อายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ กับไวทัลไลฟ์ศก.สุขภาพแห่งอนาคต
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว (Longevity Medicine) นับเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก
KEY
POINTS
- ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สอดคล้องกะเมกะเทรนด์ รายได้คิดเป็นเกือบ 10 %ของ โรงพยาบาล
-
มุ่งพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) 2)การบูรณาการ AI (AI Integration) และ3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation)
- เส้นทางการดูแลสุขภาพใน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประเมินที่ครอบคลุม การวางแผนอายุยืนเฉพาะบุคคล การบำบัดและการดูแลรักษาแบบองค์รวม และการติดตามและการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว (Longevity Medicine) นับเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก สถิติหลายแห่งได้เผยถึงคนทั่วโลกมีอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวัยชราสูงขึ้นตามไปด้วย
ทว่าการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงอายุ ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ต้องมีอายุยืนยาวอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุขัย ซึ่งจะดำเนินการได้จะต้องมีห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด และนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพหรือวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยมีความนวัตกรรมแห่งความร่วมมือ ที่ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพที่สามารถวางแผนการดูแลได้เฉพาะเจาะจงเป็นแบบรายบุคคล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเปิดมาแล้ว 24 ปีให้บริการคนไทยประมาณ 65% ต่างชาติ 35 % ซึ่งมาจากโซนตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์ ยูเออี โอมาน ส่วน CLMV มี พม่า เวียดนาม และเขมร ล่าสุดกลุ่มผู้ใช้บริการจากประเทศจีนกำลังมาแรง โดยรายได้ล่าสุดทะลุ 1 พันล้านบาทแล้วคิดเป็นเกือบ 10 %ของ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
โดยศูนย์แห่งนี้เน้นการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงอายุ ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่มุ่งเน้นการมีอายุยืนยาวอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุขัย พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น
ซึ่งวิธีการนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนวงการแพทย์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย มุ่งเน้นการสร้างการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน
"ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์" สอดคล้องกับเมกะเทรนด์
"อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์" Chief Executive Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ Executive Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวว่าการให้บริการของศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ซึ่งขณะที่แนวโน้มของอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลก (The Global Health and Wellness Industry) จากข้อมูลการวิจัยของNew Global Wellness Instituteระบุว่า มีมูลค่า5.6ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น8.5ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี2027และมีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 40 %หากเทียบกับปี 2023
สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการโซลูชันและบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ด้วยปัจจัยหนุนทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งเกิดจากแรงขับเคลื่อนสำคัญทั้งของคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาวิธีป้องกัน และคนรุ่นเก่าที่แสวงหาวิธีปรับปรุงให้มีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ส่งผลให้อุตสาหกรรมสุขภาพมีศักยภาพในการเติบโตสูง
มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรม 3 ด้าน
"ผศ.นพ.พลกฤต ทีฆคีรีกุล" Chief Executive Officer
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ กล่าวเสริมว่า หัวใจสำคัญของไวทัลไลฟ์ คือ การมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ผลการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำและรวดเร็วจากเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้งานในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการรับรองจากวิทยาลัยพยาธิแพทย์อเมริกัน (College of American Pathologists: CAP) ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาของผู้รับบริการแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด
2)การบูรณาการ AI (AI Integration)ด้วยการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพจำนวนมหาศาลหรือการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนทางชีวเคมี เช่น โรคมะเร็ง และโรคทางระบบประสาทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation)โดยผนวกจุดแข็งในด้านนวัตกรรมในห้องปฏิบัติการเข้ากับความเป็นเลิศทางคลินิกของบำรุงราษฎร์ ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพที่ไร้รอยต่อ
12 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่วัยชรา
นพ. สุธี ศิริเวชฎารักษ์ Chief Administrative Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ กล่าวว่า การมีอายุยืนยาวไม่ใช่เพียงแค่การมีชีวิตอยู่ให้นาน แต่หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุของความชรา เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลสุขภาพที่สามารถชะลอกระบวนการชรา และช่วยให้ทุกคนมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพที่ดี
จากงานวิจัยและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้มี 12 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่วัยชรา เช่น การกลายพันธุ์ของ DNA ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและโรคมะเร็งตามอายุ การสูญเสียความสมดุลของการควบคุมการผลิตและทำลายโปรตีนในเซลล์ ซึ่งจะส่งต่อความผิดปกติของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน รวมถึงการตอบสนองต่อสารอาหารผิดปกติ นำไปสู่ภาวะผิดปกติของระบบเผาผลาญ ส่งผลต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
ดูแลสุขภาพใน 4 ขั้นตอน
สุขภาพของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แผนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมระยะยาวปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพที่ตั้งเป้าไว้ โดยมีเส้นทางการดูแลสุขภาพใน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประเมินที่ครอบคลุม การวางแผนอายุยืนเฉพาะบุคคล การบำบัดและการดูแลรักษาแบบองค์รวม และการติดตามและการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ
โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว พร้อมใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย อย่างนาฬิกาสุขภาพหรือแหวนสุขภาพ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุที่ยืนยาวพร้อมพลังแห่งความเยาว์วัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว
พร้อมออกแบบ ‘โปรแกรมการดูแลสุขภาพ’ โดยได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โปรแกรมนี้เน้นการประเมินสุขภาพเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพต่าง ๆ เพื่อสร้างแผนการดูแลสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน
นอกจากนี้ ยังใช้นวัตกรรมการรักษาที่ช่วยชะลอกระบวนการชราในระดับเซลล์ และมีการติดตามสุขภาพอย่างใกล้ชิดผ่านอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ เพื่อติดตามตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญในแต่ละวัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย รวมถึงใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เข้ารับบริการอย่างละเอียด เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ได้ล่วงหน้า ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่ตรงจุดและเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น
ตลอดจนเข้าใจถึงกลไกของโรคในระดับโมเลกุลได้อย่างลึกซึ้ง จากการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีที่หลากหลาย จึงทำให้สามารถให้บริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเป้าหมายของการมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว
นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมและโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล โดยเน้นการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ การดูแลเฉพาะบุคคล และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแข็งแรงแล้ว ยังออกแบบประสบการณ์ของผู้มารับบริการ ผ่านแนวคิด ‘Ecosystem of Care’
โดยใช้หลักการของสัดส่วนและความกลมกลืนของ Golden Ratio ระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพ เน้นการสร้างประสบการณ์เชิงบวกโดยยึดหลักผู้มารับบริการเป็นศูนย์กลาง เช่น การอำนวยความสะดวกสบาย และการช่วยแก้ไขปัญหา (Pain Point) ให้กับผู้มารับบริการได้อย่างเหมาะสม สู่การมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพอีกด้วย