เกาเหลา “เนื้อเปื่อย” ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ ขายมากว่า 80 ปี
“เนื้อเปื่อย” ร้าน “ต.จันทร์เพ็ญ” เจ้าเก่า “ตลาดพลู”ใครได้ชิมต้องติดใจแบบ “หมูหวานชวนชิม” รสเด็ดทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวมาอย่างดี ทุกส่วนของเนื้อรวมทั้งเครื่องในกลิ่นสะอาด หอมติดปาก “อร่อย” ติดใจขายมา ร่วม 100 ปีตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เนื้อเปื่อย ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เป็นที่รู้จักกันในนาม เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
ต้องติดใจแบบ หมูหวานชวนชิม ขนาดเดินผ่านหน้าร้านกลิ่นหอมจากหม้อ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ต้มเดือดๆร้อนๆโชยออกมากวักมือเรียก พอได้เข้าไปชิมแล้วคิดว่าครั้งเดียวไม่น่าจะพอ
ไป ตลาดพลู ครั้งใดคงต้องแวะชิมอย่างแน่นอน เมนู อร่อย เริ่มจาก เกาเหลาเนื้อ ราคา 80/100/120 บาท ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ราคา 60/80 บาท
ใครไม่รับประทาน “ก๋วยเตี๋ยว” หรือไม่รับประทาน “เนื้อ” มีทางเลือกสั่ง หมี่กระเฉดกุ้ง หรือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และ ข้าวผัดปู มารับประทานแทนก็ได้
เจ้าของร้าน ครรชิต นิตยานนท์ เล่าว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รุ่นใหม่เน้นเครื่องเทศ เพราะใส่กระดูกและเนื้อน้อย ทว่ารุ่นเก่า “เน้นรสเนื้อ” ใส่เนื้อและกระดูกเยอะมากจึงได้น้ำซุปรสกลมกล่อมหอมเนื้อสุดๆ
เนื้อเปื่อย ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เจ้าเก่า ตลาดพลู มีความ อร่อย จน หมูหวานชวนชิม ถึงกับเพ้อหา ถ้าใครคิดว่าไม่ชอบกิน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
มีทางเลือกคือ กะเพราเนื้อเปื่อย หรือ เนื้อน้ำมันหอย ส่วนหมูหวานชอบทุกอย่าง ไปคราวหน้าว่าจะสั่ง เส้นใหญ่เนื้อพิเศษเอ็นแก้ว ถ้าเพิ่มเนื้อกรอบ หรือเอ็นแก้ว บวกราคาเพิ่มอีก 20 บาท
คุณ ครรชิต นิตยานนท์ เล่าว่าช่วยคุณพ่อขาย เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู มาตั้งแต่จำความได้ พอคุณพ่อจากไปเขาจึงสืบทอดวิชามาได้อย่างสบายๆ
ตอนนี้อายุ 61 ปีแล้วเตรียมทายาทรุ่นที่ 3 ไว้แล้วไม่ต้องห่วง(ฮา) ส่วนเขายังคงมีสุขภาพที่แข็งแรงตื่นเช้ามาปรุงความ อร่อย ต้มน้ำซุปทุกวัน
โดยใช้กระดูกขาวัว,เนื้อสามชั้น กับเครื่องสมุนไพรพริกไทยสด พริกไทยเม็ด รากผักชี กระเทียมสด,อบเชย,โป๊ยกั้ก ฯลฯ จนได้น้ำซุปกลมกล่อมหอมกรุ่นแบบยั่วๆ
ภาพโดย: ศุกร์ภมร เฮงประภากร
เนื้อเปื่อย ร้าน ต.จันทร์เพ็ญ เจ้าเก่า ตลาดพลู ไม่ใช่อยู่ดีๆก็มีชื่อเสียงนะจ๊ะ กว่าจะมาเป็น เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ที่ใครๆกินแล้วต้องชมว่า อร่อย ไม่ผิดหวัง
ก็เพราะเขามีความใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง คัดเลือกวัตถุดิบดี มีความอดทน รักและภูมิใจในอาชีพขายอาหาร
คุณ ครรชิต นิตยานนท์ เจ้าของร้านรุ่นที่ 2 เล่าให้ หมูหวานชวนชิม ฟังว่า คุณพ่อของเขามาจากเมืองจีน(แต้จิ๋ว) ตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบพร้อมกับอากง
ปักหลักอยู่ที่ ตลาดพลู อากงวัย 20 กว่าเริ่มอาชีพจากทำงานเป็นกุลีรับจ้างแบกข้าวสาร แล้วก็ติดฝิ่นตามสมัยนิยม(ฮา)
เพราะ ตลาดพลู สมัยก่อนมีโรงฝิ่น ปัจจุบันที่ตรงนั้นกลายเป็นธนาคารไทยพาณิชย์
“พ่อเล่าให้ฟังว่าตลาดพลูเคยมีโรงหนัง 2 โรง เป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรืองรองจากเยาวราช มีโรงหนัง มีร้านทองเหมือนกัน ใต้สะพานนี้สมัยก่อนเป็นตลาดสด แต่จะเปิดตอนสายๆขายไปจนถึงเย็น
อีกฝั่งหนึ่งเป็นตลาดกลางคืนขายอาหารเหมือนกัน เวลาโรงหนังเลิกคนแห่มาหาของกินกัน สมัยก่อนตลาดพลูคึกคักมาก พอทำถนนเส้นนี้เมื่อ 30 กว่าปีก่อน คนหายไปหมด ย้ายไปอยู่ที่อื่น
ถ้าพ่อผมยังอยู่ตอนนี้ก็คงอายุ 100 ปีแล้ว แกเสียไป30 ปีแล้ว บ้านเราอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลางวันขายเกาเหลาเนื้อตุ๋น ด้านหน้าติดถนนกลางคืนก็จะขายข้าวต้มปลาด้านหลัง (หลังบ้านเป็นทางรถไฟ)
ข้าวต้มปลานี่พ่อเขาขายมาตั้งแต่ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตะเกียงเจ้าพายุผมยังเก็บไว้ พอโดนไฟไหม้ถึงจะย้ายมาอยู่ตรงนี้
ได้ 80 ปีกว่าๆ พี่ๆน้องๆขายอาหารทั้งนั้น อย่างร้านข้าวหมูแดงเจ๊สุณี นี่ก็เป็นน้องของพ่อ แต่ตอนนี้แกเสียไปแล้ว”
เฮียครรชิต แสดงทรรศนะว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รุ่นใหม่เน้นเครื่องเทศ ทว่าร้าน ต.จันทร์เพ็ญ ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ เน้นใส่กระดูกวัวและเนื้อสามชั้นเยอะๆ
น้ำซุปจึงหอมกรุ่นกลิ่นเนื้อโดดเด่นมากๆ คนรักเนื้อต้องชอบร้านนี้เพราะมี “เนื้อ”ให้เลือกทุกส่วน
“ดั้งเดิมจริงๆ เราขายแค่เนื้อเปื่อย เนื้อสดกับเครื่องในต้มเช่น ไส้ ม้าม ปอด หัวใจ ตับ หลังๆนี้เพิ่มเอ็น ผ้าขี้ริ้ว
เนื้อกรอบ(เนื้อส่วนน่องมีเอ็นแทรก)หั่นบางๆแล้วลวก ลูกชิ้น (ไม่ได้ทำเอง) เราต้องคัดเนื้อ เพราะถ้ามันเกินไปก็ไม่น่ากิน คนเดี๋ยวนี้เน้นเพื่อสุขภาพไม่กินมันๆ”
สมัยเด็กๆคุณครรชิตขายข้าวต้มปลากับคุณพ่อ มีทั้งปลากะพง ปลาเก๋า ปลาช่อนทะเล ทั้งเกาเหลาและก๋วยเตี๋ยวปลาขายชามละ10 บาท
แรงงานก็คือญาติๆมาช่วยกัน ปัจจุบันอาเจ็คก็ไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวๆคลองสาน ชื่อร้าน ตลาดพลูโอชา ขายเฉพาะเกาเหลา
ภูมิใจในอาชีพ “ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ” ความจริงอยากอนุรักษ์สูตร ข้าวต้มปลา ทว่าปลาตอนนี้ราคาสูงมาก ส่วนชื่อ ต. จันทร์เพ็ญ ต.เต่า มาจากตลาดพลู
จันทร์เพ็ญ มาจากชื่อภาษาจีน ลิ้ม เคียกเซ้ง "ลิ้ม" มาจาก "แซ่ลิ้ม" ส่วน "เคียกเซ้ง" แปลว่า "พระจันทร์วันเพ็ญ"
"ข้าวกะเพราเนื้อ" อร่อยมากเช่นกัน
“บางคนไม่ทานเนื้อ ก็เลยเอาเมนูอื่นๆมาเสริมก็มีหมี่กระเฉดกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ หมี่กรอบราดหน้าหมู ข้าวผัดปู เมนูขายดีของร้านนี้ก็ยังเป็น เกาเหลาเนื้อเปื่อย
คนสมัยก่อนสั่งเกาเหลาชามนึง ข้าวเปล่า 3-4 ถ้วย กินเก่งกว่าคนสมัยนี้ บางทีเกาเหลาชามหนึ่งกินกันทั้งครอบครัว ข้าว 5-6 ชาม คนสมัยก่อนทานข้าวจุ คนสมัยนี้กินข้าวครึ่งถ้วย”
ร้าน เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู มีคติพจน์ว่า ตั้งใจทำอาหารให้ดีเพราะเจ้าของร้านและครอบครัวก็รับประทานเอง ขายสิ่งที่ดีที่ตนเองปรารถนาที่จะได้กิน วัตถุดิบสมัยพ่อใช้แบบไหนก็รักษาไว้แบบนั้น
นอกจาก ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และ เกาเหลาเนื้อเปื่อย แล้ว ร้านนี้ยังมีขนมหวานประเภทต้มๆ ที่ขายดีมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ อาทิเช่น มันต้มขิง
มันต้มขิง ขายมา 80 ปีแล้วเช่นกัน
ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ถั่วแดงเม็ดเล็กต้มน้ำตาล ลูกเดือยต้มน้ำตาล ต้มกะทิมีพวกข้าวเหนียวถั่วดำ สาคูถั่วดำ เต้าส่วน ข้าวเหนียวดำ
ไปวันอังคารจะได้กิน "เผือกแกงบวด" แสนอร่อย
น้ำกะทิแยกต่างหาก ฟักทองแกงบวด กล้วยบวดชี มีเมนูพิเศษประจำวันอังคารคือ เผือกแกงบวด
"หมูหวานชวนชิม" ชอบ "กล้วยบวดชี" เนื้อกระชับเคี้ยวหนึบหนับดี
ร้านเกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู (ต.จันทร์เพ็ญ) ร้านอร่อยในตำนาน ที่รับรองคนรักเนื้อต้องไม่ผิดหวัง อยู่แถวตลาดพลู
เลขที่ 1117 ถนนเทิดไท ตลาดพลู ธนบุรี กรุงเทพฯ (ใกล้กับสถานีรถไฟตลาดพลู) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. โทร. 065-117-1117 และ 02 891 4042
หน้าร้าน เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู (ต.จันทร์เพ็ญ)
ขนมหวานประเภทต้มน้ำตาล กับต้มกะทิ ร้านนี้ก็อร่อยมานานด้วยนะคะ