"บุพเพสันนิวาส 2" มาแรง เช็กประเด็นกระแส นักแสดงเคมีเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ 

เพจเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์ เผยแพร่บทความจดหมายเหตุบันเทิงไทย กรณี "บุพเพสันนิวาส 2" นับเป็นพลังบันเทิงพลังวัฒนธรรม โดย ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์ นักวิจัยด้านวัฒนธรรม ความมั่นคงใหม่ และอุตสาหกรรมบันเทิงระหว่างประเทศ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนี้ 

ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาภาพยนตร์ไทย บุพเพสันนิวาส 2 ได้บอกแก่ผู้ชมว่า มนต์ขลังงานสัญชาติไทยยังคงไม่สูญหายไปไหน รายได้เปิดตัววันแรกบวกเสียงสะท้อนผู้ชมคือเครื่องยืนยัน มีรายงานว่า ตัวเลข 51.19 ล้านบาท หลั่งไหลมาจากทั่วประเทศ ขณะเดียวกันหลายคนเตรียมจะไปชมซ้ำเพื่อตอกย้ำความรู้สึกดี ๆ 

จริง ๆ แล้วภาพยนตร์เป็นงานบันเทิงที่ต้องการสมาธิในการซึมซับความสนุก งานทุกเรื่องจึงต้องมีพลังมากพอจะดึงความสนใจผู้ชม แต่หลายเรื่องของไทยมักสะดุดด้วยปัญหาจังหวะการเล่าไม่ดี ขยี้ความรู้สึกไม่เป็น นำเสนอสะเปะสะปะ บทแต่ละส่วนขาดเอกภาพ ตัวละครไร้เหตุผลในการกระทำ มีความตื้นเขิน ขาดสไตล์ ฯลฯ 

บุพเพสันนิวาส 2 กลับสวนทางปัญหาเหล่านี้ ด้วยจุดแข็งมากมาย บทสามารถเชื่อมโยงเกร็ดทางประวัติศาสตร์เข้ากับเรื่องแต่งอย่างมีจังหวะ นักแสดงทั้งในบทนำและสมทบเผยเคมีที่เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ 

รายละเอียดทางวัฒนธรรมก็กลายเป็นสีสัน บุพเพสันนิวาส 2 จึงประสบความสำเร็จในการชูความกลมกล่อมระหว่างภาพยนตร์โรแมนติก ตลก และประวัติศาสตร์ โดยความรักในเรื่องไม่อิงดรามาจนล้น ทุกเหตุการณ์ถูกเล่าอย่างมีแก่นสารด้วยรสขบขัน และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ก็ถูกนำเสนอในมุมที่ยั่วให้ผู้ชมหวนรำลึกถึงบทเรียนเก่า ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับเวอร์ชั่นละครโทรทัศน์ มีการใช้แผนภาพอำนวยความเข้าใจทั้งในเชิงพื้นที่และลำดับเวลา ทำให้ความเป็นไปทางประวัติศาสตร์ดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกเท่าตัว 

• ประเด็นประวัติศาสตร์ อาจถูกแย้งมาบ้างเรื่องความถูกผิด แต่บุพเพสันนิวาส 2 ได้ขึ้นข้อความชัดเจนในแง่การเป็นสื่อบันเทิง ดังนั้นขอเพียงผู้คนหวนทบทวนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยหลังการชม นั่นจะช่วยปรับความเข้าใจในตัวเอง (เหมือนกรณีซีรีส์ The Crown ซึ่งนำไปสู่กระแสสืบค้นเกี่ยวกับพระราชวงศ์ของสหราชอาณาจักร) 

• ในเชิงจิตวิทยา บุพเพสันนิวาส 2 อาศัยหลักการเดียวกับที่เห็นในละครไทย นั่นคือการสร้างจุดสนใจด้วยบทสนทนา ลีลาท่าทางตัวละคร รวมทั้งพยายามเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไปของตัวละคร บุพเพสันนิวาส 2 จึงให้ความรู้สึกเหมือนการชมละครในโรงภาพยนตร์ 

ทว่าผู้สร้างไม่ได้เปิดช่องให้ผู้ชมหลุดจากสมาธิด้วยการพัฒนาประเด็นความรักอย่างมีชั้นเชิง ก่อนจะข้ามไปยังความตึงเครียดทางประวัติศาสตร์อย่างแนบเนียน 

ในการนี้ นักแสดงนำคือส่วนสำคัญ ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ ราณี แคมเปน ตรึงสายตาผู้ชมด้วยปฏิสัมพันธ์อันแฝงลูกเล่นลูกฮา เพียงแค่ชายตามอง หรือ เดินตามกันก็ชวนให้ผู้ชมรู้สึกสนุกกับความจริงจังผสมความเปิ่น ทั้งหมดมาจากความสามารถของสองนักแสดงที่รู้จักเก็บรายละเอียด เมื่อเสริมด้วยการมาของ พาริส อินทรโกมาลย์สุต ในบทตัวประกอบสำคัญรวมทั้งนักแสดงสุดเซอร์ไพรส์บางท่าน อรรถรสของเส้นเรื่องจึงฉีกไปจากภาค 1 ไม่มากก็น้อย

• ในส่วนของเนื้อหา ต้องขอบคุณบทและการเล่าออกมาเป็นภาษาภาพ เพราะบุพเพสันนิวาส 2 ไม่ใช่งานที่สักแต่เล่าเรื่องให้จบ ทว่าเป็นงานที่ผ่านการกลั่นจนมีบุคลิกทางความบันเทิง บุคลิกส่วนหนึ่งมาจากการดึงความสนุกจากวัฒนธรรมไทยเหมือนที่ดึงจากตัวละคร ผู้สร้างยังบูรณาการตัวละครในประวัติศาสตร์เข้ากับตัวละครแต่ง โดยนำเสนอให้ดูมีเอกลักษณ์ของปุถุชนแทนการวาดภาพด้านเดียวอย่างการทำให้ดูเป็นปูชนียบุคคล นั่นช่วยให้ทุกฉากสร้างความเพลิดเพลินพร้อมกับพิสูจน์ว่า ความเป็นไทยไม่ใช่สิ่งพ้นสมัย หากเล่าให้เป็น วัฒนธรรมและบุคคลในประวัติศาสตร์ก็สามารถทำหน้าที่อันทรงพลังได้

 จุดนี้นี่เองที่ทำให้หวนนึกถึงบทบาทในอดีตของภาพยนตร์แฟนตาซีไทย แม้ว่าเด็กส่วนใหญ่จะเคยชินกับความบันเทิงต่างประเทศ งานแฟนตาซีไทยจำนวนมากช่วยมอบความอยากรู้อยากเห็นทางวัฒนธรรมให้แก่เด็ก ๆ ฉันใดฉันนั้น บุพเพสันนิวาส 2 ทำให้ผู้ชมบางท่านจินตนาการถึงการย้อนอดีตไปสัมผัสกับวิถีชีวิตในช่วงรัชกาลที่ 3 แม้จะเป็นยุคของการเปลี่ยนผ่านจากโลกเก่าไปสู่โลกใบใหม่ที่มีค้ากับการล่าอาณานิคมเป็นเครื่องหมาย ตัวภาพยนตร์ก็ฉายให้เห็นความสุขของผู้คนในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายร้ายฝ่ายดีในเรื่องไม่ได้ถูกกำหนดด้วยชาติพันธุ์ เพราะบุพเพสันนิวาส 2 เลือกระบายสีเหตุการณ์ได้อย่างสมดุล ผู้ชมจะเห็นทั้งคุณูปการของชาวตะวันตกและความกระหายจะครอบครองเหมือนกับที่เห็นความน่ารักของชาวสยามและการทรยศจากภายในความงดงามอีกหลายข้อไม่ได้ถูกเอ่ยถึง แต่ทั้งหมดก็เพียงพอที่จะกล่าวว่า บุพเพสันนิวาส 2 ได้บรรลุโจทย์ทั้งในแง่คุณค่าและความบันเทิง 

สำหรับชาวต่างชาติ บุพเพสันนิวาส 2 อาจเป็นทรัพยากร soft power ที่ทำให้ผูกพันกับคนไทย สำหรับผู้ชมไทย บุพเพสันนิวาส 2 คือผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ร่วมเชื่อมโยงผู้ชมเข้ากับตัวตนของตัวเอง ทั้งยังทำให้เกิดความภาคภูมิในวัฒนธรรมท้องถิ่นเท่ากับความต้องการเรียนรู้แนวปฏิบัติจากโลกภายนอก

 เหนืออื่นใด บุพเพสันนิวาส 2 กลายเป็นอีกแบบอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ภาพยนตร์จะมีเสน่ห์สำหรับผู้ชมร่วมสมัยหรือไม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเด็นนำเสนอ หรือ เงื่อนไขใด ๆ แต่มันขึ้นอยู่กับความเข้าอกเข้าใจผู้ชมในมิติความบันเทิง บุพเพสันนิวาส 2 ไม่ต่างจากประณีตศิลป์โดยให้ทั้งความบันเทิงจากเรื่องราวและความบันเทิงจากคุณค่าทางปัญญาและจิตใจ