โหลดเลย! "แอป SkinX" บริการTelemedicine พบแพทย์ออนไลน์ง่าย แค่ปลายนิ้ว

ทุกวันนี้ชีวิตของเรามักวนเวียนอยู่กับหน้าจอและสื่อดิจิทัล ทั้งทำงานและเพื่อผ่อนคลายการดูแลสุขภาพก็เช่นกันไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเสมอไป อยู่ที่บ้านก็สามารถหาหมอได้ เพราะปัจจุบันนี้ มีเทคโนโลยี "Telemedicine" หรือแอปพลิเคชันหาหมอออนไลน์ ที่เข้ามาช่วยทำให้การหาหมอเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สามารถพูดคุยกับคุณหมอจากที่บ้านได้ผ่านระบบ Video Call เห็นหน้ากันแบบ Real Time หรือทาง Line เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพด้านต่าง ๆ เรียกว่าปรึกษาหมอได้ทุกที่ทุกเวลา

พร้อมทั้งสั่งจ่ายยาส่งให้ทางไปรษณีย์ สะดวก รวดเร็ว แค่เพียงยกมือถือก็ปรึกษาหมอได้แล้ว อุ่นใจเหมือนอยู่ใกล้หมอตลอดเวลา และหากพูดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน เกี่ยวกับสุขภาพความงาม เรื่องของผิวพรรณ ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ด้วยยอดการดาวน์โหลดกว่า 500,000 ครั้ง นั่นก็คือ SkinX telemedicine application ที่ทำให้เราเข้าถึงการหาแพทย์ผิวหนังได้อย่างง่ายแค่ปลายนิ้ว 

หมอผิง - พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์ม SkinX กล่าวว่า เป็นคุณหมอด้านผิวหนังและ Anti-Aging และก็ได้มีโอกาสช่วยบริหารงานโรงพยาบาลสมิติเวชจากการเป็นผู้ช่วยผู้อํานวยการที่ดูแลในส่วนของ Digital Marketing และเริ่มมาดูงาน Innovation ของโรงพยาบาล และได้ทำตัว Mobile Application ของโรงพยาบาลเป็น Virtual Hospital

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

หน้าร้อน!เช็กโรคฮิตที่พบบ่อย รู้ก่อนป้องกันได้

คลิก !!“แอปฯ ร้านยาออนไลน์” หาหมอ อยู่บ้านก็ตรวจสุขภาพ ปรึกษาได้ทุกที่

จากแพทย์ผิวหนัง สู่ CEO SkinX 

จากนั้นเริ่มมองเห็นว่าปัญหาผิวนั้นเป็นปัญหาที่ที่เจอบ่อย ซึ่งคนก็ปรึกษาทาง Telemedicine ค่อนข้างเยอะ ประกอบกับส่วนตัวเองที่เป็นคุณหมอผิวหนังอยู่แล้วจึงมองแยกออกมาเป็นเฉพาะผิวหนังและน่าจะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ จึงก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อที่จะทำ Telemedicine ที่ให้บริการในด้านการปรึกษาปัญหาผิวและความงาม ถ้าในแง่บทบาทของหมอเองก็ยังเป็นคุณหมอที่ออกตรวจที่โรงพยาบาลอยู่เหมือนเดิม แต่ก็จะแบ่งเวลามาทำงานบริหารของ SkinX ด้วย

หลังจากที่เคยทำ Telemedicine ให้กับโรงพยาบาลทำให้มีประสบการณ์ และเคยตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าอยากจะทำ ซึ่งก่อนที่จะได้มาเป็น CEO ก็ไม่ได้มีการโหวตหรือแต่งตั้งอะไรให้มาเป็น เรียกว่าเป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีมมากกว่า ซึ่งจะเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกัน 3 คน หมอดูทางด้านทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คที่ดี  

จุดเริ่มต้นของ SkinX แอปพลิเคชัน Telemedicine  มาจาก Mobile Application ของโรงพยาบาลเป็น Virtual Hospital ซึ่งหมอเป็นคุณหมอที่โรงพยาบาลสมิติเวช ซึ่งเห็นว่าปัญหาผิวหนังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ถ้าเราไปดูตัวเลขพบว่าอัตราส่วนคนไทย 1 ต่อ 3 โดยหมอผิวหนังส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็เมืองใหญ่ ซึ่งทำให้คนที่อยู่ต่างจังหวัด การเข้าถึงหมอผิวหนังทำได้ยาก นอกจากนี้ถ้าเราวิเคราะห์ไปในปัญหาเวลาการเดินทางไปคลินิกบางทีไม่รู้เลยว่าหมอจบอะไรมาหรือหมอเป็นสไตล์ไหน เราจึงทำเป็นระบบที่ง่ายขึ้นมาเพื่อให้กับผู้เข้าใช้บริการ ได้รับการตอบโจทย์ที่ดีที่สุด เช่น ทำให้ไม่ว่าคนไข้จะอยู่ที่ไหนของเมืองไทยก็สามารถเข้าถึงหมอผิวหนังที่เป็นหมอเฉพาะทางได้จริง สามารถดูประวัติแพทย์ดูรีวิวได้ในแอพพลิเคชั่นว่าหมอท่านนี้เป็นอย่างไร จบอะไรมา และดูแลเฉพาะด้านอะไร 

ความท้าทายของ Skin X 

แอปฯ SkinX ถือกำเนิดในช่วง Covid-19 ระบาด โดยเราพบว่าปัญหาหรือจุดอ่อนที่เป็น Pain point ของคนไข้ในช่วงเวลาดังกล่าวมีหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีจำนวนจำกัด, ไม่สามารถประเมินเวลาในการพบแพทย์ได้, ไม่ทราบค่ารักษาและค่ายาที่แน่นอน, หลังพบแพทย์ต้องรอคิวนานเพื่อชำระเงิน, สถานพยาบาลเปิดเฉพาะเวลาทำการ, ต้องทำประวัติก่อนพบแพทย์, ต้องมีการทำนัดหมายก่อนเข้ารับการรักษา, ไม่สามารถเลือกแพทย์ได้ ประกอบกับช่วงสถานการณ์ระบาดของ  

Covid-19 คนไข้มีความกังวลในการเดินทางมารับการบริการที่โรงพยาบาลหรือคลินิกค่อนข้างมาก เราจึงพัฒนาแอปพลิเคชัน SkinX ขึ้นมา เพื่อแก้จุดอ่อนเหล่านั้น โดยมองว่าบริการ Telemedicine เป็นบริการที่ตอบโจทย์คนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดการเดินทางของคนไข้ได้อีกด้วย โดยผู้เข้าใช้บริการจะเป็นคนกลุ่ม GenY หรือ Gen Z ส่วนใหญ่ รวมถึงการมี Skincare product ต่าง ๆ ที่เป็นของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง product ที่เป็น Hospital Exclusive และจุดเด่นของเราอีกอย่างก็คือเรามีเภสัชกรที่ให้คำปรึกษาฟรีตลอด เภสัชกร SkinX ทุกคนได้ถูกเทรนให้เป็นเภสัชกรที่เชี่ยวชาญในเรื่องการแนะนําเรื่อง 

ฉะนั้นการจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยการให้ความรู้และเชื่อมั่นว่า เรื่องผิวเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถือเป็นความท้าทายของนักพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างมาก SkinX มีหลักการพัฒนาแอปฯ โดยยึดผู้ใช้งานเป็นหลัก (User Centric) โดยได้นำความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากลูกค้ามามาปรับปรุง ต่อยอดให้ใช้งานได้จริงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้แอปฯ ที่สะดวกรวดเร็วของลูกค้า ส่วนในฝั่งของแพทย์และเภสัชกรผู้ให้บริการนั้นก็ใช้หลักการออกแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบมีความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  

หัวใจสำคัญที่ทำให้ แอปฯ SkinX 

1. โฟกัสที่ user ซึ่งเราจะเอาข้อมูลของ user เข้ามา ไม่ว่าจะคนที่รักเราหรือคนที่อยู่ ๆ เลิกรักเรา ซึ่งบอกว่าการที่เราโฟกัสที่ user ตลอดและฟังเสียง user ตลอดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราปรับ ได้เรื่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ  

 2.ให้ความสำคัญกับข้อมูล ด้วยความที่เราวางแผนตั้งแต่ต้นในการที่จะเก็บข้อมูลทุกอย่างเพื่อที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเติบโตขึ้นมา   

 3.หมอคิดว่าผู้ใช้บริการ คือ ยูเซอร์บางท่าน ถ้าไปซื้อแพลตฟอร์มอื่นหรือว่าไปหาหมอแพลตฟอร์มอื่นเค้าไม่แน่ใจแต่หากมาที่ SkinX แล้วเชื่อใจ เราสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะแก้ปัญหาให้กับคนไข้ได้จริง ซึ่งของทุกอย่างเป็นของจริง เป็นความเชื่อใจที่คนไข้มีให้เรา ซึ่งตรงนี้หมอก็พยายามที่จะรักษาคุณภาพให้ความเชื่อใจช่วงนี้ให้เราไม่สูญเสียไป 

 4.สิ่งที่ทำให้เติบโตได้ คือทีมเวิร์ค คือ หมอพยายามที่จะหาน้องน้องที่เก่ง ๆ มาทำงานด้วยกัน คือเวลาเราทำงานกับคนเก่ง เราต้องให้คนเก่งทำงาน ถ้าเราไปยุ่งมาก ๆ คนเก่งก็จะเบื่อ หมอก็พยายามจะหาคนเก่งแล้วก็ให้คนเก่งทำงานโดยที่ไม่ไปรบกวน และส่งเสริมให้เค้าเติบโตไปด้วยกัน พนักงานที่ SkinX เราอายุเฉลี่ยประมาณ 30 กว่า แต่ว่าทุกคนก็คือไฟแรงแล้วก็ที่สำคัญคือ ต้องมี passion ที่รักใน SkinX ซึ่งหมอว่ามันสำคัญมาก ๆ  

ทิศทาง SkinX ตอนนี้และในอนาคต 

พยายามที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันเรามีคลินิกที่เป็นพาร์ตเนอร์อยู่ประมาณ 400 กว่าคลินิก และเรายังอยากที่จะขยาย ไปยังโรงพยาบาลและคลินิกในจังหวัดต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่, ภูเก็ต, โคราช, ชลบุรี เราก็อาจจะพยายามขยายไปตามจังหวัดต่าง ๆ เหล่านี้ 

มีแผนที่จะพัฒนาตัว User Experience ของแอปพลิเคชันเราให้มันสนุกขึ้นตอบโจทย์คนใช้มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอย่าง AI แล้วก็สุดท้ายเรามองว่าจะทำ ecosystem ของผิวหนังคือ ของธุรกิจผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ผิวหนัง, นักคลินิกโรงพยาบาลที่ให้บริการทางผิวหนัง, บริษัทที่ขายยาหรือสกินแคร์ที่เกี่ยวกับผิวหนังรวมถึงคนไทยทุกคนที่มีปัญหาด้านผิวหนังอยากให้ทุกคน ได้ประโยชน์ร่วมกันจากการที่เราสร้าง ecosystem ที่ดีให้ให้กับปัญหาผิว