ส่องวิธีรับมือ 'Energy Vampire' หากไม่อยาก 'หมดพลัง' ไม่รู้ตัว

ส่องวิธีรับมือ 'Energy Vampire' หากไม่อยาก 'หมดพลัง' ไม่รู้ตัว

ไม่ดูดเลือด แต่ดูดพลังงาน Energy Vampire คนประเภทที่แม้อยู่ด้วยกันเพียงพักเดียว ก็ทำให้เราหมดพลังไปโดยไม่รู้ตัว จึงควรรู้วิธีรับมือกับคนเหล่านี้ ถ้าไม่อยากโดดดูดพลังไปจนหมด

หลายคนคงเคยเจอกับคนที่ช่างพูดชอบคุยโว โอ้อวด เซ้าซี้ เจ้าบงการ บ้าอำนาจ ชอบตำหนิคนอื่นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย หรือเป็นดราม่าควีน คนเหล่านี้ที่เพียงแค่พูดคุยกันเพียงพักเดียวก็รู้สึกเหนื่อย อารมณ์อยู่ในระดับไม่ปกติ นั่นหมายถึงว่าคุณโดนแวมไพร์ดูดพลังเล่นงานเข้าให้แล้ว แวมไพร์ทั่วไปอาจจะดูดเลือด แต่ Energy Vampire กลับดูดพลังในตัวเราไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

แวมไพร์ดูดพลังคือ??

แวมไพร์ดูดพลัง” (Energy Vampire) คือ คนที่มักจะทิ้งความรู้สึกด้านลบไว้ให้กับผู้อื่น หลังจากที่ได้อยู่ด้วย ทำให้รู้สึกเหนื่อย เศร้า หมดพลัง หรือหมดอารมณ์ไม่อยากทำอะไร 

คนที่มีพลังงานลบเหล่านี้จะสามารถส่งต่อพลังงานหรือความรู้สึกนั้นๆ มายังคนรอบข้างได้ อาจจะฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เพราะแทบจะไม่ส่งผลต่อในการทำงานหรือประสิทธิภาพของงานมากนัก แต่ว่าจริงๆ แล้วมันกระทบกับการใช้ชีวิต เพราะทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับคนที่มีพลังงานประเภทนี้มักจะทำให้เหนื่อยล้า สับสน และบางครั้งอาจจะหมายถึงการสงสัยในความสามารถของตัวเองอีกด้วย 

และแวมไพร์ดูดพลังเหล่านี้ สามารถพบได้กับทุกคน ไม่เพียงจะพบได้ในที่ทำงานเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือแม้แต่ในกลุ่มเพื่อนก็สามารถพบเจอได้ทั้งนั้น ดังนั้นการเรียนรู้และเข้าใจในพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้สามารถรับมือกับคนประเภทนี้ได้อย่างที่จะไม่ทำให้ตัวเราสูญเสียพลังงานของเรามากไป

คนแบบที่ถูกจัดให้เป็น Energy Vampire

เพราะแวมไพร์ดูดพลังนั้นจะเป็นใครก็ได้ที่อยู่รอบๆ ตัวเรา และคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจผู้อื่นก็จะเป็นเป้าหมายของคนเหล่านี้ ซึ่งคนที่มักจะชอบนำปัญหาของตัวเองมาวางไว้ที่คนอื่น มักจะมองหาคนที่รับฟังและคิดเห็นเหมือนกันเพื่อเพิ่มความยอมรับ นี่ก็เป็นหนึ่งลักษณะของคนที่มีแวมไพร์ดูดพลังอยู่ในตัว 

ในบางคนมักจะมองโลกในแง่ร้ายอย่างโจ่งแจ้งมากเกินไป ชอบจับผิด ตำหนิหรือบูลลี่ผู้อื่น และส่วนใหญ่มักจะเข้าไปมีส่วนร่วมไปอยู่ในวงดราม่า เม้าท์มอยหรือเป็นจุดสนใจอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งในการทำงานที่มีต้องร่วมกับคนอื่น ก็จะเป็นคนที่คอยเจ้ากี้เจ้าการ คอยเสนอความเห็น แต่ความจริงแล้วจะไม่ค่อยได้ลงมือ หรือสามารถทำงานใดๆ ให้สำเร็จด้วยตัวเอง แล้วผลักให้เป็นความรับผิดชอบของคนอื่นแทน

เหล่าแวมไพร์ดูดพลังมักอาศัยความรู้สึกผิดเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เพราะรู้ว่าความรู้สึกผิดเป็นอาวุธที่ดีต่อคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

การรับมือกับ Energy Vampire

การที่ได้พบเจอกับคนที่ส่งแต่พลังด้านลบมาให้อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจจะส่งผลให้เกิดความเครียดที่จะทำให้เกิดโรคร้ายตามมาก็เป็นได้ โดยวิธีการรับมือกับคนดูดพลัง มีดังต่อไปนี้

กำหนดขอบเขตการเข้าหา 
การกำหนดขอบเขตเป็นวิธีหนึ่งที่จะปกป้องตัวเองจากคนเหล่านี้ได้ โดยกำหนดให้รู้ว่าสิ่งใดทำได้ แล้วทำได้แค่ไหน หรือว่าสิ่งใดทำไม่ได้ อย่างเช่น การออกไปพบกันข้างนอกเพียงเวลาสั้นๆ แทนการเชิญมาที่บ้าน การเลี่ยงที่จะพบกันหรือทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงสุดสัปดาห์ หรือจำกัดการโต้ตอบระหว่างกันในที่ทำงานได้โดยเลี่ยงที่จะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันและแวะพูดคุยที่โต๊ะ 

แม้ว่าสิ่งนี้อาจจะดูเหมือนง่าย แต่สำหรับคนที่สนิทกันมากๆ คงเป็นเรื่องยากที่จะทำ ลองเริ่มจากจุดเล็กๆ เพื่อปกป้องเวลาและพลังงานของตัวเองไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้เข้ามาใช้มันมากเกินไป

รู้จักเบี่ยงเบนความสนใจ 
เริ่มจากเปลี่ยนการตอบบทสนทนาให้ต่างไปจากปกติ การตอบคำถามแบบตรงไปตรงมาอาจจะถามคำตอบคำหรือตอบสั้นๆ กับคำถามนั้น หรือการบอกออกไปว่าไม่สบายหรือรู้สึกเหนื่อยมาก พวกเขาจะไม่มายุ่งด้วยมากนัก เพราะไม่ต้องการที่อยู่ใกล้คนที่ไม่มีพลังงานมากพอ

รู้ความแตกต่างระหว่าง ‘ระบาย’ กับ ‘ทิ้ง’ 
พวกแวมไพร์ดูดพลังมักทิ้งความรู้สึกด้านลบต่อผู้อื่น ดังนั้น ต้องรู้จักความแตกต่างของการมาระบาย (ต้องการมองถึง ปัญหาและหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวเอง) กับการทิ้งพลังงานด้านลบไว้ เพื่อที่จะได้สามารถจัดการกับความรู้สึกด้านลบเหล่านั้นได้

ไม่ต้องมีรีแอคชันเยอะ 
เมื่อเจอคนที่มีพลังงานแวมไพร์อยู่ในตัวมากเกินไป อย่าตอบสนองมากเกินไป ทำจิตใจให้สงบ รับฟังเฉยๆ ไม่ต้องออกความคิดเห็นหรือมีอารมณ์ร่วมมากเกินไป ทำให้ตัวเองพลังงานต่ำเข้าไว้ การไม่แสดงรีแอคชันมากจะทำให้พวกเขาไม่สนุกและจากไปเอง

รู้จักปฏิเสธให้เป็น 
การที่เป็นคนที่ใจดี ขี้เกรงใจมักจะทำให้พวกแวมไพร์ดูดพลังใช้ประโยชน์จากตรงนี้ การปฏิเสธคนอื่นหรือพูดว่า ‘ไม่’ ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าประเมินแล้วว่ามากไปก็ควรปฏิเสธ และให้เหตุผลไปตามตรง เมื่อพวกเขาไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ พวกเขาจะมองหาที่อื่น

ตัดออกไปจากชีวิต (ถ้าทำได้)
การมีคนที่ปล่อยพลังงานลบอยู่รอบๆ ตัว ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสักเท่าไร การตัดคนที่ทำให้ไม่สบายใจ หรือเหนื่อยเกินไปที่จะอยู่ด้วย จะทำให้เหนื่อยน้อยลง มีอิสระ ไม่มีเรื่องเครียดโดยไม่จำเป็นอีก แต่ก็ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่แล้วแวมไพร์ดูดพลังมักจะเป็นคนที่สนิทหรือคนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลองค่อยๆ ลดการติดต่อ พูดคุยกันให้น้อยลงมากที่สุด หรือใช้การส่งข้อความแทนการพบเจอกันแบบตัวต่อตัว

แวมไพร์ดูดพลังนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่ตัวเราเองบางครั้งก็อาจจะเคยปล่อยพลังงานแบบนี้ให้แก่คนรอบข้างเช่นกัน ดังนั้นการรู้ทันและรับมือ ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกับคนประเภทนี้ได้อย่างแฮปปี้และไม่มีปัญหากวนใจ

ที่มา: CNN , Healthline