ไม่อยากแพ้ 'ฝุ่น PM2.5' ระคายเคือง แสบคอ ต้องบรรเทาแบบใด

ช่วงนี้ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็จะสังเกตเห็นฝุ่นละออง PM2.5 ปกคลุมหลายพื้นที่ได้ด้วยตาเปล่า บางพื้นที่ก็สูงจนเริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ
KEY
POINTS
- หากร่างกายได้รับ ฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานาน แม้ช่วงแรกไม่แสดงอาการผิดปกติมาก นอกจากอาการแสบคอหรือไอแห้ง แต่ภายหลังอาจพออาการผิ
ช่วงนี้ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็จะสังเกตเห็น ฝุ่นละออง PM2.5 ปกคลุมหลายพื้นที่ได้ด้วยตาเปล่า บางพื้นที่ก็สูงจนเริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ซึ่งผลกระทบที่หลายคนรู้สึกได้ชัดๆ เลย
เมื่อหายใจเอาฝุ่นพิษเข้าไปมากๆ นั่น คือ ความรู้สึกระคายคอ แสบคอ แสบตาแสบจมูก ไอแห้งๆ หรือบางคนก็จามติดๆ กัน ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันตัวของร่างกายที่พยายามจะขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกรำคาญและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้อยู่ไม่น้อย
หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครกำลังเผชิญปัญหามลพิษในอากาศเนื่องจากฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน คือ PM2.5
ฝุ่น PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เล็กประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผมมนุษย์ ซึ่งขนจมูกของเราไม่สามารถกรองได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ จะมีผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง? และมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
ผศ.นพ อรรถพล เอี่ยมอุดมกาล แพทย์โรคระบบทางเดินหายใจในเด็ก ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้ อาการ ไอเพราะฝุ่น โดยเฉพาะเมื่อร่างกายได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าขน ผมของมนุษย์ถึง 30 เท่า
โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากหลายแหล่ง เช่น การเผาไหม้ ฝุ่นควันจากการจราจรหรือโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในชั้นบรรยากาศ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ หรือแอมโมเนีย เป็นต้น ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ทั้งผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง ไอแห้ง เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดและโรคหัวใจอีกด้วย
หากร่างกายได้รับ ฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานหรือเกิดการสะสมในร่างกาย แม้ในช่วงแรกอาจไม่แสดงอาการผิดปกติมาก นอกจากอาการแสบคอหรือไอแห้ง แต่ในภายหลังอาจพออาการผิดปกติของร่างกายได้ จากการที่ฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ เช่น
- ทำให้อาการภูมิแพ้ หรือหอบหืดกำเริบ
- ปอดอักเสบ และติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- เป็นลมพิษ หรือมีผื่นขึ้นตามตัว
- ผิวอ่อนแอ ผิวแพ้ง่าย จากการที่เซลล์ผิวหนังถูกทำลาย
- ไอแห้ง เจ็บคอ มีน้ำมูก ในบางรายที่ติดเชื้ออาจมีเสมหะเยอะ
AQI เท่าไรจึงอันตรายต่อสุขภาพ
AQI ย่อมาจากคำว่า Air Quality Index คือ ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นข้อมูลคุณภาพอากาศในภาพรวมโดยประกอบด้วยมลพิษทางอากาศทั้งหมด 6 ชนิดนั่นคือ
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)
- ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
- ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)
- ก๊าซโอโซน (O3)
โดยจำนวนเลข AQI นั้นจะสามารถแบ่งเป็นระดับความปลอดภัยได้หลัก ๆ 5 ระดับนั่นคือ
- AQI 0-50 นั่นถือว่าคุณภาพอากาศดี เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง และท่องเที่ยว
- AQI 51-100 นั่นคือคุณภาพอากาศปานกลาง บุคคลที่มีปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจไม่ควรอยู่กลางแจ้งนาน
- AQI 101-200 นั่นคือว่าคุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ควรอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันหากจำเป็นต้องอยู่เป็นเวลานาน หากมีอาการแพ้หรือผิดปกติควรปรึกษาแพทย์
- AQI 201 ขึ้นไป นั่นคือว่าอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันหากจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ซึ่งหากได้ดูจากลำดับตัวเลขนั้น AQI 101 ขึ้นไปถือว่าเริ่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งหากเป็น ฝุ่น PM2.5 บางรายอาจเริ่มมีผลกระทบเช่น เป็นผื่น PM2.5 หรืออาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ต่าง ๆ
เช็กอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ที่ควรรู้
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5 นั้นอาการจะไม่แตกต่างกับการแพ้ฝุ่นตามปกติมากนัก บางรายอาจเกิดอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 และแสดงผลกระทบสุขภาพ หรือบางรายนั้นอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ผื่นขึ้น ซึ่งอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 จะมีอาการโดยหลัก ๆ ดังนี้
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ทางสุขภาพ
ปัญหาอาการแพ้ PM2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพหลักๆนั้นมีดังนี้
- เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ : เนื่องจากฝุ่นที่มีขนาดเล็ก ที่สามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืดกำเริบ ทั้งผู้ที่เป็นอยู่แล้ว และร่างกายปกติก็สามารถเป็นได้ หากไม่ป้องกันหรือรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ
- ส่งผลต่อหัวใจ : อาจทำให้เป็นตะกอนภายในหลอดเลือด จนทำให้หลอดวายเฉียบพลันได้
- ส่งผลต่อสมอง : ความดันโลหิตสูง และเลือดมีความหนืด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดในสมอง
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5ทางผิวหนัง
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ที่เกิดทางผิวหนังนั้นอาการแล้วแต่บุคคลซึ่งมาดังนี้
- ผิวหนังเกิดเป็นตุ่ม นูนแดงกระจายจากอาการแพ้ฝุ่น PM2.5
- เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากการแพ้ฝุ่น PM2.5
- ทำให้ผิวแก่เร็ว มีจุดด่างดำ
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ที่ควรพบแพทย์ทันที
อาการแพ้ฝุ่น PM2.5 นั้นมีหลายอาการซึ่งในบางอาการที่แสดงออกมานั้นเป็นอาการที่อันตราย ซึ่งหากเกิดอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 เหล่านี้ควรแพทย์พบทันที
- แสบตา ระคายเคืองตาอย่างมาก
- มีน้ำมูกเกิน 1 สัปดาห์
- ไอ หรือ จามเรื้อรังมานานกว่า 2 สัปดาห์
- หายใจไม่สะดวก ติดขัด
อาการแพ้ ฝุ่น PM2.5 ต่อโรคภูมิแพ้
สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้นั้นอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ส่งผลทำให้ไปกระตุ้นโรคภูมิแพ้ได้ และมีอาการแพ้ที่รุนแรงกว่าคนปกติโดยอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 จะส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายดังนี้
- ระบบทางเดินหายใจ : เยื่อบุอักเสบและโพรงจมูกอักเสบ อาจเป็นโรคหลอดลม หรือโรคหอบหืดได้หากเป็นอาการแพ้ PM2.5 เรื้อรัง
- ระบบผิวหนัง : ผื่นคันตามตัว ลมพิษทำให้ผิวแพ้ง่าย และทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย
อาการแพ้ PM2.5 สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นส่งผลต่อระบบอื่น ๆ ด้วยเช่นระบบไหลเวียนโลหิต ทั้งยังเป็นอันตรายสำหรับหญิงตั้งครรภ์ด้วย
อาการแพ้ ฝุ่น PM2.5 ต่อโรคปอด
การได้รับ PM2.5 ในปริมาณที่ไม่มากแต่ได้รับในระยะเวลาที่ยาวนานอาจส่งผลกระทบต่อปอดได้ เนื่องจากฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กสามารถเข้าสู่ระบบหายใจได้ง่าย และอาจนำพาสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าสู่ปอด ทำให้เกิดอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 และ เป็นโรค ๆ ต่างเกี่ยวกับปอด อย่างเช่น ปอดอักเสบ หรือเป็นมะเร็งปอดได้
ไอเพราะฝุ่น PM 2.5 มีอาการอย่างไร
อาการไอ เป็นหนึ่งในการตอบสนองของร่างกายจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมในระบบทางเดินหายใจ เช่น เชื้อโรค ฝุ่นควัน หรือเสมหะ ทำให้ร่างกายพยายามกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายด้วยการไอออกมา ซึ่งการไอทั่วไปมักเป็นอยู่ไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ แต่หากเป็นอาการไอเรื้อรังอาจเกิดจากการถูกกดทับที่ปอดหรือหลอดลม เช่น มะเร็งปอด หรือก้อนเนื้อที่ผิดปกติ เป็นต้น โดยอาการไอที่พบได้บ่อยเมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ได้แก่
- ไอ จาม มีน้ำมูก
- เจ็บคอ มีเสมหะ
- ระคายเคืองตา
- แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก
วิธีบรรเทา และป้องกันอาการระคายหรือแสบคอ
หากมีอาการระคายคอ แสบคอจากฝุ่น PM 2.5 วันนี้แพทย์มีวิธีช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นหายได้ ดังนี้
1. อยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี
หากเป็นไปได้ให้อยู่ในอาคาร บ้าน ตึก ที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองและมลพิษ
2. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เมื่อออกนอกบ้าน ไม่ว่าจะออกไปที่ไหน เเม้อยู่ในรถยนต์ เราก็ควรใส่หน้ากากป้องกันไว้ก่อน เพราะเจ้าฝุ่นมีอนุภาคที่เล็กมากลอยตามอากาศ
3. ดื่มน้ำให้มาก ๆ เวลาที่คันคอ
การดื่มน้ำสะอาดช่วยอาการแสบคอจากฝุ่น โดยแพทย์แนะนำว่าควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อให้น้ำเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุลำคอ ซึ่งช่วยลดอาการระคายคอลงได้
4. ทานอาหารอ่อน ๆ ถ้าแสบคอมาก
ทานอะไรไม่ค่อยได้ แนะนำให้กินอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก จะช่วยให้กลืนง่าย คล่องคอมากขึ้น
5. กลั้วคอบ่อย ๆ หลังจากทานอาหาร
กลั้วคอบ่อยหลังทานอาหารหรือเมื่อรู้สึกระคายคอ โดยแนะนำให้กลั้วคอด้วยน้ำเปล่าธรรมดาหรือน้ำอุ่นผสมเกลือเล็กน้อยก็ได้ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคอ ทำให้คอชุ่มชื้น แถมยังบรรเทาอาการเจ็บคอหรือระคายคอได้ด้วย
6. งดอาหารรสจัด
เนื่องจากอาหารรสจัดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ลำคอได้มากขึ้น ดังนั้นควรงดอาหารรสจัดไปก่อน
7. ไม่ทานของมัน ทอด ผัดและไขมันสูง
อาหารประเภททอด ผัด อาหารที่มีไขมันสูงหรือผลิตภัณฑ์จากนมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายคอเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งควรเลี่ยงก่อนดีกว่า
8. งดใช้เสียงชั่วคราว
ผู้ป่วยควรงดตะโกนหรืองดใช้เสียงดังจนกว่าอาการระคายคอ แสบคอจะหายเป็นปกติ เพราะหากยังใช้เสียง เส้นเลือดฝอยในลำคออาจได้รับผลกระทบและเกิดการอักเสบได้
9. จิบน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง
น้ำมะนาวมีกรดซิตริกและมีวิตามินซี น้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยต้านเชื้อโรค เมื่อนำมาผสมกันเป็นน้ำผึ้งมะนาว จะช่วยแก้อาการระคายคอ เจ็บคอ แก้ไอ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ลำคอได้เป็นอย่างดี
ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
อ้างอิง: โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) , โรงพยาบาลรามคำแหง , MEGA We care , โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์