เปิดลิสต์ "หนังภาคต่อ" ที่ปล่อยให้คน "รอ" นานที่สุด
“Top Gun: Maverick” ที่พึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง “Top Gun” ที่เข้าฉายเมื่อ 36 ปีที่แล้ว นับว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่มภาคต่อห่างจากภาคแรกนานที่สุด แต่ก็ยังไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เข้าฉายห่างจากภาคแรกนานที่สุด
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวมภาพยนตร์ภาคต่อที่เว้นช่วงห่างจากภาคแรกนานที่สุด ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
Avatar: The Way of Water (2565) - 13 ปี
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในโลกอย่าง “Avatar” (2552) หลังจากที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกมากหลายรอบ จนทำแฟนหนังต้องรอคอยนานถึง 13 ปี ในที่สุด ก็สิ้นการรอคอย “Avatar: The Way of Water” มีกำหนดเข้าฉาย 15 ธ.ค. ปีนี้
ครั้งนี้ ทีมนักแสดงชุดเดิมยังคงกลับมาครบ และยังมี “เคต วินสเล็ต” ที่กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ “เจมส์ คาเมรอน” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ “Titanic” โดยภาคนี้เรื่องราวจะเจาะลึกไปที่ท้องทะเลของบนดาวแพนดอรา ไม่ใช่แค่เพียง 2 ภาค แต่คาเมรอนจัดหนักทำอวตารถึง 5 ภาค ซึ่งมีกำหนดฉายยาวไปถึงปี 2571
The Incredibles 2 (2561) - 14 ปี
แอนิเมชันครอบครัวฮีโร่อย่าง “The Incredibles” (2547) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของรายได้และยังคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมได้อีกด้วย ซึ่งแฟนหนังต่างเรียกร้องให้สร้างภาคต่อกันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2561 “The Incredibles 2” ได้เข้าฉาย แม้จะห่างจากภาคแรกถึง 14 ปี แต่ยังคงได้รับความนิยมทั้งในแง่ของรายได้และยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เช่นเดิม
Jurassic World (2558) - 14 ปี
ภาพยนตร์ไตรภาคตะลุยโลกไดโนเสาร์ “Jurassic Park” ภาคแรกออกฉายในปี 2536 แต่ละภาคจะเล่าถึงแต่ละพื้นที่ของเกาะที่มีไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอาศัยอยู่ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในด้านรายได้
หลังจากนั้นในอีก 14 ปีให้หลัง เหล่าไดโนเสาร์ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งกับ ไตรภาค “Jurassic World” ในปี 2558 ซึ่งทำรายได้กว่า 1,671 ล้านดอลลาร์ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของโลกในอันดับ 7 และ ภาคล่าสุดในชื่อ “Jurassic World Dominion” จะเข้าฉายในไทยวันที่ 8 มิ.ย. โดยความพิเศษของภาคนี้นอกจากจะเป็นตอนจบของไตรภาคนี้แล้ว ยังได้นักแสดงนำจากภาค Jurassic Park ทั้ง “แซม นีล” “ลอร่า เดิร์น” และ “เจฟฟ์ โกลด์บลุม” กลับมาร่วมแสดงด้วย
Bad Boys for Life (2563) - 17 ปี
“Bad Boys for Life” เป็นภาพยนตร์แนวแอคชันภาคที่ 3 ของภาพยนตร์ชุด Bad Boy (2538) ที่นำแสดงโดย “วิล สมิธ” สำหรับ Bad Boys for Life นี้เข้าฉายห่างจาก “Bad Boy II” (2548) ถึง 17 ปี แต่ก็ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดี แม้ว่าจะเข้าฉายในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำรายได้ไปกว่า 426 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งสมิธยังได้รับรางวัลจากเวที People's Choice Awards ในสาขานักแสดงนำชายยอดนิยมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทอม รอธแมน ประธาน Sony Pictures ยืนยันว่า ภาพยนตร์ในภาค 4 ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาบทและไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด แม้หลายค่ายผู้สร้างภาพยนตร์จะแบนสมิธ หลังจากที่สมิธตบหน้าคริส ร็อค บนเวทีออสการ์ครั้งล่าสุด
Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (2551) - 19 ปี
ภาพยนตร์ชุด “Indiana Jones” เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยล่าขุมทรัพย์นำแสดงโดย “แฮร์ริสัน ฟอร์ด” ภาคแรกใช้ชื่อว่า “Raiders of the Lost Ark” (2524) และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ยอดฮิต จนมีการสร้างต่อมาอีก 3 ภาค โดยภาคล่าสุดใช้ชื่อว่า Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (2551) เข้าฉายห่างจากภาคก่อนหน้านี้ถึง 19 ปี
สำหรับ Indiana Jones ในภาคที่ 5 ซึ่งจะเป็นภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดนี้ นั้นได้กำหนดวันเข้าฉายในสหรัฐไว้ที่ 30 มิ.ย. 2566 และฟอร์ดยังคงกลับมารับบทเดิม
Rambo (2551) - 20 ปี
ภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญชุดแรมโบ้ ที่คนไทยรู้จักกันในนาม นักรบเดนตาย นำแสดงโดย “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” ภาคแรกเข้าฉายในชื่อว่า “First Blood” (2525) โดย “Rambo” ภาคที่ 4 นั้นเข้าฉายในปี 2551 ซึ่งห่างจากภาค 3 ถึง 20 ปี หลังจากนั้นแรมโบ้ในภาคที่ 5 ก็เข้าฉายในปี 2562
ในปี 2564 มีการประกาศว่าจะสร้างซีรีส์แรมโบ้ โดยค่าย Millennium Media ซึ่งเป็นการโฟกัสเรื่องราวไปที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนในภาพยนตร์
Psycho II (2526) - 23 ปี
ภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญทางจิตวิทยาขึ้นหิ้งอย่าง “Psycho” ที่สร้างมาจากนวนิยายชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าพบในโมเต็ลแห่งหนึ่งและพบกับ “นอร์แมน เบตส์” ผู้ดูแลโมเต็ล ทำให้เธอต้องพบเจอกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน ภาพยนตร์เรื่องประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีหลายฉากที่เป็นตำนานกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน และถูกยกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของผู้กำกับ “อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก”
หลังจากนั้น 23 ปี “Psycho II” ก็กลับมาอีกครั้ง โดย “แอนโทนี ฮอปกินส์” กลับมารับบท นอร์แมน เบตส์ แต่ฮิตช์ค็อกไม่ได้กลับมากำกับ ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าดีพอสมควร แต่ไม่มากเท่าภาคแรก ทั้งหมดแล้ว Psycho มีทั้งสิ้น 4 ภาค และมีการกลับมาทำเป็นซีรีส์ในชื่อว่า “Bates Motel” (2556) ซึ่งเป็นเรื่องราวของนอร์แมนก่อนที่จะเป็นฆาตกร
Mad Max: Fury Road (2558) - 30 ปี
ภาพยนตร์แนวผจญภัยหลังเหตุการณ์วันสิ้นโลกชุด “Mad Max” นั้น ไตรภาคแรกนั้นได้ออกฉายตั้งแต่ปี 2522 โดยภาค 3 ออกฉายในปี 2528 ก่อนที่ในปี 2558 “Mad Max: Fury Road” จะเข้าฉาย ซึ่งเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ของแฟรนไชส์ โดยมีการเปลี่ยนนักแสดงนำจาก “เมล กิบสัน” มาเป็น “ทอม ฮาร์ดี้”
“Mad Max 2” และ Mad Max: Fury Road ถูกยกย่องจากนิตยสาร Rolling Stone ให้เป็นภาพยนตร์แอคชันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่มีมา อีกทั้งภาพยนตร์ตระกูล Mad Max ยังได้รับรางวัลออสการ์ทั้งสิ้น 6 รางวัล จากการเข้าชิง 10 รางวัล อย่างไรก็ตามในปี 2567 “Furiosa” ภาพยนตร์ภาคแยกเรื่องแรกของแฟรนไชส์จะเข้าฉาย นำแสดงโดย “คริส เฮมส์เวิร์ธ”
Coming 2 America (2564) - 33 ปี
หลังจากที่ “Coming to America” ภาพยนตร์แนวตลกที่สร้างชื่อให้กับ “เอ็ดดี้ เมอร์ฟี” เข้าฉายในปี 2531 ถัดมาในอีก 33 ปี “Coming 2 America” ก็ถูกสร้างขึ้น โดยเป็นออริจินัล คอนเทนต์ ของ “Amazon Prime Video”
Blade Runner 2049 (2560) - 35 ปี
“Blade Runner” เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ ที่สร้างมาจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกัน เข้าฉายครั้งแรกในปี 2525 นำแสดงโดย แฮร์ริสัน ฟอร์ด แม้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ Blade Runner ก็เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญให้กับเกมและภาพยนตร์แนวไซไฟในยุคหลัง โดยเฉพาะ Cybertruck รถกระบะของ “Tesla”
หลังจากนั้นในปี 2560 “Blade Runner 2049” ภาคต่อของ Blade Runner ได้เข้าฉายหลังจากภาคแรกถึง 35 ปี โดย “ไรอัน กอสลิง” มารับบทนำแทนฟอร์ด ภาคนี้ยังคงทำรายได้ไม่ดีนัก แต่ว่า Blade Runner 2049 สามารถกวาดรางวัลในด้านเทคนิคและภาพได้จากหลายเวที รวมไปถึงรางวัลออสการ์ในสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม และ วิชวล เอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม
The Jungle Book 2 (2546) - 36 ปี
ภาพยนตร์เรื่อง “The Jungle Book 2” (2546) การผจญภัยครั้งใหม่ของเมาคลี ลูกหมาป่า และผองเพื่อน ออกฉายหลังจาก “The Jungle Book” (2510) เข้าฉายถึง 36 ปี เดิมทีวอลต์ ดิสนีย์ตั้งใจว่าจะจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในรูปแบบของโฮม วิดีโอเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ โดยเก็บรายได้ไป 135 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่คำวิจารณ์กลับไม่ได้ดีเท่ากับภาคแรก
Top Gun: Maverick (2565) - 36 ปี
ภาพยนตร์แอคชันที่พึ่งเข้าฉายในสัปดาห์นี้อย่าง “Top Gun: Maverick” เป็นภาคต่อของหนึ่งในภาพยนตร์สร้างชื่อให้กับ “ทอม ครูซ” อย่าง “Top Gun” ที่เข้าฉายในปี 2529 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งรายได้ เพลงประกอบภาพยนตร์ กลายเป็นหนึ่งภาพยนตร์ในตำนาน
ภาคต่ออย่าง Top Gun: Maverick ก็ได้ได้รับคำวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม ได้รับการยืนปรบมือ (Standing Ovation) กว่า 5 นาทีจากการฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2022) และคาดการณ์ว่าจะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐไม่ต่ำกว่า 90 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าภาคแรกที่ทำไปได้เพียง 8 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
Mary Poppins Returns (2561) - 54 ปี
“Mary Poppins” ภาพยนตร์มิวสิคัลสุดคลาสิก หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ “จูลี แอนดรูว์ส” และทำให้แอนดรูว์ส คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวทีออสการ์ได้สำเร็จ กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์มิวสิคัลระดับตำนาน ซึ่งใช้เวลากว่า 54 ปีที่จะมีภาคต่อในชื่อ “Mary Poppins Returns” ที่ได้ “เอมิลี บลันท์” มารับบท แมรี ป็อปปินส์ แทน แอนดรูว์ส แม้ว่ากระแสตอบรับจะไม่ได้ดีเท่าภาคแรก แต่ว่า Mary Poppins Returns ทำรายได้ทั่วโลกไป 350 ล้านดอลลาร์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 4 สาขาในรางวัลออสการ์
Bambi II (2549) - 64 ปี
ภาพยนตร์ที่มีภาคต่อห่างจากภาคแรกนานที่สุดถึง 64 ปี คือ แอนิเมชันจากดิสนีย์เรื่อง “Bambi II” ที่เข้าฉายในปี 2549 ซึ่ง “Bambi” ภาคแรกนั้นเข้าฉายในปี (2485) ซึ่งเป็นเรื่องราวของกวางดาวตัวน้อยที่พึ่งลืมดูโลก และผจญภัยไปทั่วป่า โดยเป็นเพื่อนกับสกั๊งค์และกระต่าย
เนื่องด้วยระยะเวลาที่ห่างกันถึง 64 ปีจึงทำให้มีการเปลี่ยนผู้พากย์เสียงตัวละครแบมบี้ จาก “ฮาร์ดี อัลไบรท์” เป็น “อเล็กซานเดอร์ กูลด์”
ที่มา: Collider, The Culture Crossing
กราฟิก: ณัชชา พ่วงพี