"ฟุตซอลไทย" โปรแกรมถ่ายทอดสดศึกชิงแชมป์เอเชีย ทีมชาติไทย คืนนี้ดวล อิรัก
"ฟุตซอลไทย" โปรแกรมศึกฟุตซอลเอเชี่ยนคัพ 2022 ชิงแชมป์เอเชีย ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดแรกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ พบ อิรัก เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะมีการถ่ายทอดสดทาง Eleven sports
"ฟุตซอลไทย" โปรแกรมศึกฟุตซอลเอเชี่ยนคัพ 2022 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศคูเวต ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 8 ตุลาคม 2565 ซึ่งในวันนี้ (27 ก.ย.2565) ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดแรกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ พบ อิรัก เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะมีการถ่ายทอดสดทาง Eleven sports และ AIS PLAY
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฟุตซอลไทย ร่วมสายคูเวต-อิรัก-โอมาน ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022
รายชื่อทีม "ฟุตซอลไทย" ทั้ง 14 คนในครั้งนี้ จะไม่มีชื่อของ กัปตันช้าง กฤษดา วงษ์แก้ว ที่ได้รับบาดเจ็บ โดย ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กองหน้าตัวเก่งจะรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้
ซึ่ง ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ อิรัก คูเวต (เจ้าภาพ) และ โอมาน
โดยรายชื่อทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย ในการสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย ประกอบด้วย
ผู้รักษาประตู
- คทาวุธ หาญคำภา(แบงค็อก บีทีเอส)
- ภานุรัตน์ โอฬาร (ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน)
ตัวรับ
- อิทธิชา ประภาพันธ์ (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
- รณชัย จูงวงษ์สุข (บลูเวฟ ชลบุรี)
- ณรงค์ศักดิ์ วิงวอน (ห้องเย็นท่าข้าม)
- สราวุท ผลาพฤกษ์ (บลูเวฟ ชลบุรี)
ริมเส้น
- กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์ (บลูเวฟ ชลบุรี)
- จรูญเดช หมื่นเที่ยง (แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด)
- ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ (บลูเวฟ ชลบุรี)
- วรุฒ หวังสะมาแอล (บลูเวฟ ชลบุรี)
- ธนาธิป แสงสังข์ (แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด)
หน้าเป้า
- เจษฎา ชูเดช (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
- ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (บลูเวฟ ชลบุรี)
- วรศักดิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์ (บลูเวฟ ชลบุรี)
โปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย มีดังนี้
- วันที่ 27 กันยายน 2565 ไทย พบ อิรัก เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
- วันที่ 29 กันยายน 2565 ไทย พย คูเวต (เจ้าภาพ) เวลา 23.55 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
- วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ไทย พบ โอมาน เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ทั้ง 3 นัดจะมีการถ่ายทอดสดทาง Eleven sports (คลิก) สามารถลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิกรายเดือน เดือนละ 100 บาท หรือสมัครสมาชิกครั้งเดียว 1 เดือน 100 บาท และรับชมได้ทันที
หรือถ่ายทอดสดผ่านทาง AIS PLAY ดูสดฟรี พิเศษเฉพาะลูกค้าเอไอเอส ช่อง ELEVEN1 (คลิกที่นี่)
ขอบคุณภาพจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย