ถ่ายทอดสดฟุตบอล คิงส์คัพ ทีมชาติไทย หวังปลดล็อก 8 ปี ดวลมาเลเซีย ดูบอลออนไลน์
ถ่ายทอดสดฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ช้างศึก "ทีมชาติไทย" พบกับ มาเลเซีย โดย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ AIS Play จะทำการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้รับชมกันทั่วประเทศ ดูสดผ่านหน้าจอทีวี และ ดูบอลออนไลน์ เช็กเลย
ถ่ายทอดสดฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ช้างศึก "ทีมชาติไทย" วันนี้ (22 กันยายน 2565) จะเปิดบ้านที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ พบกับ มาเลเซีย โดย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ AIS Play จะทำการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้รับชมกันทั่วประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล คิงส์คัพ ทีมชาติไทย ช่องทางดูบอลออนไลน์ ดูสดฟรีทีวี
- จับฉลากฟุตบอล "คิงส์คัพ" ช้างศึก "ทีมชาติไทย" ดวล "เสือเหลือง" มาเลเซีย
- ตารางคะแนน ฟุตบอล U20 ชิงแชมป์เอเชีย เงื่อนไขสาเหตุ ทีมชาติไทย ยังไม่เข้ารอบ
เกมระหว่าง ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย นั้นถือเป็นเกมในระดับ A Match ซึ่งจะมีการคิดคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย ซึ่งความพร้อมของทัพ "ช้างศึก" เมื่อวานนี้ "มาโน โพลกิ้ง" หัวหน้าผู้สอนทีมชาติไทย พูดถึงเกมที่จะพบมาเลเซีย ว่า มาเลเซีย เป็นทีมที่ดี เป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะอันตราย และพวกเขาก็ได้ผ่านเข้ารอบเอเชียนคัพด้วย
สถิติการพบกันที่ผ่านมา แม้มาเลเซียจะเหนือกว่าไทยในช่วงหลัง แต่ยังเชื่อมั่นว่าเกมนี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับ ทีมชาติไทย
มาโน บอกว่า ในทีมชุดนี้เรามีกองหน้าดาวรุ่งที่เรียกมาติดทีมชาติ ซึ่งจากการฝึกซ้อมเชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่ได้ดี โดยจะมีพี่ๆคอยประคับประคอง และเป็นโอกาสของดาวรุ่งที่จะได้แจ้งเกิด
การได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ มาจากเจลีก มาร่วมทีมครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งพวกเขาแสดงให้เห็นได้ชัดจาการช่วยยกระดับในการซ้อมภายในทีม
ขณะเดียวกัน ทีมชาติไทย เลือก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะจากคาวาซากิ ฟรอนทาเล่ เป็นกัปตันทีมชุดคิงส์คัพ ส่วนรองกัปตัน คือ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ทีมชาติไทย จะสวมชุดสีน้ำเงินลงแข่งขันเกมประเดิมสนามฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 กับ มาเลเซีย ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ AIS Play
ดูผ่าน AIS Play (คลิก)
ดูผ่านไทยรัฐทีวี ช่อง 32 (คลิก)
สถิติ 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ไทย vs มาเลเซีย
ช้างศึก ไม่ชนะ มาเลเซีย 8 ปีเข้าให้แล้ว ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ไทยชนะมาเลเซียได้ ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2014 ยุคของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นกุนซือ ในเกม เอเอฟเอฟ ซูซกิ คัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่ ทีมชาติไทย เปิดราชมังคลากีฬาสถาน ชนะมาเลเซียไปได้ 2-0
ส่วน 5 เกมหลังสุดจากทุกรายการที่พบกัน ดังนี้
- มาเลเซีย ชนะ ไทย 3-2 เอเอฟเอฟ ซูซกิ คัพ 2014 ชิงชนะเลิศ นัดที่ 2
- มาเลเซีย เสมอ ไทย 0-0 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
- ไทย เสมอ มาเลเซีย 2-2 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2
- มาเลเซีย ชนะ ไทย 2-1 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม รอบ 2
- ไทย แพ้ มาเลเซีย 0-1 ปี 2021 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เบอร์เสื้อ ทีมชาติไทย ที่จะใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 มีดังนี้
หมายเลข 1 กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล
หมายเลข 2 ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์
หมายเลข 3 ธีราทร บุญมาทัน
หมายเลข 4 พรรษา เหมวิบูลย์
หมายเลข 5 กฤษดา กาแมน
หมายเลข 6 สมัญญา ปุริสาย
หมายเลข 7 สุภโชค สารชาติ
หมายเลข 8 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
หมายเลข 9 ศุภชัย ใจเด็ด
หมายเลข 10 จักรพันธ์ แก้วพรม
หมายเลข 11 บดินทร์ ผาลา
หมายเลข 12 วีระเทพ ป้อมพันธุ์
หมายเลข 13 ศุภนันท์ บุรีรัตน์
หมายเลข 14 ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
หมายเลข 15 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
หมายเลข 16 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล
หมายเลข 17 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
หมายเลข 18 ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กัปตันทีม)
หมายเลข 19 พิชา อุทรา
หมายเลข 20 กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก
หมายเลข 21 ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
หมายเลข 22 เฉลิมศักดิ์ อักขี
หมายเลข 23 ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว
ขอบคุณภาพจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย