เปิดไฮไลต์ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” งานหนังสือ 2565 ครั้งนี้มีอะไรเด็ด

เปิดตัวกันไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27” ที่กลับมาในครั้งนี้ ภายใต้คอนเซปต์ “BOOKTOPIA: มหานครนักอ่าน เพราะการอ่านคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมือง” ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 12-23 ต.ค. 2565 เวลา 10.00 - 21.00 น. โดยในงานครั้งนี้มีผู้ร่วมออกบูธ 328 ราย รวมทั้งสิ้น 812 บูธ ให้นักอ่านทุกเพศทุกวัยสามารถเลือกซื้อหนังสือได้อย่างจุใจ 

“ประเทศที่มีพลเมืองมีนิสัยรักการอ่าน จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อการพัฒนาบ้านเมือง
ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว การที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
ยังคงจัดงานหนังสืออย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ถือเป็นการสร้างและส่งเสริมให้เกิดการอ่านอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้นักอ่าน
ทุกเพศทุกวัยได้มาแสวงหาหนังสือที่ดีและถูกใจภายในงานเดียว” รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในพิธีเปิดงาน 

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ยังกล่าวอีกว่า จะทำให้งานหนังสือฯยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่จะปรากฏอยู่บนปฏิทินไทย แต่คนทั่วโลกจะต้องมาเยี่ยมชมงานหนังสือ เพราะกรุงเทพฯ จะเป็นเมืองแห่งหนังสือ พร้อมนโยบายทำให้ทุกคนสามารถเข้าใกล้หนังสือได้มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ ทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 หรือ Book Expo Thailand 2022 ในครั้งนี้ถือเป็นการเชิญชวนเหล่านักอ่านร่วมต้อนรับงานหนังสือกลับสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง และค้นหาแรงบันดาลใจจากการอ่านสู่การสร้างสรรค์ พัฒนาตัวตน ชุมชน จนยิ่งใหญ่ระดับเมือง ตลอดจนส่งเสริมให้คนไทยเห็นความสำคัญของการอ่านมากขึ้น 

การได้กลับมาจัดงานหนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง เสมือนการได้เดินทางกลับบ้าน เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยและสร้างความทรงจำมากมายให้กับนักอ่าน ขณะเดียวกันยังสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก อีกทั้งในช่วงตลอดการจัดงานผู้ที่นำรถส่วนตัวมายังสามารถจอดรถได้ฟรี
ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท 

สำหรับงานหนังสือในครั้งนี้นั้นประกอบด้วย โซนหนังสือ 6 หมวด ได้แก่ หนังสือเด็กและการศึกษา หนังสือทั่วไป หนังสือเก่า หนังสือประวัติศาสตร์และการเมือง หนังสือนิยายและวรรณกรรม และหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น เรียกได้ว่ามีครบเติมเต็มทุกความต้องการของผู้อ่านทุกเพศ ทุกวัย อีกทั้ง ภายในงานนั้นตกแต่งออกมาให้กับธีมมหานครนักอ่าน พร้อมพื้นที่ให้สายคอนเทนต์ได้เก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ไปส่งในโซเชียลมีเดีย ในบริเวณแลนด์มาร์ก (Landmark) กลางพื้นที่การจัดงาน เป็นจุดสำคัญของการถ่ายรูปและเช็คอิน สามารถมองภาพของงานในมุมมองของ Bird Eyes View แบบ 360 องศา คล้ายการได้เฝ้ามองเมืองหนังสือจำลอง 

ในโซนเดียวกันยังมี ถนนห้องสมุด (Reading Road) ถนนสายพิเศษที่ตกแต่งด้วยรายชื่อนักเขียน ชื่อหนังสือ และบางประโยคประทับใจจากหนังสือ ใกล้ ๆ กันนั้นมีถนนนักอ่าน (Reader Road) โดย PUBAT x สมาคมป้ายยา พบกิจกรรม Envelope letters on the wall เขียนความในใจใส่ซองจดหมายติดไว้บนกำแพงในบูธ Book Blind Date แลกเปลี่ยนหนังสือ โดยห่อหนังสือและเขียนแค่คำโปรย ตามมาด้วยกิจกรรม Book Playlist จัดลิสต์หนังสือตามอารมณ์หรือตามหัวข้อที่ต้องการ พร้อมส่งต่อให้นักอ่านคนอื่น ๆ ได้ตามไปหาหนังสืออ่านด้วยกัน

นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าระหว่างฮอลล์ 6-7 ยังมี นิทรรศการ Booktopia เมืองในฝันของนักอ่าน เปิดพื้นที่ให้กับความคิดสร้างสรรค์และพลังของการมีส่วนร่วม เชิญชวนนักอ่านร่วมแชร์ แบ่งปัน เติมเต็มไอเดียของภาพเมืองในฝัน แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบได้ผลักดันให้เป็นนโยบายสาธารณะที่สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ได้เขียนข้อความไว้ในนิทรรศการนี้ว่า “เมืองที่ทุกคนเข้าถึงหนังสือได้อย่างสะดวกหลากหลาย ตามที่ตนเองสนใจ”

 

• สำรวจแผงหนังสือยอดนิยม

จากการสำรวจของทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจพบว่า ในวันแรกนั้นมีผู้คนเข้ามาเลือกซื้อหนังสือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมมาซื้อหนังสือการ์ตูน ไลท์ โนเวล ฟิกเกอร์ เกม อนิเมะญี่ปุ่นเป็นหลักทำให้บูธของสำนักพิมพ์การ์ตูนและร้านที่ขายของเกี่ยวกับฟิกเกอร์นั้น มีคนรอต่อแถวกันอย่างยาวเหยียด ชนิดที่ว่าแทบจะไม่มีทางเดินกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Pheonix Next, Siam Inter Comic, Vibulkij, Nation Book, Dex

ขณะที่บูธหนังสือนวนิยายรัก นิยายวาย ก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มีหนังสือออกใหม่มากมาย พร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษ ที่ทำให้นักอ่านทั้งหลายต่างพากันช้อปปิ้ง เพื่อรับของสมนาคุณสุดน่ารัก ทั้งบูธ แจ่มใส หรือ Sense Book Publishing ก็เป็นที่สนใจของเหล่านักอ่านไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับ บูธของร้านหนังสือเจ้าใหญ่อย่าง B2S นายอินทร์ และ นานมีบุ๊กส์ ก็ขนกองทัพหนังสือหลากหลายสไตล์ มาให้นักอ่านได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ เรียกได้ว่ามาบูธเดียวก็ได้หนังสือครบ

• พรรคการเมือง บุกงานหนังสือ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานหนังสือในครั้งนี้ คือ เป็นครั้งแรกที่มีพรรคการเมืองมาร่วมเปิดบูธด้วย เริ่มต้นกันที่ “พรรคก้าวไกล” ที่จุดเด่นของบูธคือการดึงสติ๊กเกอร์ดำที่ติดไว้ผนังบูธ ซึ่งสติ๊กเกอร์แต่ละใบมีการพิมพ์ข้อความระบุปัญหาของประเทศหลากหลายออกไป เมื่อดึงออกแล้วจะเห็นเป็นข้อความนโยบายของพรรคที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

ส่วนภายในนั้นตกแต่งเป็นโต๊ะอาหารบนโต๊ะมีเมนูนโยบายและผลงานของพรรคก้าวไกล รวมถึงคณะก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสมรสเท่าเทียม งบประมาณออนไลน์ น้ำประปาดื่มได้ที่ อบต.อาจสามารถ สุราก้าวหน้า ผู้สูญหายทางการเมือง และยังมีแพลทฟอร์มดิจิทัลที่เปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะนโยบายอีกด้วย

 

ขณะที่ฝั่ง “พรรคเพื่อไทย” เปิดนิทรรศการ "ฝัน ปัง ดัง รวย : 1 ครอบครัว 1 Soft Power" หนึ่งในนโยบายหลักของพรรค ที่มองว่าในชีวิตทุกคนล้วนมีความฝัน มีจินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของมนุษย์ โดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ห้องน้ำจึงเป็นพื้นที่ที่ทุกคนเคยใช้ฟุ้งฝัน แต่ก็เป็นที่ที่เราทิ้งความฝันนี้ลงไปเพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้ในโลกความจริง 

ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองเห็นว่า ความคิด ความฝัน ถ้าได้รับความเข้าใจและสนับสนุนอย่างถูกต้องให้มั่นใจในคุณค่าแล้ว จะเกิดเป็นความกล้าในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ แต่ในทางปฏิบัติ จะทำอย่างไรให้ฝันของลูกหลานหรือของประชาชนเป็นจริงได้ เพราะทุกความฝันล้วนมีต้นทุน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสเข้าถึงความฝัน  และก็ไม่ใช่หน้าที่ประชาชนที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องความฝันอันสูงลิ่วนี้

อีกทั้งยังมีการเปิดตัวหนังสือใหม่ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในชื่อว่า  "Thaksin Shinnawatra Theory and Thought"  ซึ่งเรื่องราวของความคิดที่ตกผลึกจากประสบการณ์ยาวนานของย ทักษิณ ชินวัตร บอกเล่าผ่านการสัมภาษณ์เจาะลึก ตรงไปตรงมา และจริงใจ พร้อมด้วยเรื่องราวจากผู้คนแวดล้อมมากมาย ที่จะทำให้คุณได้รู้จักเขาในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งภรรยา ลูก ๆ เพื่อนร่วมงาน ไปจนกระทั่งผู้คนที่ได้รับผลโดยตรงจากนโยบายรัฐยุคทักษิณ”

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมในงาน “มหกรรมงานหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ 27 เท่านั้น โดยในแต่ละวันยังมีเวทีเสวนาบนเวทีกลางที่น่าสนใจและงานเปิดตัวหนังสืออีกหลายเล่ม พร้อมทั้งยังได้พบปะกับนักเขียนที่จะมาแวะเวียนแจกลายเซ็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อ่านตามบูธต่าง ๆ อีกมากมาย