ปักหมุด 5 "สวนสาธารณะ" เขียวสวยสดชื่น เดินเที่ยวรับ "ลมหนาว" กลางกรุง
ชี้เป้า 5 "สวนสาธารณะ" เขียว สวย ร่มรื่น ใจกลางกรุงเทพฯ น่าเดินเที่ยวชิลๆ สัมผัสบรรยากาศ "หน้าหนาว" ช่วงโค้งสุดท้ายของปลายปี 2565
หลายวันมานี้ คุณภาพอากาศเมืองกรุงกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากช่วงต้นเดือน ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ตรวจวัดค่า “ฝุ่น PM 2.5” อยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ในบางเขตพื้นที่ แต่เมื่อตรวจสอบค่าฝุ่นในช่วงนี้ (ณ 2 พ.ย. 2565) พบว่า สภาพอากาศทุกเขตพื้นที่ในกรุงเทพฯ ไม่มีจุดไหนที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเลย ภาพรวมทุกเขตในกรุงเทพฯ มีสภาพอากาศ 3 ระดับด้วยกัน คือ “คุณภาพดีมาก-คุณภาพดี-คุณภาพปานกลาง”
ในวันอากาศดีๆ แบบนี้ เหมาะกับการออกไปเดินเที่ยวชิลๆ กลางกรุงสัมผัสลมหนาวในช่วงปลายปีนี้ ยิ่งทุกวันนี้กรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียวอย่าง “สวนสาธารณะ” ที่ทั้งสวยงามและร่มรื่นนับสิบๆ แห่ง แทรกอยู่ตามมุมเมืองต่างๆ นอกจากจะเป็นปอดให้แก่คนกรุงแล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจให้ชาวกรุงได้เป็นอย่างดี ก่อนออกนอกบ้านอย่าลืมเช็คคุณภาพอากาศได้ที่ : รายงานคุณภาพอากาศประเทศไทย กรมควบคุมมลพิษ
หากใครมีเวลาช่วงเช้าหรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน และกำลังมองหาพิกัดเดินเที่ยวกรุงเทพฯ ท่ามกลางสวนป่าสวยๆ อากาศดีอยู่ล่ะก็ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ อยากชวนไปปักหมุด 5 สวนสาธารณะกลางกรุงที่ห้ามพลาด ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
1. สวนป่าเบญจกิติ
เป็นสวนสาธารณะระดับย่าน ขนาด 320 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยอยู่ในบริเวณพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม สวนป่าเบญจกิติถือเป็นโครงการสวนสาธารณะระยะต่อเนื่องจากสวนเบญจกิติที่ยึดแนวคิดของ “สวนน้ำ” ส่วนสวนป่าเบญจกิติยึดแนวคิดของ “ป่าในเมือง” (urban forest)
สวนป่าเบญจกิตินำแนวคิดเรื่องของ “เมืองฟองน้ำ” มาใช้ในการออกแบบ ที่นี่มีจุดเด่นคือ เกาะต้นไม้ทรงกลมเพื่อการกักเก็บน้ำและหน่วงน้ำ การทำสวนฝน (rain garden) ตลอดเส้นทางสัญจรในโครงการ โดยทั้งหมดใช้พืชพรรณท้องถิ่นตามธรรมชาติ ไม่เน้นการตัดแต่งเพื่อให้คงแนวคิดสวนป่าตามนิเวศธรรมชาติเดิมให้มากที่สุด
สวนป่าเบญจกิติยังถือเป็นสวนขนาดใหญ่แห่งแรกๆ ในกรุงเทพมหานคร ที่นำแนวคิด Nature-based Solution เข้ามาในการออกแบบ ภายในสวนประกอบด้วยพันธ์ไม้เดิม 1,733 ต้น และต้นไม้ที่ลงใหม่ 7,155 ต้น หลากหลายชนิดพันธุ์ มีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเดินลอยฟ้าระยะ 1.6 กิโลเมตร ทางวิ่ง ทางจักรยาน และทางเดินโดยรอบโครงการ
2. สวนหลวง ร.9
สวนสาธารณะแห่งนี้ถือเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่แขวงหนองบอน เขตประเวศ ทางตะวันออกของกรุงเทพฯ เปิดทุกวัน 05.00-19.00 น. มีพื้นที่ทั้งหมด 500 ไร่ ประกอบด้วยอาคารเทิดพระเกียรติ สวนพฤกษศาสตร์ และสวนตกแต่งหลากสไตล์ แบ่งพื้นที่ให้เข้าเยี่ยมชมได้ทั้งหมด 6 จุด ได้แก่
- อุทยานมหาราช มีหอรัชมงคล ด้านหน้าเป็นสวนราชพฤกษ์ และสระน้ำพุขนาดใหญ่ 3 สระ ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม
- สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ มีพรรณไม้นานาชนิดที่ปลูกตามหลักอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยา
- ตระพังแก้วเก็บน้ำ เป็นที่รองรับน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขัง และใช้ทำกิจกรรมทางน้ำ ริมฝั่งเป็นที่ตั้งของอาคารชายชล มีร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร
- สวนรมณีย์ เป็นสวนที่ทำเลียนแบบธรรมชาติ นำพรรณไม้จากป่าต่างๆ มาปลูกให้ดูผสมกลมกลืนเสมือน ธรรมชาติของป่าเขา น้ำตกและลำธาร มาไว้ใจกลางเมือง
- สวนน้ำตามพระราชดำริของ ร.9 เพื่อจำลองให้คล้ายกับ “ป่าพรุ” ตามสภาพธรรมชาติ
- สนามราษฎร์และศูนย์กีฬา เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ มีสนามกว้างและสังคีตศาลา ซึ่งเป็นเวทีแสดงกลางแจ้ง สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ
3. สวนลุมพินี
สวนลุมพินี เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ มีลักษณะเป็น “สวนอเนกประสงค์” บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่มีอยู่ทั่วสวน งดงามด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายชนิด
ปัจจุบันสวนลุมพินียังคงเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของชาวกรุง ผู้คนมักจะไปพักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย รำมวยจีน เล่นเกม ฟังดนตรี เรียนลีลาศ อ่านหนังสือที่ห้องสมุด และบางครั้งก็มีการจัดงานจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ จุดน่าสนใจในสวน ได้แก่
- พระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สร้างในปี 2485 เพื่อระลึกถึงมหากรุณาธิคุณขององค์ผู้ให้กำเนิดสวนลุมพินี
- ลานตะวันยิ้ม สำหรับทำกิจกรรมนันทนาการเพื่อคนพิการโดยเฉพาะ เช่น มีทางลาดแทนขั้นบันได สนามเด็กเล่นชนิดพิเศษ ที่จอดรถคนพิการ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนด้อยโอกาสครบครัน
- สโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ ณ อาคารลุมพินีสถาน เป็นที่พบปะสังสรรค์ พักผ่อนออกกำลังกายและฝึกอาชีพของผู้สูงอายุ
- ศูนย์สร้างโอกาสเด็กสวนลุมพินี ให้บริการแนะนำ ปรึกษา ช่วยเหลือ สอนหนังสือแก่เด็กเร่ร่อน
- ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี เสนอบริการในรูปแหล่งค้นคว้าความรู้จากหนังสือและวิดีทัศน์
- จักรยานน้ำและเรือพาย เป็นจุดบริการของเอกชน อยู่รอบเกาะลอย
4. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
สวนวชิรเบญจทัศ เป็นสวนสาธารณะระดับย่าน มีเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 3 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เดิมเคยใช้เป็นสนามกอล์ฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่อมาถูกสร้างเป็นสวนสาธารณะตามมติ ครม. ในสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป ภายในสวนมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมมากมาย ได้แก่
- เลนจักรยานรอบสวน โดยทางสวนฯ ก็มีบริการให้เช่าจักรยานสำหรับขับขี่ด้วย อัตราค่าบริการคันละ 20-60 บาทต่อวัน
- อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ เป็นอาคารที่จัดแสดงและเพาะเลี้ยงผีเสื้อและแมลงชนิดต่างๆ ขนาดเนื้อที่ 6 ไร่ โดยจัดภูมิทัศน์แบบธรรมชาติ ประกอบด้วยพรรณไม้ต่างๆ บ่อน้ำ ลำธาร น้ำตกเล็กๆ รวมทั้งพืชพรรณที่เป็นอาหารของผีเสื้อ ภายในตัวอาคารจัดเป็นนิทรรศการแสดงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผีเสื้อ และด้านข้างจัดเป็นกรงจัดแสดงผีเสื้อมีชีวิตขนาด 1,168 ตารางเมตร เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าเข้าชม ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น.
- สวนนันทนาการชุมชนสวนรถไฟ ให้บริการด้านกิจกรรมนันทนาการรูปแบบต่างๆ มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กที่ตกแต่งด้วยน้ำพุ สร้างความเพลิดเพลิน เปิดบริการ 6.00-20.00 น.
- สวนป่าใหญ่ในเมือง เป็นสวนป่าจำลองระบบนิเวศวิทยาของป่าเพื่อทำกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติ เพื่อการเรียนรู้ สามารถเข้าถ่ายภาพได้
5. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ “สวนรถไฟ” ณ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยจะอยู่ตรงกลางระหว่างสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนจตุจักร นอกจากเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่รวบรวมพรรณไม้มากกว่า 2,000 ชนิด ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถครบ 5 รอบ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535
ภายในสวนมีจุดพักผ่อนหย่อนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำรูปตัว “ส” และ ตัว “S” ซึ่งเป็นอักษรตัวแรก ในพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ในภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยตามแนวขอบสระ เลือกปลูกพืชพันธุ์สีเหลืองของดอกราชพฤกษ์ และพืชดอกสีม่วงอมชมพูของดอกอินทนิลน้ำ อีกทั้งมี “สวนพฤกษศาสตร์” ที่อุดมชุ่มฉ่ำไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งของไทยและต่างประเทศ
ถัดไปคือ “ลานบัว” ซึ่งเป็นลานโล่งขนาดใหญ่ ให้ความโปร่งสบาย และสามารถนั่งพักตากลมเย็นสบายได้ในบริเวณนี้ ภายในมีบ่อปลูกบัวหลายชนิดทั้งของไทยและต่างประเทศ ประดับด้วยกระถางเก่าแก่โบราณ ตลอดจนสวนยุโรป สวนไม้มงคลพระราชทาน 76 จังหวัด สวนไม้หอมน้อมเกล้าฯ สวนพรรณไม้อันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 05.00-19.00 น.
--------------------------------------
อ้างอิง : thai.tourismthailand.org, bangkok.go.th/chatuchakmetropark