อาหารต้องห้าม เมนูอันตราย ต่อน้อง “แมว”
หลายคนไม่รู้ว่าอาหารคนไม่เหมาะสำหรับแมว บางอย่างเป็นอันตรายถึงชีวิต น้องแมวควรกินอาหารอะไร แล้วถ้าน้องแมวไม่กินอาหารจะต้องทำอย่างไร
แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ เป็นนักล่า ต้องการโปรตีนสูงกว่าสุนัข อาหารโปรดของแมว คือ อาหารเม็ด อาหารแบบเปียก ขนมแมวเลีย
อาหารที่คนกินหลายอย่าง แมวห้ามกินโดยเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาหารแมว ไม่เหมือนกับอาหารสุนัข ชุดโภชนาการก็ต่างกัน ควรประกอบด้วย วิตามินเอ, ทอรีน, กรดอะราคิโดนิก, โปรตีนปริมาณมาก
สุนัขอยู่ได้ด้วยปริมาณวิตามินเอและโปรตีนต่ำกว่า เพราะสุนัขผลิตทอรีนและกรดอะราคิโดนิกได้
ขณะที่แมวจะได้ต่อเมื่อกินอาหาร หากไม่มี ทอรีน เพียงพอ แมวอาจเป็นโรคหัวใจ มีปัญหาสายตาและสุขภาพฟันได้
- ประเภทของอาหารแมว
มี 3 แบบ แบบปรุงเอง, แบบอาหารกระป๋อง, แบบอาหารเม็ด
1)อาหารที่ปรุงเอง อาจมีคุณค่าสารอาหารไม่ครบเท่าที่แมวต้องการ และการปรุงแต่งรสชาติก็เป็นอันตรายต่อแมว ทำให้ไต,ระบบปัสสาวะมีปัญหาเพราะมีรสเค็มหรือมีเกลือมากเกินไป
2)อาหารกระป๋อง ที่ปรุงขึ้นมาสำหรับแมว แบ่งเกรดตามวัตถุดิบ มีกลิ่นยั่วยวนแบบที่แมวชอบ เปิดแล้วต้องกินให้หมด เพราะเน่าเสียง่าย หากทิ้งไว้จะมีแมลงเข้ามารบกวน
3)อาหารเม็ด มีสารอาหารครบถ้วน แบ่งเกรดตามวัตถุดิบ ตั้งทิ้งไว้ให้กินได้ทั้งวัน หรือให้เป็นมื้อ ๆ
ที่สำคัญไม่ว่าจะให้อาหารอะไร ควรตั้งน้ำสะอาดไว้ด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่กินน้ำน้อย อาจเป็นนิ่วได้
ปลาทู ที่เค็มมาก หรือ ทูน่ากระป๋อง ไม่เหมาะสำหรับแมว (ไม่ว่าน้ำมันพืชหรือน้ำแร่) มันเค็มพอดีสำหรับคน แต่มากไปสำหรับแมว
ปลากระป๋อง อาจดีกว่าเพราะไม่ได้เติมสารปรุงรส แต่ก็ไม่ควรนำมาเลี้ยงแมวบ่อยเพราะมีสารตะกั่วและแม็คนีเซียม
อาหารกระป๋องที่มีส่วนผสมของตับนิดหน่อย กินได้ไม่เป็นอะไร แต่ไม่ควรให้บ่อย เพราะ ตับ เป็นพิษต่อการดูดซึมวิตามินเอ ทำให้กระดูกเปราะ เกิดภาวะผิดปกติในการเติบโตของกระดูก
- อาหารต้องห้ามสำหรับน้องแมว
1.นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว
แมวไม่มี เอนไซม์ ย่อย น้ำตาลแลคโตส ในน้ำนมวัว กินแล้วจะท้องเสีย อาเจียน ควรให้ นมแพะ, นมสำเร็จรูปสำหรับแมว, นมปราศจากน้ำตาลแลคโตส จะดีกว่า
2.ปลาดิบ เนื้อดิบ ไข่ดิบ
มีเชื้อแบคทีเรีย Salmonella หรือ E.coli เมื่อแมวกินเข้าไปจะมีภาวะอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย อาเจียน เซื่องซึม และในไข่ขาวดิบมีเอนไซม์ Avidin ลดการดูดซึมไบโอตินหรือวิตามิน B ทำให้แมวมีปัญหาผิวหนัง ขนร่วง ขนหยาบ
ส่วน ปลาดิบ หากแมวกินเป็นระยะเวลานานจะทำให้ขาดวิตามิน B1 เบื่ออาหาร ช็อกหมดสติ โคม่า หรือเสียชีวิตได้
3.ก้างปลา, กระดูกไก่
เป็นอันตรายมาก เพราะก้างปลาและกระดูกที่แตกมีความแหลมคม อาจทิ่มคอ ติดคอ ทำให้เกิดแผล ไอเป็นเลือด ทิ่มกระเพาะทะลุ เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ขับถ่ายไม่ได้ ต้องไปผ่าตัด หากเราไม่รู้ปล่อยทิ้งไว้แมวอาจตายได้
4.ตับ
เป็นพิษต่อการดูดซึม วิตามิน A มีผลต่อการเติบโตของกระดูกและมดลูก ทำให้กระดูกเปราะ
5.หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม
ทั้งแบบดิบและแบบสุก เมื่อแมวกินเข้าไปจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก โลหิตจาง ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ลำไส้ หากมากหรือมีความเข้มข้นสูง แมวจะอ่อนเพลีย เซื่องซึม ไม่กินอาหาร เหงือกซีด ปัสสาวะสีส้มถึงแดงเข้ม ควรรีบพาไปหาหมอทันที
ใน อาหารเหลวสำหรับทารก จะมีส่วนประกอบของ หัวหอม ถ้าลูกแมวกินเข้าไปจะเกิดอาการอ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว โลหิตจาง
6.มะเขือเทศ มันฝรั่ง
มีสารชื่อว่า Glycoalkaloid Solanine ที่เป็นพิษกับน้องแมว ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้
7.องุ่น และ ลูกเกด
หากแมวกินเข้าไปจะทำให้เกิดภาวะคลื่นไส้ อาเจียน อย่างรุนแรง เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน ถึงขั้นเสียชีวิตได้ภายใน 12 ชั่วโมง
8.อะโวคาโด
มีสารพิษ Persin เป็นอันตรายต่อสัตว์จำพวก นก กระต่าย ม้า วัว ควาย แพะ แกะ หากแมวกินเข้าไปจะเกิดอาการหายใจติดขัด หัวใจเต้นผิดปกติ
9.ถั่วแมคคาเดเมีย
มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตัวสั่น ชัก ซึม อาเจียน หลังกินเข้าไป 12 ชม. และอยู่ได้นานถึง 48 ชม. แมวจะเจ็บปวด เมื่อย เป็นไข้ อาเจียน ซึม อัมพาตขาหลัง และอาจเสียชีวิตได้
10.ช็อกโกแลต
มีสาร Theobromine ทำให้การเต้นของหัวใจผิดปกติ หัวใจเต้นแรง กล้ามเนื้อกระตุก ใจสั่น อาเจียน ท้องเสีย ลมชัก ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แม้ได้รับเพียงไม่กี่มิลลิกรัม ยิ่งถ้าเป็น “ดาร์กช็อกโกแลต” จะมีความเข้มข้มมาก อันตรายมาก
11.ชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ที่มีคาเฟอีน
จะมีสาร methylxanthines, caffeine, theobromine ทำให้น้องแมวเกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย หอบเหนื่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย สูญเสียของเหลวในร่างกาย อยู่ไม่นิ่ง การเต้นหัวใจผิดปกติ ตัวสั่น ถึงขั้นเสียชีวิตได้
12.เหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หากแมวกินเข้าไป จะทำลายระบบการทำงานของสมองและตับ อาเจียน ท้องเสีย สูญเสียการควบคุมร่างกาย กดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง หายใจลำบาก เกิดอาการสั่น ถึงขั้นโคม่า เสียชีวิตได้ จึงควรระวังอาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (หรือแป้งดิบที่มียีสต์ ก็ทำให้เกิดแอลกอฮอล์ในท้องได้)
13.ลูกอม หมากฝรั่ง น้ำอัดลม
มีสารให้ความหวาน Xylitol ถ้าแมวกินเข้าไปจะกระตุ้นการผลิตอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วจนเป็นอันตราย หมดสติ ชัก อาเจียน เลือดออกในกระเพาะอาหาร, ลำไส้, ช่องท้อง และทำให้ตับวายได้
14.ยา พาราเซตามอล
ถ้าแมวกินเข้าไป จะเกิดความผิดปกติในระบบเลือด เป็นพิษต่อเม็ดเลือดแดง การขนส่งออกซิเจนลดลง เกิดอาการหอบ หน้าบวม อาเจียน น้ำลายไหล หอบ เหงือกสีคล้ำ ใบหน้าและเท้าบวม ถ้าได้รับยาปริมาณมากจะเสียชีวิตภายใน 24-48 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมี อาหารรสเค็ม เช่น มันฝรั่งทอด ป็อปคอร์นรสเค็ม หากแมวได้รับปริมาณเกลือที่มากเกินไป จะทำให้กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย อาเจียน ท้องเสีย อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น มีอาการสั่น ชัก ถึงขั้นเสียชีวิต ได้
ส่วน อาหารทอด เช่น ลูกชิ้น ไก่ทอด หมูทอด จะมีการปรุงรส ทำให้แมวเป็นโรคไต โรคมะเร็ง แมวไม่มีระบบคัดกรองสารก่อมะเร็งเหมือนคน กินเข้าไปแล้วร่างกายจะทำงานหนัก
- สาเหตุที่แมวไม่กินอาหาร
ถ้าแมวเลือกกินหรือกินน้อย ไม่ตื่นเต้นกับอาหาร มีอาหารเหลือมากกว่าปกติ แสดงว่าแมวกำลังป่วย
ถ้าเลี้ยงแมวหลายตัวควรมีชามอาหารของตัวเองจะได้สังเกตได้ว่าตัวไหนกินน้อยหรือมาก
เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ป่วยหนักจริง ๆ จะไม่แสดงอาการออกมา หากแมว ซึม ไม่ร่าเริง หงุดหงิด ไม่กินอาหาร ต้องพาไปหาหมอ
อาหารที่แมวไม่กิน คือ อาหารบูด, อาหารเพิ่งออกจากตู้เย็น, อาหารเพิ่งทำมาร้อน ๆ , อาหารกลิ่นแปลกๆ อาหารแมวควรมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง หรือบางทีความเครียดจากการย้ายที่อยู่ก็ทำให้แมวไม่กินอาหาร
- วิธีเช็คอาการเบื้องต้น ถ้าแมวไม่กินอาหาร
หากแมวมีอาการซึมร่วมกับไม่กินอาหาร ให้ดูสีเหงือก ดูความชุ่มชื้นของเหงือก ว่ามีภาวะขาดน้ำหรือไม่ โดยหยิบหนังบริเวณคอของแมวขึ้นมาแล้วปล่อยดูระยะเวลาคืนตัวว่าเร็วหรือช้า มีไข้หรือไม่ มีความเจ็บปวดหรือไม่ หากพบอาการผิดปกติให้รีบพาแมวไปหาหมอ
หากแมวมี น้ำหนักตัวลดลง คือสัญญาณบอกว่า ไม่มีสารอาหารในร่างกาย หรือเวลาที่แมวไม่กินอาหาร ก็คือสัญญาณแรกของโรคทุกชนิด หากรู้เร็วก็รักษาได้เร็ว
...........................
อ้างอิง : Hill's Pet Nutrition, Shirt4social, PURINA, Meaw-Club, Tailybuddy, Royal Canin