'ตรุษจีน' เลือกอาหารได้มาตรฐาน บริโภคปลอดภัย ด้วย หลัก 4 ล.

 

เทศกาลตรุษจีน สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การเลือกซื้อวัตถุดิบ ที่นำมาปรุง ประกอบอาหาร รวมถึงการเก็บรักษาอาหาร เพื่อนำไปบริโภคต่อ หากมีการเลือกคัดสรรวัตถุดิบที่ไม่มีคุณภาพ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการแนะนำการเลือกวัตถุดิบ การล้าง การปรุง และการเก็บ ด้วยหลัก 4 ล.

 

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในงานแถลงข่าว ‘เลือกซื้ออาหารสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน รับเทศกาลตรุษจีน’ โดยระบุว่า เทศกาลตรุษจีน 2567 ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของคนไทยเชื้อสายจีน ที่มีการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งยึดถือกันมายาวนาน โดยในวันจ่าย เป็นวันที่ประชาชนต้องออกไปจับจ่าย ซื้ออาหารประเภทผัก ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ

 

จากผลสำรวจของ อนามัยโพล พบว่า กิจกรรมที่ประชาชนทำในเทศกาลตรุษจีน อันดับแรก คือ การไปซื้อของไหว้ในวันจ่ายที่ตลาด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้อยละ 37 โดยในวันไหว้ มีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์เป็นหลัก

• หลังจากการไหว้ มีการนำมาอุ่นร้อน เพื่อบริโภค ร้อยละ 58
• แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ร้อยละ 21
• บริโภคทันทีโดยไม่ได้อุ่นร้อยละ 7 ตามลำดับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"ของไหว้" วันตรุษจีน 2567 ต้องมีอะไรบ้าง? เสริมมงคลชีวิตเฮงร่ำรวย

รู้วันจ่าย "ตรุษจีน 2567" วันไหว้ วันเที่ยว ตรงกับวันไหน ต้องทำอะไรบ้าง?

“ตรุษจีน 2566” รู้วิธีไหว้เปิดดวงขอเงินจาก ”เทพเจ้าโชคลาภ” และข้อห้ามทำ

 

 

หลัก 4 ล. บริโภคอาหารปลอดภัย

กรมอนามัย มีความห่วงใยสุขภาพประชาชน ในการเลือกซื้ออาหาร และเก็บรักษาของไหว้ต่างๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งอาจจะไม่สะอาด มีการปนเปื้อนสารพิษ หรือสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ที่ส่งผลทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน อุจจาระร่วง โรคหูดับ โรคพยาธิ ดังนั้น ประชาชน กินอยู่อย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงแนะนำหลัก 4 ล. ดังนี้

 

1. เลือกซื้อของไหว้ตรุษจีน ให้สะอาด ปลอดภัย ควรเลือกซื้อจากสถานที่ที่ผลิต จำหน่าย ที่น่าเชื่อถือ หรือมีเครื่องหมายรับรองจากทางราชการ และควรเลือกซื้ออาหารที่มีความสดใหม่ เนื้อแน่น ไม่ยุ่ย สะอาด ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น มีสีสดตามธรรมชาติ ไม่ขึ้นรา ไม่มีเศษดินหรือคราบสกปรกอยู่ในบรรจุภัณฑ์ ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมดูวันหมดอายุก่อนตัดสินใจซื้อ

 

2. การล้างผัก ผลไม้ แนะนำ 3 วิธี คือ

• ล้างด้วยน้ำไหล โดยแช่ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผัก ถูไปมานาน 2 นาที เหมาสำหรับการล้างผักจำนวนน้อย
• แช่ในน้ำส้มสายชู 5% ในอัตราส่วนน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด
• ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต หรือ เบกกิ้งโซดา ครึ่งช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้น ล้างด้วยน้ำสะอาด ลดสารตกค้างในผักผลไม้

 

 

3. หลีกเลี่ยงอาหาร หวานจัด เค็มจัด กินอาหารสะอาด ปลอดภัย ปรุงสุกใหม่ ไม่ทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

 

4. การลดระยะเวลาในการเก็บอาหาร อาหารไม่ควรวางทิ้งไว้นานเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่บูด เสียง่าย เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ ครีม หรืออาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น สลัด ซูชิ

 

ส่วนอาหารที่วางทิ้งไว้นานๆ อาหารที่ปรุงสุกแล้ว ควรนำไปอุ่นก่อนทุกครั้งก่อนรับประทาน ขณะที่อาหารที่เสียง่าย ควรเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศา หรือเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมต่ออาหารแต่ละประเภท แยกอาหารแต่ละประเภท ทั้ง สุก ดิบ ไม่ปะปนกัน

 

“อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่มีการจับจ่ายซื้อของทั้งในตลาด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ขอให้เลือกซื้ออาหาร ของไหว้ที่สะอาด ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ เลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงต่างๆ มีการล้างผักผลไม้ที่ถูกวิธี และเก็บอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสมของอาหารแต่ละประเภท เพื่อลดความเสี่ยงเกิดโรค และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนจะมีสุขภาพที่ดี ไม่เป็นโรคในเทศกาลตรุษจีนนี้” นพ.อรรถพล กล่าวทิ้งท้าย