“โชกุปัง” 食パン ทำไมถึงปัง "ขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น" หอม นุ่ม เด้ง

“ขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น” “โชกุปัง” กำลังดังปังทั่วพระนคร เพราะความหอมกลิ่นนม เนื้อนุ่ม เด้ง ขอบบาง กินเปล่า ๆ ก็อร่อย...
โชกุปัง (โชคุปัง – Shokupan) คือขนมปังปอนด์ สีขาว แผ่นสี่เหลี่ยมหรือทรงโลฟ (loaf) ทำไมกินแล้วหยุดไม่ได้ เพราะความหอม นุ่ม เด้ง ขอบบางเคี้ยวได้ไม่รำคาญ และมีสารพัดส่วนผสม เช่น ผสมฟักทอง มันม่วง ยูซุ ชาเขียว ธัญพืช โฮลวีท ช็อกโกแลต แครนเบอร์รี่ ฯลฯ
คนญี่ปุ่นทำ โชกุปัง มานานแล้วแต่ทำไมเพิ่งมาฮิตเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ต้องย้อนอดีตไปสักหน่อยว่า แท้จริงแล้วญี่ปุ่นเป็นสังคมกินข้าวเหมือนคนไทย ขนมแต่โบราณทำจากแป้งข้าว ที่เรียกว่า โมจิ
แต่เมื่อชาวโปรตุเกสมาค้าขายและมาสอนศาสนาในญี่ปุ่น เมื่อศตวรรษที่ 16 ราวปี ค.ศ.1543 มาอยู่ที่เมืองทาเนกาชิม่า บนเกาะคาโกชิม่า และนำขนมปังเข้ามา ชาวโปรตุเกสเรียกว่า pão แต่คนญี่ปุ่นออกเสียงว่า pan นับเป็นยุคแรกที่คนญี่ปุ่นรู้จักทำขนมปังแบบชาวตะวันตก
(Credit: justonecookbook.com)
ยุคแรก ๆ ชาวญี่ปุ่นกินขนมปังเป็นขนม (เหมือนโมจิ) มีบันทึกหนังสือสูตรทำขนมปัง ตีพิมพ์เมื่อปี 1718 ชื่อ Japanese Sweets Book ระบุว่าชาวญี่ปุ่นที่ทำขนมปังชื่อ Egawa Hidetatsu ทำขนมปังเมื่อปี 1842 ต่อมาก็ทำให้โชกุนโตกุกาวะ อิเอยาสุ (ยุคเมจิ 1868-1912) กินด้วยโดยสร้างโรงอบขนมปังในจังหวัดชิสึโอกะ และทำขนมปังให้ทหารต่างชาติกินด้วย
ขนมปังในญี่ปุ่นได้รับความนิยมมาก คนญี่ปุ่นเป็นคนช่างคิดจึงทำขนมปังเป็นทรงกลม ๆ (bun) แล้วใส่ไส้ถั่วแดงเรียกว่า Anko เมื่อปี 1874 คนทำตั้งใจทำถวายจักรพรรดิยุคเมจิ เมื่อผู้ปกครองชอบก็ทำให้คนทั่วไปนิยมกินไปด้วย
พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แป้งสาลีที่นำเข้าจากอเมริกาขาดแคลน นมก็แพง แต่ข้าวในญี่ปุ่นยังปลูกได้ดี คนญี่ปุ่นจึงคิดนำแป้งข้าวมาดัดแปลงทำขนมปัง ก็ในเมื่อทำโมจิ ได้นุ่มเหนียวหนึบ ทำไมจะเอาแป้งข้าวเจ้ามาทำขนมปังไม่ได้ คนทำขนมปังจึงคิดสูตร โชกุปัง ทำให้แป้งเหนียวนุ่มเด้ง พื้นฐานการทำจากขนมโมจิ mochimochi ไป ๆ มา ๆ ก็เป็นขนมปังแซนด์วิช แล้วเริ่มกินเป็นอาหาร ไม่เป็นขนมอย่างแต่ก่อน
อีกบันทึกหนึ่งบอกว่า นักทำขนมอบชาวอังกฤษ ทำขนมปังขายให้ชาวต่างชาติและพวกทหารต่างชาติในโยโกฮาม่า ช่วงปี 1880s โดยคิดสูตรขนมปังเนื้อนุ่มเอามาทำแซนด์วิช
มีอีกบันทึกเขียนไว้ว่า จากคำว่า โชกุปัง แปลว่า eating bread บางตำราหมายถึง milk bread จากความหมายของ “ขนมปังที่กินได้” เกิดจากคุณลุงนักอบขนมเปิดร้านขนมปังใกล้กับโรงเรียนสอนศิลปะ คุณลุงขายขนมปังอบสดใหม่กับขนมปังที่ค้างมาจากวันก่อน ในราคาที่แตกต่างกัน ปรากฏว่าขนมปังเก่าขายดีกว่า คุณลุงก็แปลกใจทำไมนักเรียนชอบกินขนมปังเก่าที่เนื้อเหนียวแห้ง เมื่อถามนักเรียนได้คำตอบว่า เอาขนมปังเก่าไปทำเป็นยางลบ
ดังนั้นคุณลุงจึงเขียนป้ายติดที่ขนมปังเก่าว่า เคชิปัง (消しパン) แปลว่า ขนมปังสำหรับลบ ส่วนขนมปังใหม่เขียนว่า โชกุปัง (食パン) แปลว่า ขนมปังที่กินได้ และยังคงขายราคาที่แตกต่างกัน ของใหม่อบสดจากเตาแพงกว่านิดหน่อย
อย่างไรก็ดี ไม่ได้บอกว่าคุณลุงเป็นคนพัฒนาสูตรจนได้ขนมปังเนื้อนุ่มเด้งหรือเปล่า แต่เชื่อว่าคนญี่ปุ่นเป็นนักพัฒนาสูตรขนมปังจนได้ ขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนชาติไหนในโลก
เล่ากันว่า คนญี่ปุ่นชอบขนมปังสไตล์ฝรั่งเศส จึงนำ บาแก็ตต์, ครัวซองต์, บริยอช และขนมปังสไตล์อิตาลี มาริทอซโซ่ (Maritozzo) มาพัฒนาจนเกิดความหลากหลาย เรียกว่า Fusion bread บางทีเรียกว่า milk France
ยุคแรก ๆ ได้แก่ ไส้ถั่วแดง ไส้ครีม ต่อมาเป็นไส้แกงกะหรี่ ไส้หมูทอดทงคัตสึ ไส้ผลไม้สดไส้ยากิโซบะ ฯลฯ ไม่แปลกที่ตอนนี้มี ครัวซองต์ไส้ไข่หอยเม่น บาแก็ตต์หน้าปลาไหล บริยอชไส้แซลมอนรมควัน...
จุดเด่นของ โชกุปัง ที่โดนใจนักกินแป้ง คือความนุ่ม เด้ง หอม เทคนิคมาจาก Yudane (ยูดาเนะ) คือผสมแป้งกับน้ำอุ่น ปั้นเป็นก้อนกลมพักข้ามคืน วันรุ่งขึ้นก็นำแป้งก้อนยูดาเนะ ไปผสมกับส่วนผสมแป้งอื่น ๆ ทำให้เหนียวนุ่มโดยไม่ต้องใส่สารเสริม
เทคนิคยูดาเนะ คล้ายกับเทคนิคทำขนมปังของจีนเรียกว่า Tangzhong method คือการทำ แป้งเปียก วิธีคือผสมแป้งกับน้ำร้อน คนแป้งบนหน้าเตาจนทำให้แป้งเหนียวเหมือนแป้งเปียก พักไว้ วันรุ่งขึ้นนำแป้งเปียกนั้นมาผสมกับแป้งสาลี เนย น้ำตาล นม ยีสต์แห้ง ทำให้ได้เนื้อขนมปังที่นุ่มเหมือนบริยอช
แซนด์วิช โชกุปัง (Credit: broadsheet.com)
สารพัดเทคนิคพัฒนาขึ้นทำให้ โชกุปัง เนื้อนุ่มเด้ง บางสูตรบอกใส่นมสด, นมผง (ควรเป็นนมฮอกไกโด), ยีสต์ธรรมชาติ, เนยฝรั่งเศส, แป้งนำเข้า, ไข่สด ฯลฯ สูตรใครก็สูตรมัน
โชกุปัง นิยมมากในญี่ปุ่น มีทุกร้านเบเกอรี่ ทุกหัวถนน ทุกร้านขนมปังตามสถานีรถไฟฟ้า สูตรมาตรฐานขนมปังหนึ่งโลฟ 340 กรัม มีวิธีตัดแตกต่างกันในหลายเมือง เช่น ย่านคันโต-โตเกียว คนชอบทรงโลฟ ตัด 1.5-2 เซนติเมตร หรือบางกว่า โลฟหนึ่งตัดได้ 6-10 ชิ้น
ถ้าไปแถวโกเบ, เกียวโต, นารา คนที่นั่นชอบไซส์ใหญ่ ชิ้นขนาด 2.5-3 เซนติเมตร โลฟหนึ่งหรือ 1 ปอนด์ ตัด 4-5 ชิ้น
โชกุปังผสมเผือก (Credit: eatwithjean.com)
มีรายงานว่าตอนนี้คนญี่ปุ่นกิน ขนมปัง มากกว่า ข้าว ที่จริงตั้งแต่ชาวเมืองปลาดิบรู้จัก ขนมปัง ก็เริ่มกินมากขึ้น ๆ เพราะสะดวกในการทำ เช่น จัดใส่เบนโตะให้ลูกไปกินที่โรงเรียน หรือทำแซนด์วิชแบบง่าย ๆ ให้สามีไปกินในที่ทำงาน ซึ่งกินเป็นมื้ออาหารและขนมจากสูตรที่พัฒนาสารพัดไส้
ปี 2011 รายงานว่าคนญี่ปุ่นกินขนมปังมากกว่าข้าวเป็นครั้งแรก แม้ราคาขนมปังแพงกว่า เมื่อปี 2015 ญี่ปุ่นผลิตขนมปัง 1.2 ล้านตัน เทียบกับข้าว 8 ล้านตัน
และ โชกุปัง กำลังปัง ครองแชมป์ขนมปังเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นนม เนื้อเด้งหนึบ ดึงออกมาเห็นเส้นใยเล็ก ๆ และไม่ต้องตัดขอบให้ยุ่งยากเพราะขอบก็ยังนุ่ม
อีกทั้งสร้างสรรค์ได้สารพัดรูปแบบ จากเทคนิคที่ทำให้ขนมปัง “นุ่มเด้ง” เรียกว่า Luxury Shokupan บางเจ้าต้องต่อแถวยาวเป็นชั่วโมงเพื่อซื้อ โชกุปัง ได้คนละ 1 ปอนด์ เช่นย่านกินซ่า โตเกียว ถือเป็นศูนย์กลางของเบเกอรี่
โชกุปังไฮโซ ทรงสี่เหลี่ยม เรียกว่า Kakushokupan 1 แถว 300 กรัม ราคา 840 เยน แน่นอนว่าราคาแพงกว่าขนมปังทั่วไป
บ้างทำขนมปังเพื่อสุขภาพ ใส่ส่วนผสมธัญพืชหรือทำ โชกุปัง โฮลวีท อร่อยได้ไม่รู้จบ...
อ้างอิง : thejapantimes.co.jp, bakeryjapan.com