ถ้าคิดถึง“บัวน้อย”กอริลลาตัวสุดท้าย"ลองไปเที่ยว"สวนสัตว์พาต้า"
“บัวน้อย” กอริลลา ยังมีชีวิตอยู่ใน"สวนสัตวพาต้า" ปีนี้มันอายุ 33 ปีแล้ว อายุขัยเฉลี่ยกอริลลา 40-50 ปี ณ เวลานี้ ชีวิตมันมาไกลเกินกว่าจะไปอยู่ที่อื่นใดในโลก และรู้ไหม...เรื่องราวของบัวน้อยมีดราม่าทุกปี
ปัจจุบันบัวน้อย กอริลลา ตัวสุดท้ายในประเทศไทย ที่สวนสัตว์พาต้า ปิ่นเกล้า ชั้น 7 อายุประมาณ 33 ปี
เรื่องราวของบัวน้อยผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านดราม่า มาเกือบทุกปี และชีวิตของมันยังดำรงอยู่ในสวนสัตว์
เจ้าของสวนสัตว์พาต้าได้บัวน้อยมา ภายหลังจากที่ไทยเข้าร่วมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส (Cites) จากนั้นก็ไม่สามารถนำกอริลลาเข้ามาไทยได้อีก
บัวน้อย ถูกส่งมาจากเยอรมนี ตั้งแต่อายุ 3 ปี ในยุคนั้นซื้อมาในราคากว่า 3 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดแสดงที่สวนสัตว์พาต้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยปัจจุบันมันอยู่ในห้องกระจกติดแอร์ ปลอดเชื้อโรค
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจ ที่บัวน้อย กอริลลา ยังมีชีวิตอยู่ในสวนสัตว์
กอริลลาอายุเฉลี่ย 40-50 ปี
กอริลลา เป็นลิงขนาดใหญ่ ไม่มีหาง หูเล็กคล้ายคน กล้ามเนื้อคอหนา แขนใหญ่และยาวกว่าขา มีขนสีดำหนา หนักประมาณ 200 กิโลกรัม สูง 6 ฟุต ตัวเมียจะขนาดเล็กกว่าตัวผู้ แหล่งกำเนิดอยู่ในแอฟริกาตะวันตก
ลิงขนาดใหญ่ที่กล่าวถึง มีสองสายพันธุ์คือ พันธุ์ภูเขาและพันธุ์พื้นราบ มีอายุเฉลี่ย 40-50 ปี อาศัยอยู่บนพื้นดินเกือบตลอดชีวิต เดินด้วยเท้าและแขน โดยข้อมือวางลงบนพื้น
สกาเล็ท มาคอว์ จัดอยู่ในกลุ่มนกแก้วมาคอว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ปัจจุบันอยู่ในการคุ้มครองของไซเตส
ถ้านับตามอายุแล้ว บัวน้อย กำลังอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต และเวลาใครที่เห็นบัวน้อย ก็อดสงสารไม่ได้ว่า มันอยู่มาเนิ่นนาน อยู่ตามลำพังตัวเดียว เพราะกอริลลาอีกตัวเสียชีวิตไปนานแล้ว
ย้อนไปเมื่อปี 2557 มีคนรักสัตว์ออกมารณรงค์หาบ้านใหม่ให้“บัวน้อย”ผ่านทางเว็บไซต์ change.org และครั้งนั้นมีกลุ่มคนรักสัตว์นำรายชื่อ 36,000 รายชื่อ เรียกร้องต่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้
เกือบทุกปี ก็จะมีกลุ่มคนรักสัตว์ออกมารณรงค์ให้ปล่อยบัวน้อย ยกตัวอย่าง PETA Asia รณรงค์ให้ปล่อยบัวน้อยตั้งแต่ปี 2555 และยังคงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อไป โดยพยายามหาบ้านใหม่ให้บัวน้อยและสัตว์อื่น ๆ ไปยังสถานพักพิง เพื่อให้พวกมันมีต้นไม้และชีวิตที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ
ดราม่าสวนสัตว์พาต้า จึงมีทั้งเรื่องสภาพที่อยู่สัตว์ไม่เป็นธรรมชาติ การทรมานสัตว์ ความหงอยเหงาของสัตว์ เพราะกลุ่มอนุรักษ์ คนรักสัตว์ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่นำกอริลลามาไว้กลางห้างสรรพสินค้า แต่มันก็อยู่มาเนิ่นนาน
และน่าจะเป็นอุทาหรณ์ การทำธุรกิจสวนสัตว์ หากไม่เลิกลาหรือโยกย้ายสัตว์ไปฝากไว้ที่สวนสัตว์แห่งอื่น ก็ต้องดูแลพวกมันเป็นเวลานาน รับผิดชอบจนกว่ามันจะจากโลกนี้ไป
ปัจจุบันสวนสัตว์พาต้ายังเปิดให้ชมปกติ ส่วนห้างสรรพสินค้ากำลังปรับปรุงในหลายโซน บางมุมบางจุดในสวนสัตว์อาจไม่น่าดู น่าชม แต่บางโซนก็เป็นสถานที่เรียนรู้ชีวิตสัตว์ได้ดี อย่างโซน นกแก้วมาคอร์ นกเงือก นกยูง นกฟลามิงโก้ ลิง งู แพะ แกะ ม้าแคระ ปิ๊กมี
แพะพันธุ์ปิ๊กมี่ ต้นกำเนิดจากแอฟริกาตะวันตก ตัวเล็ก ขี้อ้อน
นกแก้วซันคอนัวร์ ตระกูลปากขอ เป็นนักแก้วยอดนิยมอันดับต้นๆ ในเมืองไทย
บทเรียนจากบัวน้อยในสวนสัตว์
คงได้ยินบ่อยๆ ว่าบัวน้อย มันดูเหงาๆ บางคนก็ว่า มันมีน้ำตาไหล ก็มีคำอธิบายว่า หน้าตามันก็แบบนี้แหละ
บางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า"มันร้องไห้จริงหรือไม่" สัตวแพทย์ เคยอธิบายว่า น้ำตาของมันไหลไม่ใช่เพราะเศร้า แต่เป็นน้ำหล่อลื่นรอบดวงตา
การดูแลบัวน้อยให้ดำรงอยู่ต่อไป จึงมีรายละเอียดมากมาย เจ้าของสวนสัตว์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเยอะมาก และยังมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยกว่าร้อยชีวิตที่ต้องดูแล
...............
สวนสัตว์พาต้า ปิ่นเกล้า : เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 10.00-18.00น.ค่าเข้าผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท /ค่าอาหาร ผักผลไม้ ชุดละ 100 บาท