“ทุเรียนนนท์ GI” ยกมาทั้งสวนที่ "สยามพารากอน" ในงาน "เทศกาลผลไม้"

งานดีถูกใจคนรักผลไม้ พร้อมเสริมสร้างรายได้สู่เกษตรกร ในงาน Siam Paragon Tropical Fruit Parade พาเหรดผลไม้ยกมาทั้งสวน โดย สยามพารากอน ไฮไลท์ได้แก่ ทุเรียนนนท์ GI และทุเรียนอีกกว่า 20 สายพันธุ์ และผลไม้สดหาทานยาก ผลไม้ที่ชนะประกวด ฯลฯ ระหว่างวันที่ 7-15 พฤษภาคม 2565

สยามพารากอน ร่วมกับ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ยกทัพผลไม้ไทยนานาชนิด ให้คนรักผลไม้ได้สัมผัสสุดยอดสุดยอดผลไม้แห่งฤดูกาลของเดือนพฤษภาคม

ได้แก่ ทุเรียนนนท์ GI เป็นภูมิปัญญาตามวิถีนนท์ (มีจำนวนจำกัด) จากสวนทุเรียนเมืองนนท์ และทุเรียนรวมกว่า 20 สายพันธุ์ เช่น ทุเรียนหลงลับแล, ทุเรียนพานพระศรี, ทองย้อยฉัตร, พวงมณี, กบชายน้ำ, กระดุม, หมอนทองนนทบุรี ฯลฯ

และผลไม้ไทยสดจากสวน เช่น ลำไยคริสตัลจากพัทลุง, มะม่วงสายพันธุ์ญี่ปุ่นหอมหวาน จากจังหวัดลำพูน, แตงโมเซนจูรี่ สตาร์ แตงโมไร้เมล็ดสายพันธุ์ชนะเลิศการประกวดจากอเมริกา, สับปะรดทองระยอง, ลิ้นจี่ฮงฮวย, ส้มโอทับทิมสยาม

    แตงโมเซ็นจูรี่ สตาร์

รวมถึงเงาะ มังคุด ลำไยอีดอ และมะม่วงน้ำดอกไม้สุก ที่ถือเป็นผลไม้ตามฤดูกาลที่ดีที่สุด และอีกมากมาย โดยเกษตรกรและชาวสวนเดินทางมาส่งมอบถึงมือผู้บริโภคด้วยตัวเอง

    คัดสรรผลไม้ดีที่สุดตามฤดูกาล

ยังมีเมนูจากผลไม้ แนะนำโดยร้านดัง อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วงแม่วารี, ไอศกรีมและขนมร้านเบนดิโต้, มะพร้าวถอดรูปจาก Universal Coco มะพร้าวครอบจักรวาล, น้ำมังคุดสกัดเย็นจากสุขสมดุล, ไอศกรีมมังคุดราสพ์เบอร์รี่จากม่อนชะเมา ออร์แกนิคฟาร์ม, มะม่วงน้ำดอกไม้สุก พิลาฟาร์มสตูดิโอ เพชรบูรณ์, ผลไม้ดอง-แช่อิ่ม พร้อมทาน รสชาติไทยแท้ ร้านชาร์ม สยาม, มะพร้าวคว้าน COCO เชย บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

   ข้าวเหนียวทุเรียนร้าน Co Limited

และอีกสารพัดเมนูผลไม้จากร้านอาหารใน สยามพารากอน มีอาทิ Summer Time Set  จาก TWG Tea ชั้น G เซตม็อกเทลผสมชาสูตรพิเศษกับผลไม้และน้ำผลไม้ จับคู่กับของหวานและผลไม้รสชาติสดชื่น, ข้าวเหนียวทุเรียน จาก Co Limited ชั้น G เนื้อทุเรียนอวบแน่น หอมหวาน ทานคู่กับข้าวเหนียวมูนใหม่ ๆ ในน้ำกะทิอบควันเทียน หรือเย็นสดชื่นกับ คากิโกริข้าวเหนียวมะม่วงจากร้าน After You ชั้น G  และอีกมากมาย

   Fruity Granola Bowl ร้าน Veganerie

พร้อมจัดนาทีทองช็อปผลไม้คุณภาพ ราคาพิเศษ ทุกวัน เวลา 12.00 -13.00 น. และ 17.00 -18.00 น.  ข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0 2610 8000, FB: Siam Paragon, IG: @SiamParaonShopping

   ลำไยคริสตัล

ความเป็นมาของทุเรียนนนท์ : ในหนังสือ “เมืองนนท์เมืองผลไม้” ของอดีตข้าราชการครูใหญ่ ศึกษานิเทศก์จังหวัดนนทบุรี นายธำรง ธรรมนิตยกุล บันทึกไว้ว่า

“เมื่อปี พ.ศ.2480 คุณสงวน ฉิมคล้าย เพื่อนนักเรียนฝึกหัดครู เคยเล่าว่า พ่อเล่าให้ฟัง ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2330  คุณปู่ (ของพ่อ) ชื่อนายสาย ฉิมคล้าย ถูกเกณฑ์ไปรบพม่าที่เมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด ได้เกิดขาดแคลนอาหาร ทหารไทยได้หาอาหารตามป่า ได้สัตว์และผลไม้เป็นอาหาร ในนั้นมีผลไม้ที่มีเปลือกเป็นหนาม มีลำต้นสูงใหญ่แหงนคอตั้งบ่า ชาวมอญที่มาช่วยรบเรียกมันว่า ทุเรียน ทหารก็เก็บมากิน มีรสหวานอร่อย แต่เนื้อน้อย คุณปู่สายก็ได้เก็บเมล็ดใส่ย่ามจนเต็ม เมื่อเลิกทัพกลับเมืองนนท์ คุณปู่สายก็นำเมล็ดแจกจ่ายให้ญาติและเพื่อนฝูงนำไปปลูก

    (Credit: www.duriannon.com)

ส่วนคุณปู่สาย นำมาปลูกที่สวนใกล้วัดสัก อ.บางกรวย ต้นทุเรียนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่กี่ปีก็ออกผล นำมาแบ่งกันกิน จนติดอกติดใจชาวสวนทั้งบางกรวย บางพลัด บางบำหรุ นำไปปลูกขยายพันธุ์ และพัฒนามาจนทุกวันนี้ (ข้อมูล: sites.google.com)  

ทำไมทุเรียนนนท์มีคุณภาพดี : จังหวัดนนทบุรีมีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม เหมือนเขตร้อนชื้น ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากเพราะเป็นดินตะกอน มีแม่น้ำเจ้าพระยาแบ่งพื้นที่ของจังหวัดออกเป็น 2 ส่วน ฝั่งตะวันออกและตะวันตก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีคูคลองทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเกิดจากการขุดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมากเชื่อมติดกัน ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบฤดูฝน ฤดูหนาวและฤดูร้อน

สำนักงานส่งเสริมการเกษตร นนทุบรี ระบุว่า นนทบุรี มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกทุเรียนจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญประจำจังหวัดนนทบุรี ความว่า

“พระตำหนัก สง่างาม ลือนาม สวนสมเด็จ เกาะเกร็ด แหล่งดินเผา วัดเก่า นามระบือ เลื่องลือ ทุเรียนนนท์ งามน่ายล ศูนย์ราชการ”

    (Credit: www.duriannon.com)

และเนื่องจากทุเรียนนนท์มีเนื้อละเอียดนุ่ม รสชาติ และความหลากหลายของสายพันธุ์ กล่าวกันว่า ดินในแถบนนทบุรี เป็นดินเหนียวที่มีธาตุอาหารของพืชอย่างบริบูรณ์ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากดินในแถบอื่น ๆ ที่มีการปลูกทุเรียน จึงทำให้เนื้อทุเรียนที่มาจากจังหวัดนนทบุรีละเอียด เนื้อหนาและรสดีมาก จึงทำให้ทุเรียนนนท์ มีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของตลาด นำรายได้เข้าสู่ชุมชนและจังหวัดนนทบุรีปีละหลายร้อยล้านบาท  

ชาวสวนทุเรียนส่วนใหญ่มีฐานะดีขึ้นและร่ำรวยเพราะปลูกทุเรียนก็มีมาก นนทบุรีมีทุเรียนคุณภาพดีเมื่อคิดราคาต่อผลแล้วมีราคาแพงที่สุด และยังไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลูกและมีทุเรียนดีเท่าประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ทุเรียนจึงเป็นผลไม้อย่างหนึ่งที่เชิดหน้าชูตาของคนไทย

ทุเรียนนนท์ ขึ้นชื่อว่าเป็นทุเรียนที่อร่อยที่สุด ทุเรียนนนท์หรือในอีกชื่อของคนนนท์ว่า ทุเรียนใน เป็นทุเรียนที่ผู้คนให้ความนิยมกันมาตั้งแต่อดีต จึงทำให้ราคาสูงหาซื้อยาก รับประทานก็ยากเช่นกัน 

ทุเรียนนนท์ได้หายไปจากความนิยมช่วงหนึ่ง เนื่องจากมีทุเรียนจากที่อื่นเข้ามาแทน เช่น ทุเรียนจากภาคตะวันออก ภาคใต้ ล้วนแต่มีคุณภาพเกือบจะแทนที่ทุเรียนของนนทบุรีอยู่แล้ว 

สาเหตุที่ทำให้ทุเรียนนั้นหายไปจากนนท์ มีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะน้ำท่วมปี พ.ศ.2538 และมหาอุทกภัยปีพ.ศ.2554 ที่สร้างความเสียหายจากพื้นที่ปลูก 3,475 ไร่ เหลือเพียง 43 ไร่ ให้ผลผลิตแล้วเพียง 16 ไร่ จากพื้นที่ปลูกในทุกอำเภอ  

นอกจากนี้ความเจริญของสังคมเมือง การเกิดของหมู่บ้าน การตัดถนนใหม่ทำให้สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป  น้ำเสียและอากาศร้อนหรือปัญหาโลกร้อนด้วย จนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทำให้หลายคนคิดว่าทุเรียนนนท์หายไป

แต่ในความเป็นจริง สิ่งหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญหลายคนไม่เคยนึกถึงนั้นคือ การสืบทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของชาวสวนนนท์ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การสืบทอดขาดช่วงไป ชาวสาวนนท์ส่วนใหญ่เป็นผู้อันมีจะกิน เพราะทุเรียนมีราคาแพงก็ส่งลูกเรียนหนังสือจบกันสูง ๆ ไปทำงานเช่น รับราชการ ตำรวจ ทหาร มีหน้ามีตา ตั้งแต่ข้าราชการชั้นผู้น้อยถึงอธิบดี ทำให้ไม่เคยหันกลับมามองอาชีพชาวสวนกันเลย ไม่มีลูกหลานบ้านไหนที่จะคิดทำสวนเพราะเป็นงานหนักและลำบาก

ทุกคนก็พูดกันเป็นอยู่คำเดียวว่าไม่มีเวลาทำสวน พ่อแม่ก็เริ่มชราทำสวนก็ไม่ไหว ทิ้งสวนทุเรียนให้ร้างไปโดยไม่มีใครเหลียวแลเลย ทุเรียนที่ไม่ถูกน้ำท่วมหรือไม่โดนถนนตัดผ่านแต่ขาดการดูแลนั้นมากกว่า  

หลังน้ำท่วมใหญ่ ชาวสวนเมืองนนท์ได้กลับมาปลูกทุเรียนอีกครั้ง สนับสนุนโดยภาครัฐ โดยจัดตั้งโครงการอนุรักษ์ทุเรียนพื้นบ้านนนทบุรี ช่วยชาวสวนฟื้นฟูและอนุรักษ์สวนทุเรียนให้คงอยู่ และสานต่อภูมิปัญญาของชาวสวนทุเรียนนนท์อีกครั้ง (ข้อมูล : www.duriannon.com)

ทุเรียนนนท์ไม่เหมือนทุเรียนจังหวัดอื่น : เพราะนนทบุรี ปลูกทุเรียนมาตั้งแต่โบราณ เดิมพื้นที่เป็นป่าดิบชื้นลุ่มแม่น้ำ พื้นดินส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวอุ้มน้ำทำให้ดินได้สะสมธาตุอาหารที่พืชต้องการไว้ในดินบวกกับภูมิปัญญาของชาวสวนที่มีการถ่ายทอดการทำสวนเทคนิคต่าง ๆ 

   ทุเรียนนนท์ GI (Credit: www.duriannon.com)

การทำสวนแบบเกษตรอินทรีย์ ที่เป็นที่กล่าวขานกันในยุโรปหรืออเมริกา แต่บรรพบุรุษของชาวนนท์ได้ทำกันมาเป็นร้อยปีแล้ว การเกิดของทุเรียนนนท์ในอดีตเท่าที่ฟังปู่ย่าตายายเล่าให้ฟังว่า...เกิดมาก็เห็นเมืองนนท์มีทุเรียนเป็นร้อยพันธุ์แล้ว แต่ละท้องถิ่นก็เรียกชื่อต่างกันเช่น เรียกตามลักษณะผลตามลักษณะของแม่พันธุ์บ้าง สถานที่เกิดของพันธุ์ ชื่อเดิมผสมกับผู้เพาะ จากการศึกษาพบว่ามีพันธุ์ทุเรียนที่เกิดในนนทบุรีมากกว่า 200 พันธุ์   แต่ในปัจจุบันเหลือไม่กี่พันธุ์  

ในการปลูกทุเรียนหลังจากน้ำท่วม พ.ศ.2538  มีการปลูกทุเรียนเพียง 3 พันธุ์เช่น หมอนทอง ก้านยาว ชะนี เป็นส่วนใหญ่ เป็นทุเรียนที่มีผลทางเศรษฐกิจ ราคาดี เก็บรักษาง่ายและที่สำคัญขายก็คล่อง

  ทุเรียนนนท์ GI (Credit: www.duriannon.com)

ทุเรียนนนท์ GI : หมายถึง ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว, หมอนทอง, ชะนี, กระดุมทอง และพันธุ์พื้นเมือง เช่น พันธุ์ย่ำมะหวาด, กบชายน้ำ, กบแม่เฒ่า, กำปั่นขาว, กำปั่นพวง, สาวน้อย ฯลฯ ปลูกในเขตพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง, บางกรวย, ปากเกร็ด, บางใหญ่, บางบัวทอง และไทรน้อย

   ทุเรียนนนท์ GI (Credit: www.duriannon.com)

ทุเรียนที่มีตราสัญลักษณ์ GI (Geographical Indications) หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งปลูกเฉพาะ เปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่น ระบุถึงที่มาและคุณภาพ

นอกจากทุเรียนนนท์ ที่มี GI ยังมี ทุเรียนป่าละอู, หลงลับแล, หลินลับแล, ปราจีนบุรี, ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ, สาลิกาพังงา และทุเรียนวงในระนอง

ทุเรียนนนท์ GI จำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2560 รวม 771 ลูก ในปีต่อ ๆ มามีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีกรรมวิธีการปลูกพิเศษคือ ชาวสวนจะใช้ใบทองหลางเป็นส่วนผสมสำคัญของปุ๋ย ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม ดินอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้ทุเรียนนนท์ มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์