รพ.สวนดอกดึง AI วิเคราะห์เชิงลึก ยกระดับบริการ เชื่อมโยงครบวงจร

รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. จับมือ IBM สานต่อก้าวอย่างผู้นำบริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของอาเซียน ดึง AI วิเคราะห์เชิงลึก-ส่งตรวจห้องปฏิบัติการอัตโนมัติ ยกระดับบริการ เชื่อมโยงระบบครบวงจร
KEY
POINTS
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ทีม IBM Cli
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับไอบีเอ็ม (NYSE: IBM)ได้ร่วมมือโครงการนําร่องใช้เทคโนโลยี Generative AI สนับสนุนการวินิจฉัย และการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอัตโนมัติครบวงจร บนพื้นฐานของข้อมูลที่โปร่งใสเชื่อถือได้ ภายใต้ระบบธรรมภิบาล AI (AI Governance) มาตรฐานโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ลดเวลาการรอรับบริการของผู้ป่วย พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจของแพทย์ด้วยข้อมูลเชิงลึกรอบด้านที่ถูกต้องแม่นยํา สร้างความมั่นใจ เพิ่มคุณภาพ และเพิ่มความรวดเร็วในการรักษา
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สวนดอก ดำเนินงานภายใต้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีเตียงผู้ป่วย 1,400 เตียง ได้รับการรับรองมาตรฐาน AHA 2 ครั้ง ได้รับการรับรอง PDSC 16 โปรแกรม และทาง HAIT ระดับ 2 เป็นที่แรกของโรงพยาบาลรัฐบาล มุ่งเน้นการเป็นโรงพยาบาลในดวงใจ ด้วยกลยุทธ์การเป็นเลิศด้านบริการผ่านระบบ Digital Transformation
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'60 ปี มช. รวมพลังเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม'
แห่งแรกในอาเซียน! ‘แพทย์ มช.’ ผนึก ‘ไอบีเอ็ม’ ใช้ Agentic AI ยกระดับการแพทย์
เชื่อมโยงกระบวนการไร้รอยต่อ การแพทย์ระบบอัตโนมัติ
โครงการความร่วมมือนี้ถือเป็นอีกก้าวความสําเร็จ ต่อเนื่องจากการเปิดตัวห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรของทางโรงพยาบาลฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่เชื่อมโยงกระบวนการไร้รอยต่อ แห่งแรก และแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ทีม IBM Client Engineering ในการพัฒนาโมเดลด้วย watsonx.data และ watsonx.ai เพื่อสนับสนุนและผนวกการทํางานของระบบปฏิบัติการทางการแพทย์ หรือแล็บต่างๆ เข้าด้วยกันแบบครบวงจร โดยเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยย้อนหลัง ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกและเป็นข้อมูลประกอบสนับสนุนการวินิจฉัยของแพทย์ และเอื้อให้แพทย์สามารถส่งคําสั่งตรวจแล็บเพิ่มเติมได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการป้อนข้อมูลแบบระบบมือ (Manual) นอกจากนี้ ระบบยังสามารถเชื่อมโยงตารางการให้บริการของแล็บอัตโนมัติ พร้อมบริหารจัดการผลตรวจให้พร้อมสําหรับการนัดหมายติดตามอาการของแพทย์ในครั้งต่อไป
นอกจากระบบดังกล่าวจะลดความผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลระบบมือ (Manual) และการส่งต่อข้อมูลข้ามระบบแล้ว ยังเชื่อมโยงการตรวจแล็บต่างๆ อาทิ การตรวจเลือด การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ฯลฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความถี่ในการมาโรงพยาบาลโดยไม่จําเป็น ขณะเดียวกันการบริหารจัดการการนัดหมายและการตรวจเพิ่มเติมต่างๆอย่างครบวงจร ยังช่วยลดเวลาการรอของผู้ป่วยลงได้อย่างมีนัยสําคัญ
นำร่องใช้เทคโนโลยีวางรากฐานข้อมูล ระบบธรรมาภิบาล
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นองค์กรนำร่องแห่งแรกๆในการนําเทคโนโลยีทั้งหมดมาใช้และให้ความสําคัญกับการวางรากฐานของข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ (trusted data) ปราศจากอคติ โดยมองถึงการนําระบบธรรมภิบาล AI มาใช้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นส่วนสําคัญที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความแม่นยําของระบบ AI (trustworthy AI) ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยที่ใช้บริการที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้นําร่องการนํา AutoAIมาช่วยสนับสนุนการพัฒนา แอพบริการผู้ป่วยและการรักษาในอนาคตของทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของคณะแพทยศาสตร์ มช. โดยช่วยสนับสนุนการเขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและร่นระยะเวลาในการพัฒนาแอพต่างๆ รองรับการสนับสนุนการรักษา และการบริการคนไข้ในอนาคต สอดคล้องกับพันธกิจหลักของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากลตามนโยบายการก้าวสู่ Digital faculty