‘Top Gun: Maverick’ หนังเปิดตัว 100 ล้านเหรียญเรื่องแรกในชีวิต “ทอม ครูซ”
สร้างห่างจากภาคแรกนานถึง 36 ปี แต่ไม่มีแผ่ว “Top Gun: Maverick” ทำรายได้ช่วงเปิดตัวทะลุ 124 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ กลายเป็นหนังที่ทำรายได้ช่วงเปิดตัวสูงสุดในชีวิตการแสดงของ “ทอม ครูซ”
อยู่ในวงการแสดงมาเป็นเวลากว่า 40 ปี เล่นหนังมาแล้วกว่า 50 เรื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่า ภาพยนตร์ Top Gun ภาค 2 หรือ Top Gun: Maverick เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของ “ทอม ครูซ” ที่ “ทำรายได้ช่วงเปิดตัว” ทะลุหลัก 100 ล้านดอลลาร์
Box Office Mojo รายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ 27-29 พฤษภาคม 2565 ภาพยนตร์ “Top Gun: Maverick” กวาดรายได้เฉพาะในแถบอเมริกาเหนือไปสูงถึง 124 ล้านดอลลาร์ (กว่า 4,200 ล้านบาท) จนกลายเป็นหนังเปิดตัวในบ้านได้สูงที่สุดของ “ทอม ครูซ” กันเลยทีเดียว
เท่านั้นไม่พอ “Top Gun: Maverick” ยังกวาดรายได้ทั่วโลกไปอีก 124 ล้านดอลลาร์เท่ากัน ทำให้รายได้รวมช่วงเปิดตัวนั้นสูงถึง 248 ล้านดอลลาร์ (กว่า 8,400 ล้านบาท)
ส่วนในประเทศไทยนั้น Top Gun: Maverick ก็ทำรายได้เป็นที่น่าพอใจเช่นกัน โดยข้อมูลจาก “ชมรมวิจารณ์บันเทิง” ระบุว่า หนังเข้าฉาย 5 วัน ระหว่างวันที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2565 ทำรายได้ไปมากถึง 28.50 ล้านบาท
ถึงแม้ ทอม ครูซ จะมีหนังที่สร้างชื่อให้กับเขามากมายหลายเรื่อง รวมถึงหนังแฟรนไชส์สายลับยอดนิยมอย่าง Mission Impossible ที่ออกมาแล้วถึง 6 ภาค ขณะที่ตัวเขาเองก็ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงทำเงินสูงอันดับต้นๆ ของฮอลลีวู้ด
ทว่า หนังที่เปิดตัวในบ้านสูงสุดเรื่องก่อนหน้านี้ของ ทอม ครูซ คือ War of the Worlds เมื่อปี 2005 ซึ่งทำรายได้ช่วงเปิดตัวที่ 65 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย “Mission: Impossible — Fallout” ที่ทำรายได้ช่วงเปิดตัวในปี 2018 ไปได้ 61 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่งมามี “Top Gun: Maverick” ที่ทำได้ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์เป็นเรื่องแรก
ที่น่าสนใจคือ ผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์คาดว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้ทะลุ 151 ล้านดอลลาร์ ในช่วงวันหยุด Memorial Day ของสหรัฐฯ ที่มีวันหยุดติดต่อกันนาน 4 วัน แล้วก็อาจจะยังคงความแรงต่อไปได้อีก 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีหนังฟอร์มยักษ์มาฉายแข่งเลย จนกว่าจะถึงวันที่ 10 มิถุนายน ที่จะมี Jurassic World: Dominion จากค่ายยูนิเวอร์แซล มาเข้าฉาย
นอกเหนือไปจากสถิติประดับอาชีพนักแสดงของ ทอม ครูซ เองแล้ว การเปิดตัวได้อย่างงดงามทั่วโลกของ “Top Gun: Maverick” ยังเป็นสัญญาณอันดีสำหรับคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ว่า ตลาดหนังกำลังเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 แล้ว และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ หนังเรื่องนี้ดึงคอหนังยุค 80-90 กลับมาเข้าโรงดูหนังกันมากขึ้น
ทั้งนี้ Top Gun ภาค 2 สร้างห่างจากภาคแรกเป็นเวลานานถึง 36 ปี แต่ปรากฎว่าสามารถดึงดูดทั้งแฟนหนังรุ่นเก่าที่เคยดูภาคแรกมาแล้ว และแฟนหนังของ ทอม ครูซ รุ่นใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยดูภาคแรก กลับเข้าโรงหนังได้พร้อมๆ กัน โดยข้อมูลจากค่ายพาราเมาท์ ระบุว่า 55 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เข้าโรงไปดูหนังเรื่องนี้มีอายุเฉลี่ย 35 ปี
ขณะที่เหล่านักวิจารณ์จากสำนักต่างๆ ก็พร้อมใจกันเทคะแนนให้ “Top Gun: Maverick” ว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การที่จะซื้อตั๋วเข้าไปดูในโรง