“วิธีกินเมล็ดแฟล็กซ์, เมล็ดเจีย” ซูเปอร์ฟู้ดจิ๋วแต่แจ๋ว
“เมล็ดพืช” จิ๋วแต่แจ๋ว ได้ฉายาว่า "ซูเปอร์ฟู้ด" หรือ Super seeds, Miracle ตอนนี้กลายเป็นอาหารหลักของคนไปแล้ว ก่อนกินจึงควรรู้ “วิธีกินเมล็ดแฟล็กซ์” และ “เมล็ดเจีย” ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ยุคที่มนุษย์ฮิตกิน เมล็ดพืช จนจะกลายเป็น “นก” ไปแล้ว เมล็ดแฟล็กซ์ และ เมล็ดเจีย ที่ได้ชื่อว่าเป็น ซูเปอร์ฟู้ด นั้น ใช่ว่าทุกคนจะกินได้
จึงควรรู้ วิธีกินเมล็ดแฟล็กซ์, เมล็ดเจีย เพื่อร่างกายได้ประโยชน์จากสารอาหารในเมล็ดพืชที่ จิ๋วแต่แจ๋ว อย่างเต็มที่
เมล็ดเจีย (Credit: clevelandclinic.org)
เมล็ดเจีย (Chai seed) เมื่อ 3,500 ปีก่อน เมล็ดเจีย เป็น เมล็ดพืช ซูเปอร์ฟู้ด ของชาวแอซเท็คส์ และชาวพื้นเมืองในอเมริกากลาง พวกนักรบต้องพกเมล็ดเจียเป็นเสบียงยามออกรบ หรือเมื่อต้องเดินทางไกล พวกเขาก็แค่เหน็บถุงเมล็ดเจียไว้ข้างเอว หิวเมื่อไหร่ก็หยิบมากิน
Chia Fresca (Credit: thespruceeats.com)
สารอาหารในเมล็ดพืชจิ๋ว ทำให้ร่างกายมีแรงสู้ภารกิจหนัก ชาวมายันเรียกว่า Chiabaan หมายถึง “เมล็ดเพิ่มพลัง” และกินกันง่าย ๆ ทำเครื่องดื่มเรียกว่า Chia Fresca
(Credit: wallpaperflare)
เมล็ดเจีย มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของเม็กซิโก อยู่ในตระกูลกะเพราและมิ้นต์ หน้าตาคล้ายเม็ดแมงลัก เมื่อโดนน้ำจะพองตัว มีไฟเบอร์สูง มีโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี งานศึกษาใหม่พบว่ามีกรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 และกรดอะมิโนจำเป็น
เมล็ดเจียโรยหน้าแซนด์วิช (Credit: healthline.com)
สารอาหารในเมล็ดเจีย ทำให้เมล็ดพืชจิ๋วแต่แจ๋วกลับมาฮิตในฐานะ ซูเปอร์ฟู้ด ขวัญใจ ชาววีแกน จากการศึกษาของ Dr. Wayne Coates จากมหาวิทยาลัยอาริโซน่า เมื่อ 20 ปีก่อน พบว่า เมล็ดเจีย มีประโยชน์มาก และมีสารอาหารทรงประสิทธิภาพที่กินแล้วร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ทันที
ที่สำคัญคือป้องกันสารพัดโรค เช่น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง, ป้องกันความดันโลหิตสูง, ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์, บำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยความจำ, ป้องกันโรคกระดูกพรุน, ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ, ควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน, ช่วยลดน้ำหนักเช่นเดียวกับควินัว, ดีต่อระบบขับถ่าย
เมล็ดเจียในสลัดและพาสต้า (Credit: pastainc.com)
วิธีกิน : ใส่ในสลัด ซุป ทำเหมือนข้าวต้มข้าวโอ๊ต ทำขนมปัง เบเกอรี แพนเค้ก ทำพุดดิ้ง (คล้ายสาคูแคนตาลูป) ทำเป็นฐานขนมอบ ทำสมูทตี้ ใส่น้ำเต้าหู้ ใส่เครื่องดื่มอื่น ๆ ถ้าเอาไปแช่น้ำให้พองจะเหมือนเยลลี่ ราดบนไอศกรีม โยเกิร์ต
พุดดิ้งเมล็ดเจีย (Credit: clevelandclinic.org)
ทำพุดดิ้ง : ฝรั่งเรียก พุดดิ้งเมล็ดเจีย ส่วนผสมได้แก่ นม (นมอัลมอนด์, นมมะพร้าว, นมพร่องไขมัน) โยเกิร์ต น้ำผึ้งหรือเมเปิ้ลไซรัป กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันแล้วเติมเมล็ดเจีย แช่เย็น 1 คืน วันรุ่งขึ้นมาเติมผลไม้ที่ชอบ
สูตรส่วนผสมนมจะเติมผงโกโก้ ช็อกโกแลต หรือชาเขียว ก็ได้ หรือเติมผงเครื่องเทศ เช่น อบเชย กานพลู ขิง พริกไทยดำ โรยถั่วพิสตาชิโอ้ หรือเติมกลิ่นมะนาว กุหลาบ ได้หมด
(Credit: cookinglight.com)
กินอย่างง่ายที่สุด (ประสงค์ลดน้ำหนัก) เมล็ดเจีย 40 กรัม ในน้ำเปล่า 1 ลิตร จิบระหว่างวันจะอิ่มท้อง ไม่กินจุกจิก หรือแช่น้ำทิ้งไว้ 20-30 นาที เอาไปทำสมูทตี้ผลไม้ แต่ไม่ควรกินมากเกินไปจะทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ
เมล็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 139 แคลอรี่ โปรตีน 4 กรัม ไขมัน 9 กรัม คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม เส้นใย 11 กรัม มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อีก คนร่างกายปกติ กินไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 15 กรัม ต่อวัน / ทางการแพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด กิน 30 กรัม ต่อวัน ทุก 3 เดือน
บิสกิตใส่เมล็ดเจีย (Credit: taste.com.au)
ข้อควรระวัง : ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ ไม่ควรกิน, คนเป็นโรคกรดไหลย้อน, ผู้ที่มีก๊าซในท้องเยอะ, คนที่มีปัญหาระบบการย่อย, ความดันต่ำ, คนที่แพ้ถั่วหรือธัญพืช, ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร, ผู้ที่มีปัญหาต่อมลูกหมาก และคนเพิ่งผ่าตัดและกินยาแอสไพริน, กินแล้วให้สังเกตร่างกายตัวเอง ถ้าท้องอืดควรหยุด, คนแพ้กลูเตนไม่ควรกินจะทำให้ท้องผูก
เมล็ดแฟล็กซ์และน้ำมัน (Credit: en.wikipedia.org)
เมล็ดแฟล็กซ์ (Flax seed, Lin seed) เป็น ซูเปอร์ฟู้ด ของมนุษย์มานานหลายพันปี เมล็ดกินได้และทำน้ำมัน เส้นใยจากลำต้นผลิตเป็นผ้าลินิน ใช้มาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ยุคเมโสโปเตเมียก็มีหลักฐานใช้ผ้าลินินในชนชั้นสูงและนักบวช
ผ้าลินิน เป็นผ้าห่อพระศพพระเยซู และเป็นผ้าพันมัมมี่ เพราะเส้นใยเหนียว ทนทาน ผู้คนสมัยนั้นยังเชื่อว่าผ้าลินินช่วยปกป้องมนุษย์
เมล็ดแฟล็กซ์กับน้ำมัน (Credit: flaxseedviva.com)
Flax เป็นพืชให้เส้นใยที่แข็งแรงทนทานที่สุด ผลิตเส้นใยได้หลายชนิด เส้นที่ยาวที่สุดใช้ทำ ผ้าลินิน เรียกว่า Flax Linen ผ้าลินินชั้นดีต้องผ่านกระบวนการทำ 10 ขั้นตอน จากลำต้นมาผลิตเป็นเส้นใย
คนโบราณใช้เส้นใยจากต้นแฟล็กซ์ ตั้งแต่ชนชั้นสูงจนถึงคนสามัญ เช่น ทำเชือก ตาข่าย แหจับปลา เสื้อผ้าชาวประมง ฯลฯ คนยุคนั้นทอเส้นใยจากต้นแฟล็กซ์ ก่อนเส้นใยจากฝ้ายจะเริ่มนิยมในศตวรรษที่ 10
เมล็ดแฟล็กซ์ในซุป (Credit: freepik.com)
เมล็ดแฟล็กซ์อุดมประโยชน์ : มีกรดไขมันโอเมก้า-3, โอเมก้า-6 บำรุงสมองและระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ ป้องกันเลือดข้น มีวิตามินเอ, บี, ซี, ดี, อี ป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคกระดูกพรุน ช่วยให้เนื้อเยื่อแข็งแรง เส้นใยช่วยดูแลระบบลำไส้
เมล็ดแฟล็กซ์ในขนมปัง (Credit: Monika Grabkowska on Unsplash)
วิธีกิน : เมล็ดแฟล็กซ์ รูปร่างคล้ายเม็ดงาแต่ใหญ่กว่า มีชนิดสีทองกับสีน้ำตาลแดง ก่อนกินควรบดให้ละเอียดใส่ในอาหารและเครื่องดื่ม และไม่ควรผ่านความร้อนสูงเกิน 60 องศาเซลเซียส
ชาวบ้านสมัยก่อนกิน เมล็ดแฟล็กซ์ในขนมปัง ขนมอบ คนยุคนี้ใส่เมล็ดแฟล็กซ์ในอาหารทุกอย่าง เช่น ทำสมูทตี้ ใส่ในซีเรียล โยเกิร์ต ทำขนม ใส่ในสลัดและซุป บดเป็นผงใช้แทนแป้งทำขนมปัง กินแบบ Raw food หรือบดเป็นผงแป้งทำขนมปังหรือโรตี ถูกใจ ชาววีแกน และ ชาวคีโต ยิ่งนัก
สลัดกรีกโรยเมล็ดแฟล็กซ์ (Credit: crushpixel.com)
ปัจจุบัน เมล็ดแฟล็กซ์และเมล็ดเจีย ผลิตแบบสำเร็จรูปบรรจุถุง ชนิดเต็มเมล็ดและชนิดอบป่นเป็นผง