"ดื่มไวน์แบบสน็อบ” คืออะไร ? "ไวน์เบลนด์" คือไวน์เติมสารเคมี จริงหรือ...
“ไวน์เบลนด์" (Blend) ภาษาไวน์หมายถึง “การนำองุ่นหลายพันธุ์มาผสมกัน เพื่อเอาคุณสมบัติขององุ่นแต่ละสายพันธุ์มาส่งเสริมกันและกัน” ส่วนคำว่า “สน็อบ” หมายถึง คนเลือกดื่มแต่ไวน์แพง
“ผมไม่ดื่มไวน์ออสเตรเลีย เพราะเป็นไวน์เบลนด์ด้วยเคมี!”
ผ่านไป 20 กว่าปี ผมยังจำประโยคนี้ได้ดี เป็นคำพูดของผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีกิจการนานาชนิด
ตอนนั้นผมถามย้ำอยู่หลายครั้งว่าเคมีอะไร ? ท่านตอบแบบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ และบอกชื่อสารเคมีไม่ได้
นี่เป็นลักษณะหนึ่งของการดื่มไวน์ที่เรียกว่า สน็อบ (Snob) หมายถึง คนที่เลือกดื่มแต่ไวน์ราคาแพง
(Credit: penfolds.com)
ในฐานะที่เคยทำไวน์ก็เลยอธิบายให้ฟังว่า การ เบลนด์ (Blend) ที่ท่านคิดนั้นในภาษาไวน์หมายถึง “การนำองุ่นหลาย ๆ พันธุ์มาผสมกัน เพื่อเอาคุณสมบัติขององุ่นแต่ละสายพันธุ์มาส่งเสริมกันและกัน”
ไม่ใช่เกิดจากการเติมเคมีลงไป เพราะไวน์ไม่สามารถเติมสารเคมีได้ ยกเว้น ซัลเฟอร์ ไดอ๊อกไซด์ ที่ใส่เพื่อรักษาคุณภาพของไวน์ ต้องใส่ปริมาณน้อยตามกฎหมายควบคุม และต้องระบุไว้ในฉลากข้างขวดด้วย
ฉลากระบุว่าใส่ซัลเฟอร์ฯ
เรื่อง การเบลนด์ นี้ยังมีอีกหลายคนคิดเหมือนกัน ที่สำคัญความเชื่อเหล่านี้ เป็นความเชื่อที่เชื่ออย่างไรก็อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง บางคนเป็นระดับผู้บริหาร เจ้าของกิจการ ฯลฯ เงินทองรวยล้นฟ้า กินชาตินี้และชาติหน้าก็ไม่หมด
พวกเขาดื่มไวน์อะไร ? ส่วนใหญ่เป็นไวน์ฝรั่งเศส
ทำไมต้องเป็นไวน์ฝรั่งเศส ? คำตอบที่ได้คือ..เพราะไวน์ฝรั่งเศสไม่เบลนด์ !
c (Credit: andantevineyard.com)
แสดงว่าความหมายของคำว่า เบลนด์ ของคนกลุ่มนี้คือ...การใส่สารเคมี !
จริง ๆ แล้วฝรั่งเศสนั่นแหละคือ “ยอดฝีมือแห่งการเบลนด์” แต่เป็นการเบลนด์ด้วยการใช้องุ่นหลายพันธุ์มาผสมกัน บางพื้นที่ใช้มากถึง 12-13 สายพันธุ์ ทำไวน์ออกมาแล้วเอร็ดอร่อยจนอีกหลาย ๆ ชาตินำกรรมวิธีนี้ไปใช้ ที่คุ้นเคยกันดีคือ บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend)
ไวน์แพงของฝรั่งเศสที่ระบุว่า "บอร์กโดซ์ เบลนด์)
หมายความว่าต้องใช้องุ่นสายพันธุ์ที่ปลูกในบอร์กโดซ์เท่านั้นมาเบลนด์กัน เช่น กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) แมร์โลต์ (Merlot) กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) เปตีต์ แวร์กโดซ์ (Petit Verdot) และมาลเบค (Malbec) เป็นต้น
ไวน์ออสเตรเลีย
ผมเคยร่วมโต๊ะดินเนอร์กับผู้บริหารธุรกิจขายรถที่โด่งดังคนหนึ่ง คืนนั้นเสิร์ฟ ชาโต มูตอง ร็อธส์ชิลด์ (Chateau Mouton Rothschild) เขาบอกว่าเคยดื่มไวน์ยี่ห้อนี้และวินเทจพวกนี้มาแล้ว และคุยโขมงโฉงเฉง จนเพื่อนร่วมโต๊ะเริ่มรำคาญ จะพูดอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง ผมเลยถามว่ารสชาติต่างกันอย่างไร ? เขาบอกว่าหอม หวาน นุ่ม เหมือน ๆ กัน ผมจึงแจกแจงให้ฟัง ท่านก็เลยเงียบ
นี่คือ สน็อบ (Snob) อีกรูปแบบหนึ่ง คือรู้อย่างเดียวว่าได้ดื่มของแพง แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ดื่มลงไปนั้นคืออะไร ?
ผมแค่อยากให้พวกเขาเปิดใจกว้าง ศึกษาและเข้าใจเรื่อง ไวน์ และยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ฯลฯ
ไวน์ฝรั่งเศสที่ใช้คำว่า "ชาโต" นำหน้า
อีกอย่างหนึ่งคือคำว่า ชาโต (Chateau) เคยสร้างความสับสนให้กับคอไวน์บ้านเรามาโดยตลอด ปัจจุบันดีขึ้นเยอะ สมัยก่อนพวกที่ดื่มอย่างสน็อบและโอ้อวด ทำให้เข้าใจว่าไวน์ที่มีคำว่า “ชาโต” นำหน้าจะต้องเป็นไวน์ดีและราคาแพง ทั้งที่จริงแล้วไวน์ที่มีชาโตนำหน้าไม่จำเป็นจะต้องเป็นไวน์ดีมีคุณภาพเสมอไป
ความเข้าใจดังกล่าวกลายเป็นจุดอ่อน ทำให้กับพ่อค้าไวน์หรือผู้นำเข้าไวน์ นำไวน์ราคาถูกแต่มีคำว่าชาโตนำหน้ามาขายจนร่ำรวยกันมาแล้วหลายราย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจบูมก่อนยุคฟองสบู่แตก ไวน์ตัวไหนไม่มีคำว่าชาโตนำหน้าจะขายไม่ออก แม้คุณภาพจะดีเพียงใดก็ตาม
ไวน์แคลิฟอร์เนียไม่มีคำว่า "ชาโต" แต่ราคาแพงมหาศาล
ในอดีต ชาโต หมายถึงคฤหาสน์ ปราสาท วังของเศรษฐี คหบดี ขุนนาง ผู้ดีมีสกุล ฯลฯ ที่ร่ำรวยและนิยมปลูกองุ่นทำไวน์ไว้ดื่มเอง กระบวนการผลิตจะอยู่ในบริเวณเดียวกัน นอกจากจะดื่มกับอาหารแล้วยังช่วยป้องกันความเหน็บหนาวให้กับร่างกายด้วย ซึ่งสามัญชนธรรมดาไม่สามารถมีได้
แต่จริง ชาโต ที่ใช้กับไวน์อาจจะเป็นกระต๊อบหรือบ้านหลังเล็ก ๆ มีป้อมปราการ โรงรถ โรงเก็บของ ฯลฯ ที่ตั้งอยู่ในไร่องุ่นของผู้ผลิตไวน์ พร้อมกับโรงงานผลิตไวน์ และโรงเก็บบ่มหมักไวน์หรือแชส์ (Chais) อยู่ในบริเวณเดียวกันกับโรงงานบรรจุขวดและโรงเก็บบ่ม เป็นต้น
ไวน์อาร์เจนตินาที่ใช้คำว่า "โดเมน" นำหน้า
คำว่า “ชาโต” ใช้เป็นชื่อนำหน้าไวน์ยี่ห้อต่าง ๆ ในเมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) เช่น
ชาโต มูตอง ร็อธส์ชิลด์ (Chateau Mouton Rothschild)
ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margeaux)
ชาโต โอต์ บริออง(Chateau Haut-Brion)
ชาโต เปตรุส(Chateau Petrus)
และ (Chateau Lafite Rothschild) เป็นต้น
ซึ่งไวน์จากชาโตเหล่านี้ดีอยู่แล้ว คำว่า “ชาโต” ถูกใช้นำหน้าไวน์ในหลาย ๆ ชาติ ที่มีการผลิตไวน์ทั้งโลกเก่าและโลกใหม่ เช่น สหรัฐอเมริกา ชิลี ออสเตรเลีย ออสเตรีย เยอรมนี แคนาดา อาร์เจนตินา ตูนิเซีย บัลแกเรีย เซาธ์แอฟริกา ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ฯลฯ รวมทั้งในประเทศไทย
ไวน์ "โดเมน" ที่แพงที่สุด
ในฝรั่งเศสเองนอกจากบอร์กโดซ์แล้ว ในเขตอื่นก็ใช้คำว่า ชาโต นำหน้าเช่นกัน บางแคว้นใช้คำอื่นแต่ความหมายเหมือนกัน
เช่น แคว้นเบอร์กันดี (Burgundy) ใช้ โดเมน (Domaine) เป็นหลัก นอกนั้นก็มี โมโนโปล (Monopole) คอมมูน (Commune) อาจจะมีคำว่า โคลส์ (Clos) และแช (Chai) เป็นต้น
ส่วนในแคว้นแชมเปญ (Champagne) และโฮรน (Rhone) จะใช้คำว่า เมซง (Maison) ที่แปลว่าบ้านหรือคฤหาสน์นำหน้า เช่น เมซง ปอล โฮรแฌร์ (Maison Pol Roger)
ไวน์เซาธ์อัฟริกาสไตล์ "บอร์กโดซ์ เบลนด์"
บางคำถูกนำไปใช้ในชาติอื่น ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะ โดเมน นิยมใช้นำหน้าในการผลิตไวน์สไตล์เบอร์กันดี เช่น Domaine ste Michelle แห่งแคลิฟอร์เนีย แต่คำว่า “ชาโต” จะได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น Chateau St. Jean จากแคลิฟอร์เนียที่ผลิตไวน์ขาวจากชาร์โดเนย์ได้ยอดเยี่ยมมาก, Chateau Montelena ไวน์แดงแคลิฟอร์เนียที่เคยชนะไวน์บอร์กโดซ์มาแล้ว เป็นต้น
(Credit: asmallworld.com)
โลกยุคใหม่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา “คนรุ่นใหม่” เป็นกลุ่มที่ต้องตามการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ทันมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องไวน์
อย่าดื่มไวน์แบบสน็อบ เพราะท่านจะพลาดอรรถรสที่ล้ำลึกของไวน์ไปตลอดชีวิต !