10 ปี "พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ" เตรียมพบนิทรรศการชุดใหม่ อำลานิทรรศการฉลองพระองค์
ครบ 10 ปี พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ประมวลนิทรรศการตราตรึงใจ เข้าชมด่วนก่อนนิทรรศการ “ด้วยพลังแห่งรัก” ฉลองพระองค์ประวัติศาสตร์สุดงดงามจะอำลา ส.ค.นี้ เตรียมพบนิทรรศการชุดใหม่ปลายปี 2565
พ.ศ.2565 เป็นเวลาครบ 10 ปีแล้วที่ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิมานเทเวศร์กับประตูวิเศษไชยศรี
ประวัติศาสตร์ของ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เริ่มต้นหน้าแรกเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 หลังจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทยและประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย
นอกจากนี้ สมเด็จพระพันปีหลวง ยังทรงมีพระประสงค์ให้ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทยและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทยให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ
ในวาระครบ 10 ปี พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เตรียมจัดแสดงนิทรรศการชุดใหม่ในช่วงปลายปี 2565 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ขณะเดียวกันก็เป็นวาระที่จะพักนิทรรศการชุดที่กำลังจัดแสดงอยู่ไว้ก่อนในเดือนสิงหาคมนี้
ฉลองพระองค์ในนิทรรศการ "ด้วยพลังแห่งรัก"
พระกระเป๋าทรงถือ จากนิทรรศการ The Power of Love
โดยนิทรรศการผ้าที่กำลังจะอำลาไปในเดือนสิงหาคม 2565 คือนิทรรศการ ด้วยพลังแห่งรัก (The Power of Love) ซึ่งจัดแสดงอยู่ในห้องจัดแสดง 1-2 ของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
"ด้วยพลังแห่งรัก" เป็นนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา พ.ศ.2562 เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ นับตั้งแต่ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชินี จัดแสดงฉลองพระองค์ พระกระเป๋าทรงถือ พระมาลา และพระพัชนี
ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ กล่าวว่า “ทุกนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็น นิทรรศการหมุนเวียน จะไม่มีนิทรรศการถาวร เพราะว่าผ้าต่าง ๆ มีระยะเวลาจำกัดในการนำมาจัดแสดง เพราะฉะนั้นเราเลยจะมีการเปลี่ยนเนื้อหาของนิทรรศการไปเรื่อย ๆ เพื่อเชิญชวนให้คนกลับมาชมพิพิธภัณฑ์อีก เราเปลี่ยนนิทรรศการเกือบทุกปี บางปีอาจจะเว้นไปบ้าง แต่จะมีการหมุนเวียนวัตถุจัดแสดงภายใจนิทรรศการแทน”
คุณปิยวรา กล่าวด้วยว่า ในเดือนสิงหาคม 2565 พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จะมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา รวมทั้งกิจกรรมส่งท้ายนิทรรศการ ‘ด้วยพลังแห่งรัก’ และการเปิดห้องกิจกรรมปรับปรุงใหม่อย่างไม่เป็นทางการ ก่อนจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการพร้อมกับนิทรรศการใหม่ในช่วงปลายปีนี้
ฉลองพระองค์จากนิทรรศการ "งามสมบรมราชินีนาถ"
ตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา นิทรรศการของ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้การต้อนรับและประสบความสำเร็จอย่างมาก อาทิ นิทรรศการ งามสมบรมราชินีนาถ (Fit For a Queen: Her Majesty Queen Sirikit’s Creations by Balmain) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
จัดแสดงฉลองพระองค์ที่ออกแบบโดย ปิแอร์ บัลแมง นักออกแบบชาวฝรั่งเศสผู้ดูแลการตัดเย็บฉลองพระองค์เป็นเวลากว่า 22 ปี ฉลองพระองค์ที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในการเผยแพร่ความงามอันมีเอกลักษณ์ของผ้าจากภูมิปัญญาคนไทยและส่งเสริมผ้าไทยให้ชาวโลกรู้จัก ทำให้เกิดความนิยมสวมใส่ผ้าไทยอย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบัน
นิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพ
อีกหนึ่งนิทรรศการที่ตราตรึงในความทรงจำของคนจำนวนไม่น้อยคือ นิทรรศการ ของขวัญแห่งมิตรภาพ: ราชอาณาจักรไทยและสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2361-2561 เนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา รวบรวมวัตถุซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อนจากสถาบันชั้นนำในสหรัฐอเมริกา
ได้แก่ ของขวัญพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่จัดเก็บในสถาบันสมิธโซเนียน
รวมถึง พระราชสาส์น ที่จัดเก็บในองค์การบริหารจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติ จดหมายของพระยาสุริยวงศ์มนตรี (ดิศ บุนนาค) และ ของขวัญพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้แก่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่นำมาจากหอสมุดประธานาธิบดี
“ในช่วงนั้นมีกิจกรรมมากมาย ทางสถานทูตสหรัฐฯ ได้เชิญกลุ่มต่าง ๆ ทั้งนักเรียนนักศึกษามาที่พิพิธภัณฑ์เยอะมาก ตรงนั้นก็ทำให้พิพิธภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น นิทรรศการที่เป็นความร่วมมือกันก็จะมีวัตถุหลากหลายประเภทมาจัดแสดงจึงได้รับความนิยม ทำให้เรามีผู้เข้าชมกลุ่มใหม่ นอกเหนือจากคนที่สนใจเรื่องของผ้าหรือแฟชั่น” คุณปิยวรา กล่าว
นิทรรศการ "ผ้าบาติกในพระปิยมหาราช"
ในขณะที่ ห้องจัดแสดง 3-4 จัดให้มีนิทรรศการ ผ้าบาติกในพระปิยมหาราช:สายสัมพันธ์สยามและชวา (A Royal Treasure: The Javanese Batik Collection of King Chulalongkorn of Siam) นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในการเสด็จเยือนชวาทั้ง 3 ครั้ง และจัดแสดง "ผ้าบาติกทรงสะสม" ที่มีความโดดเด่นทั้งในแง่ความงดงามของศิลปะและองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์การแต่งกายของชวา
ทั้งยังมีวีดิทัศน์และภาพอธิบายขั้นตอนการทำผ้าบาติก นิทรรศการนี้มีการเปลี่ยนวัตถุจัดแสดงแล้วถึง 3 ครั้ง โดยมีกำหนดเปิดให้เข้าชมจนถึงปีพ.ศ.2566
"นิทรรศการผ้าบาติกในสมเด็จพระปิยมหาราชที่เราจัดอยู่ในปัจจุบันเป็นที่พูดถึงเยอะ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ผ้าบาติกสะสมในรัชกาลที่ 5 เป็นผ้าหายาก แม้กระทั่งที่อินโดนีเซียเองก็ตามหาไม่ได้ เป็นคอลเลกชั่นที่พิเศษมาก หายากมาก สวยมาก ทั้งหมดที่พระองค์ท่านสะสมมีประมาณ 300 กว่าผืน เรานำมาจัดแสดงประมาณ 100 กว่าผืน นอกจากนี้เรายังมีหนังสือประกอบนิทรรศการ ซึ่งเป็นภาพถ่ายทั้งคอลเลกชั่นอีกด้วย”
ส่วนของงานอนุรักษ์และงานทะเบียน
งานของ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ไม่ได้มีแค่การจัดนิทรรศการ ทว่ายังมี งานเบื้องหลัง ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจไม่ได้รับรู้มากนัก อย่างเช่น การทำหน้าที่ของภัณฑารักษ์และงานด้านการศึกษา การจัดการและดูแลงานพิพิธภัณฑ์ เช่น การสืบค้นข้อมูล ทำการศึกษาเกี่ยวกับวัตถุ รวมถึงการสรรหาและคัดเลือกวัตถุเพื่อนำมาจัดแสดงและเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ วางรูปแบบนิทรรศการและเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อสื่อความหมายแก่ผู้เข้าชม ให้รับรู้และเข้าใจในคุณค่าของวัตถุและเรื่องราวที่นำมาจัดแสดง ทั้งนี้ยังมีส่วนในการวางแผนและจัดกิจกรรมด้านการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และความรู้แก่ผู้เข้าชม
รวมไปถึง งานอนุรักษ์และงานทะเบียน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของพิพิธภัณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่อนุรักษ์และเจ้าหน้าที่ทะเบียนมีหน้าที่สงวนรักษาและจัดเก็บวัตถุในครอบครองของพิพิธภัณฑ์ โดยดูแลและจัดระบบการจัดเก็บวัตถุ ตั้งแต่การตรวจบันทึกสภาพและให้เลขทะเบียนวัตถุ ศึกษาประวัติและโครงสร้างของวัตถุร่วมกับภัณฑารักษ์
วางแผนกำหนดแนวทางในการจัดเก็บและป้องกันไม่ให้วัตถุเกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ตลอดจนอนุรักษ์ซ่อมแซมวัตถุที่ได้รับความเสียหาย และวัตถุในครอบครองของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
ทั้งหมดจัดเก็บรักษาไว้ในห้องคลัง โดยต้องผ่านการทำความสะอาดและกำจัดแมลงภายใต้อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ให้เลขทะเบียนวัตถุ ตรวจสภาพ บันทึกภาพ และซ่อมแซมรักษาในกรณีที่มีการเสื่อมสภาพ
ภายในห้องคลังมีระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้มีสภาพคงที่และเหมาะสมสำหรับการจัดเก็บวัตถุเพื่อรักษาสภาพ สำหรับวัตถุประเภทผ้า อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมอยู่ระหว่างร้อยละ 50-60
ฉลองพระองค์ในนิทรรศการ "ด้วยพลังแห่งรัก"
“การเก็บดูแลรักษาวัตถุในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในห้องคลังมีการเก็บรักษาและและควบคุมความชื้น เพราะถ้ามีความชื้นมากเกินไปก็จะเกิดรา ถ้าแห้งเกินไปก็จะกรอบ ต้องควบคุมความชื้นให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
เรื่องของแสง ในห้องคลังนี้จะปิดไฟตลอดเวลา ถ้าไม่ได้เข้าไปทำงาน วัตถุทุกชิ้นจะอยู่ในตู้จัดเก็บ ดังนั้นแสงไฟจะไม่ใช่ปัญหาของการจัดเก็บวัตถุในห้องคลัง
แต่ในส่วนของการจัดแสดง แสงไฟจะมีผลเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการจัดแสดงทุกครั้ง หลังจากที่เรานำวัตถุเข้าในตู้เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ต้องมาวัดแสงว่าอยู่ในค่าที่เหมาะสมหรือไม่ โดยปกติแล้วจะต้องอยู่ต่ำกว่า 50 ลักซ์ ซึ่งวิธีการจัดแสดงของเราเป็นวิธีที่ถนอมผ้ามากที่สุด”
ทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังมีส่วนทำให้ทุกคนที่ได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต่างได้เปิดโลกเปิดประสบการณ์อันน่าทึ่งผ่าน “ผ้า” สถานที่แห่งนี้ยังไม่ลืมที่จะมอบบทเรียนและความรู้ต่าง ๆ ให้ หากวันหยุดสุดสัปดาห์นี้คุณว่าง ลองไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
“คอลเลกชั่นที่เรานำมาจัดแสดงเป็นคอลเลกชั่นที่หาดูได้ยากและไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน เพราะฉะนั้นที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็กอินหนึ่งที่ควรจะมาชม เพื่อจะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของผ้า รวมถึงกระบวนการผลิตผ้า
พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ มีห้องกิจกรรมแนะนำเรื่องของกระบวนการผลิตผ้า มีฉลองพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่คุ้นตากันในภาพถ่ายหรือภาพข่าวพระราชสำนักที่จะได้เห็นกันอย่างใกล้ชิดและมีความสวยงาม วัตถุบางอย่างเป็นงานหัตถกรรมที่ใช้ฝีมือชั้นสูงในการทำ เช่น งานปัก งานทอที่มีความวิจิตรสามารถมาชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ” คุณปิยวรา กล่าว
เป้าหมายของ "พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ" คือ การเป็นสถานที่สำหรับทุกคนในครอบครัว บุคคลทุกเพศทุกวัยเข้ามาชมได้
"เราฝันอยากให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นที่ที่พ่อแม่พาลูกมาหรือลูกพาพ่อแม่มา เราพยายามตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย ทั้งห้องนิทรรศการที่เหมาะสมกับคนทุกช่วงวัยแล้ว เรายังมีห้องกิจกรรมไว้สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่จะมาเรียนรู้กระบวนการทอผ้า อยากให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมกับพิพิธภัณฑ์ในทุกช่วงอายุ นอกเหนือจากนี้ ที่ผ่านมาเราพยายามพัฒนาคอนเทนต์ออนไลน์ให้เข้าถึงได้มากขึ้น
ตอนนี้ในแผน 5 ปีของเรา จะมีการเปลี่ยนนิทรรศการทุกปี ฉะนั้นทุกคนสามารถมาชมนิทรรศการใหม่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้ทุกปี รวมถึงห้องกิจกรรมใหม่ ก่อนหน้านี้ใครเคยเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์แล้ว ถ้ากลับมาใหม่หลังเดือนสิงหาคมนี้ จะได้ชมโฉมใหม่ของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ และหวังว่าโฉมใหม่นี้จะถูกใจทุกท่านที่มาชม” คุณปิยวรา กล่าว
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ตลอด 10 ปีที่ได้เปิดดำเนินการมา พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ทำให้ผู้มาเยือนกลับไปพร้อมกับความทรงจำ ความรู้ และความเข้าใจที่ดีขึ้นในหลากหลายแง่มุม โดยทั้งหมดมี “ผ้า” เป็นสิ่งเชื่อมโยง และจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต
หมายเหตุ : พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิมานเทเวศร์กับประตูวิเศษไชยศรี
- เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 15.30 น.
- อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 80 บาท นักเรียน/นักศึกษา 50 บาท เด็กอายุ 12-18 ปี 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี (โปรดแสดงบัตรประจำตัว)
- โทร.0 2225 9420 และโทร.0 2225 9530