‘ปลูกผมถาวร’ ความนิยมทั่วโลก ทางออก ‘ผมบาง ผมร่วง หัวล้าน’

Key Point : 

• การปลูกผม เป็นวิธีแก้ไขปัญหาผมบาง ผมร่วง หัวล้าน ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัย ทำให้การปลูกผมมีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
• ในปี 2562 มีการประเมินว่า เคสผ่าตัด ปลูกผม ทั่วโลกมีมากถึง 735,312 ครั้ง ซึ่งมากกว่าปี 2559 ถึง 16%
• เทคนิคด้านศัลยกรรมปลูกผม มีด้วยกัน 2 เทคนิค ได้แก่ เทคนิค FUE แบบไม่ต้องผ่าตัด และ เทคนิค FUT ตัดหนังศีรษะท้ายทอย เพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ

 

อุตสาหกรรมการปลูกผมถาวรทั่วโลกในปี 2564 พบว่า มีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,677.61 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดการณ์ว่าในปี 2570 จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 8,777.56 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโต CAGR สูงถึง 7.98%

 

สอดคล้องกับการสำรวจจาก สมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery) ในปี 2562 ที่ได้ประเมินเคสผ่าตัด ปลูกผม ทั่วโลกมีมากถึง 735,312 ครั้ง ซึ่งมากกว่าปี 2559 ถึง 16% โดยแถบอเมริกาเหนือเป็นบริเวณที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด

 

ขณะเดียวกัน แถบเอเชีย-แปซิฟิก เป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วสุดในอุตสาหกรรมนี้ในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 35% ในปี 2576 และส่งผลให้ตลาดปลูกผมโลก ขยายตัวกว่า 200,000 ล้านบาท

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• 'ผมร่วง'แบบไหน? ผิดปกติ สัญญาณเตือนส่อเกิดโรค
• ธุรกิจปลูกผม ตลาดที่นักลงทุนจับตามอง
• "ผมบาง ผมร่วง" รักษาได้ + "13 อาหารบำรุงเส้นผม"

 

 

เทคนิค 'การปลูกผม' มีกี่วิธี

การปลูกผม ถือเป็นวิธีการรักษาที่ได้มาตรฐานและได้ผลถาวร ในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์นั้นมีการยอมรับมากว่า 30 ปี ในต่างประเทศถือเป็นแนวทางรักษาที่ได้มาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบเชิงค่าใช้จ่ายในระยะยาว

 

พญ.รมิดา เกษมสมพร เป็นแพทย์ปลูกผมประจำ คลินิกปลูกผม รักษาผมร่วง ผมบาง ที่ Hair Restore by DHT Clinic ในเครือ ORIGIN HEALTHCARE เผยว่า ผมบาง ผมร่วง หัวล้าน เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก การปลูกผม จึงเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัย ทำให้การปลูกผมมีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

เทคนิคด้านศัลยกรรมปลูกผม มีด้วยกัน 2 เทคนิค ได้แก่

1. เทคนิค FUE (Follicular Unit Excision) ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เครื่องมือเฉพาะในการสกัดรากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือหัวล้าน เทคนิคนี้ช่วยลดความเจ็บปวดและการเกิดแผลเป็นได้อย่างมาก

2. เทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) เทคนิคการศัลยกรรมปลูกถ่ายเส้นผมที่เป็นการตัดเอาหนังศีรษะด้านหลังบริเวณท้ายทอยที่มีรากผมที่แข็งแรงและมีอายุที่ยืนนานไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ

 

“การปลูกผม เป็นวิธีแก้ไขปัญหาผมบาง ผมร่วง หัวล้าน ที่ได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและเห็นผลชัดเจน ถาวร ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัย ทำให้การปลูกผมมีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ”

 

 

 

ปลูกผมมีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก DHT Clinic อธิบายว่า การปลูกผม ถือเป็นการผ่าตัดเล็กที่มีภาวะแทรกซ้อนน้อย และถึงแม้จะเกิดขึ้นก็มักไม่มีอันตรายรุนแรง ยกตัวอย่างเช่น บวมอักเสบ ติดเชื้อ อาการชาเฉพาะที่ (เนื่องจากการตัดหนังศีรษะต้องมีการทำลายเส้นประสาทฝอยบางส่วน) แต่ทั้งนี้อาการผิดปกติต่างๆ จะกลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน

 

ผมที่ปลูกจะมีอัตราการขึ้นประมาณร้อยละ 90 แต่ความหนาแน่นและความพึงพอใจ ขึ้นกับจำนวนกราฟและพื้นที่ที่ทำการปลูก ในส่วนนี้แพทย์จะให้คำแนะนำอย่างละเอียดเมื่อเข้ารับการปรึกษาอีกครั้ง

 

ระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่จะได้ผลพึงพอใจคือ 8- 10 เดือน ระยะแรกหลังการผ่าตัด เส้นผมจะร่วงไปก่อนโดยรากผมจะเข้าสู่ระยะพักประมาณ 4 เดือน จึงเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ อัตราการยาวของเส้นผมจะเท่ากับเส้นผมปกติตามธรรมชาติ ดังนั้น ระยะเวลาที่ผมจะยาวทันกันและให้ผลปรากฏที่สวยงาม จึงอยู่ที่ประมาณ 8-10 เดือน

 

สำหรับ พญ.รมิดา เกษมสมพร หรือ 'หมอฝน' แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมปลูกผม เมื่อปลายปี 2566 ได้ คว้ารางวัลอันดับ 1 ของโลกจากการสอบศัลยกรรมปลูกผมอเมริกันบอร์ด (ABHRS) และ ยังเป็นแพทย์คนแรกของประเทศไทยที่ได้เกียรติรับมอบ 2 รางวัลใหญ่ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ คือ รางวัล Norman Orentreich, M.D. Award และ James E. Arnold, M.D. Award ที่งานประชุมแพทย์ปลูกผมโลก ครั้งที่ 31 (World Congress of Hair Restoration Surgery) เมื่อปี 2023 ณ เมืองเดลี ประเทศอินเดีย ที่ผ่านมา

 

 

"คนไข้หลายคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม นอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจแล้ว บางคนอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจด้วย การเป็นหมอปลูกผม ได้ช่วยรักษาและสร้างความมั่นใจให้คนไข้มีความสุข ถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้หมอฝน ตั้งใจศึกษาทุ่มเท ค้นคว้าเทคนิค ความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อรักษามาตรฐานในวิชาชีพ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้แก่คนไข้" พญ.รมิดา กล่าว