMILI มีฐานข้อมูลและตัวอย่างไมโครไบโอมจากคนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังเป็นธนาคารไมโครไบโอมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราได้พัฒนา 'AMILI PRIME' เครื่องมือวิเคราะห์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ที่ทำการทดสอบ วินิจฉัย ทำนายอัลกอริธึม และปรับเปลี่ยนไมโครไบโอมได้อย่างแม่นยำ

 

ความร่วมมือครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของ รพ.วิมุต ในการยกระดับบริการสุขภาพขึ้นไปอีกขั้นผ่านนวัตกรรมการตรวจไมโครไบโอม เราจะร่วมกันนำเสนอการตรวจสอบสุขภาพลำไส้ และ การนำวิธีปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระ (Fecal Microbiota Transplantation: FMT) เข้าสู่ตลาดประเทศไทย AMILI พร้อมทำงานร่วมกับโรงพยาบาลเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ตามความตั้งใจของ รพ. วิมุตในการดูแลให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

 

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก \'ไมโครไบโอม\' สมดุลดี สุขภาพดี

 

อุจจาระ รักษาโรค

สำหรับ การปลูกถ่ายเชื้อจุลินทรีย์ในอุจจาระ (Fecal Microbiota Transplantation: FMT) เป็นอีกหนึ่งวิทยาการทางการแพทย์ วารสารข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากกรุงบรัสเซลส์ โดย สำนักงานที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ กรุงบรัสเซลส์อธิบายว่า หมายถึง การนำอุจจาระของคนที่มีสุขภาพแข็งแรง มีเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีไปใส่ในลำไส้ของผู้ติดเชื้อ เพื่อเปลี่ยนไมโครไบโอตาในลำไส้และจัดการกับแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรค

 

การรักษาแบบ FMT มีแนวคิดในการนำอุจจาระของผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง นำมาใส่ในลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วย ระหว่างการส่องกล้องตรวจลำไส้ (colonoscopy) ซึ่งการนำจุลินทรีย์ที่มีชีวิตจากอุจจาระคนหนึ่งเข้าสู่ลำไส้ใหญ่อีกคน เสมือนเป็นการเปลี่ยนถ่ายหรือการนำสิ่งมีชีวิตไปใส่ จึงเรียกว่า Faecal Transplantation ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มศักยภาพของจุลินทรีย์ประจำถิ่นชนิดดีที่เสียหายจากการใช้ยาปฏิชีวนะ

 

อย่างไรก็ตาม การบริจาคอุจจาระไม่ใช่เรื่องง่าย นายแพทย์เจเรมี ลิมป์ อธิบายว่า "ที่ผ่านมา พบว่า คนสนใจบริจาคอุจจาระ จาก 100 คน สามารถบริจาคได้เพียง 2 คน หรือ 2% เท่านั้น โดยกระบวนการที่จะตรวจว่าสามารถบริจาคได้หรือไม่มีความยาวนานมาก ไม่ว่าจะการตรวจว่ามีเชื้อแบคทีเรียอันตรายจากการบริจาคหรือไม่"

 

นายแพทย์กุลเทพ กล่าวเสริมว่า "ในแง่ของการกระบวนการมีการคัดกรองหลายอย่าง เช่น อุจจาระคนสุขภาพดี มีการคัดกรองเชื้อโรค ส่วนประกอบต่างๆ กระบวนการทำความสะอาดสเตอไรด์ เพื่อให้เหลือเชื้อที่ดี โดยมีทั้งรูปแบบ แคปซูล และ ถุงแบนเก็บในความเย็นสูง การเลือกใช้และปริมาณ ขึ้นอยู่กับความเจ็บป่วยของคนไข้ ทั้งนี้ การทานโพรไบโอติกส์ส่วนใหญ่จะเน้นการป้องกัน ส่วน FMT จะเน้นการรักษา"

 

สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้ รู้จัก \'ไมโครไบโอม\' สมดุลดี สุขภาพดี