ไหว้พระหมอ"ศาลเจ้าโจวซือกง" ให้คุ้มครอง"ดวง"ด้านสุขภาพ ไม่ป่วย ไม่ไข้
ศาลเจ้าเก่าแก่"โจวซือกง" อายุกว่า 200 ปี ย่าน"ตลาดน้อย" เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวจีนฮกเกี้ยน ส่วนใหญ่มาขอพรคุ้มครองสุขภาพและเป็นสิริมงคล โดยฝากดวงให้คุ้มครอง
สักครั้งในชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีน ต้องมาไหว้ขอพรเรื่องสุขภาพ ให้คุ้มครองไม่ป่วย ไม่ไข้ จากพระหมอโจวซือกง หรือ หลวงปู่โจวซือกง ที่ศาลเจ้าโจวซือกง ตลาดน้อย ย่านอะไหล่เซียงกง
ศาลเจ้าโจวซือกง เป็น 1 ใน 9 ศาลเจ้า ที่นักท่องเที่ยวไต้หวันต้องมากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต เมื่อไม่นาน ผู้เขียนก็มีโอกาสไปไหว้พระหมอ กับ KTC Press club บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด จึงถือโอกาสฝากดวง เขียนชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด บนกระดาษเงิน กระดาษทอง ให้คุ้มครองดวง มีสุขภาพที่ดีตลอดทั้งปี
ถ้าเข้าไปด้านในข้างๆ เทพประธาน จะมีตู้ให้วางกระดาษเงิน กระดาษทองให้เขียนคุ้มครองดวง บางคนอยู่ต่างประเทศหรือต่างจังหวัด ก็ฝากญาติพี่น้องมาทำบุญ ฝากดวงไว้กับหลวงปู่โจวซือกง แม้ชาวจีนฮกเกี้ยนจะไม่เชื่อเรื่องการแก้ปีชง แต่มีความเชื่อว่า หลวงปู่จะคุ้มครองดวงได้
ศาลเจ้าโจวซือกง อายุกว่า 200 ปี
ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุนเล่งยี่) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของชาวจีนฮกเกี้ยนที่ตลาดน้อย อายุกว่า 200 ปี สร้างในปีพ.ศ.2347 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโจวซือกง และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ อาทิ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อเสือ เทพเจ้า 36 องค์ เทพเจ้าฟ้าดิน ตี่จู้เอียะ ฯลฯ
ป้ายตั้งเป็นลักษณะของฮกเกี้ยน
(หลังคาเปิดโล่งระบายอากาศ ลักษณะเด่นของศาลเจ้าโจวซือกง)
ศาลเจ้าแห่งนี้ สร้างในสมัยรัชกาลที่1 โดยเศรษฐีชาวจีนฮกเกี้ยน ที่เข้ามาพึ่งพิงพระบรมโพธิสมภารเปิดโรงเผาถ่าน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านตลาดน้อย ตอนนั้นเขานำเทพเจ้าที่นับถือมาจากเมืองจีน จึงได้ตั้งศาลเจ้าให้ท่านประทับ
ภายในศาลเจ้า สร้างด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อเป็นศูนย์กลางของชาวจีนฮกเกี้ยนในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย
พระหมอ หรือเทพเจ้าโจวซือกง
พระหมอใบหน้าสีน้ำตาลเข้ม เทพประธานประจำกลุ่มฮกเกี้ยน ซึ่งคนใหญ่นิยมมาขอพรสามอย่างคือ "สุขภาพ อยู่เย็นเป็นสุข โชคลาภ"
ตามคติความเชื่อแบบจีน การกราบไหว้เทพในศาลเจ้า ไม่จำเป็นต้องบนบานศาลกล่าว สามารถขอพรได้เลย จำแนกเป็นเรื่องๆ ไป
ว่ากันว่า พระหมอโจวซือกง เป็นเทพที่มีตัวตน เกิดในสมัยราชวงศ์ซ่ง เมื่อท่านอุปสมบทเป็นสามเณร ท่านธุดงค์และถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหมิงกงฉานซือ รักษาผู้เจ็บป่วยทุกข์ยาก และเผยแพร่ธรรมะ
ชื่อเสียงของท่านเป็นที่กล่าวขานว่า“ที่ใดประสบภัยพิบัติ นิมนต์ท่านช่วยปัดเป่าขจัดภัยต่างๆได้”
ตอนที่ท่านเป็นพระภิกษุ ราชวงศ์ซ่ง มีเรื่องเล่าว่า ตอนที่ฮ่องเต้กำลังจะถูกลอบวางยาพิษ ท่านเสียสละฉันซุปแทน จึงเสียชีวิต ทำให้มีใบหน้าสีคล้ำๆ
สถาปัตย์แบบฮกเกี้ยน
อาคารหลักศาลเจ้าโจวซือกง จะเปิดช่องหลังคาทั้งสองข้างให้เป็นพื้นที่โล่ง เพื่อให้แสงแดดส่องและลมเย็นเข้ามาในศาลเจ้า ประตูอาคารหลักมีสามประตู แตกต่างจากศาลเจ้าจีนแต้จิ๋วในพื้นที่เยาวราชทั่วไป
ศาลเจ้าแห่งนี้ประกอบด้วย ประตูใหญ่ หรือประตูองค์ประธานหลวงปู่โจวซือกง ,ประตูด้านที่ตรงกับแท่นบูชาเจ้าพ่อกวนอู และประตูที่ตรงแท่นบูชาเทพ
ชาวฮกเกี้ยนเชื่อกันว่า การเข้าออก เพื่อขอพรเทพเจ้าในศาลเจ้า ส่งผลดีแก่ตัวผู้เข้ามาขอพร จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
นอกจากนี้ศาลเจ้าโจวซือกง ยังเป็นศาลเจ้าจีนฮกเกี้ยนแห่งเดียวในเยาวราช ที่มีข้อห้ามไหว้ด้วยเนื้อสด เพราะองค์ประธานของศาลเจ้าเป็นพระ
(เขียนฝากดวงไว้กับหลวงปู่โจวซือกง)
"""""""""""
อ้างอิง :
-ย่านจีนถิ่นบางกอก ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสถาบันอาศรมศิลป์
-บทความวิจัย เรื่องการศึกษาเปรียบเทียบความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจา้ของชาวไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋วและฮกเกี้ยน กรณีศึกษา ศาลเจ้าในเยาวราช จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดย นางสาว สุภาภรณ์ เมืองคา