มิชลิน ไกด์ ประกาศ “รางวัลมิชลิน” ปี 2566 ร้านดังคว้า 2 ดาวมี 6 ร้าน เจ้าเดิม
“มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย” ประกาศผล “รางวัลมิชลิน” ปี 2566 ร้านที่คว้า 2 ดาวมิชลิน มีจำนวน 6 ร้าน, คว้า 1 ดาวมิชลิน จำนวน 29 ร้าน โดยมี 5 ร้านจากทั้งหมด 29 ร้านที่สามารถคว้า 1 ดาวมิชลินมาได้ครั้งแรก เช็กผลรางวัลที่นี่!
กลับมาอีกครั้งกับการประกาศผลรางวัล "ดาวมิชลิน" ประจำปี 2566 (2023) จาก "มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย" โดยบรรยากาศในงานประกาศผลวันนี้ (24 พ.ย. 65) เป็นไปด้วยความคึกคัก อีกทั้งมีร้านน้องใหม่ที่เพิ่งจะคว้า 1 ดาวมิชลินได้เป็นครั้งแรกถึง 4 ร้านด้วยกัน และมี 1 ร้านที่เลื่อนขั้นขึ้นมาคว้า 1 ดาวได้สำเร็จ ส่วนร้านหรูที่คว้ารางวัล 2 ดาวมิชลิน ยังคงเป็น 6 ร้านเจ้าเก่าเจ้าเดิมเหมือนกับปีที่แล้ว
- ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 2 ดาว หรือ Excellent cuisine
Excellent cuisine, worth a detour หมายถึง ร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม โดยร้านอาหารในไทยที่ได้ดาวมิชลิน 2 ดาวทั้งหมด เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มี 6 ร้าน ได้แก่
1. R-Haan
2. Le Normandie by Alain Roux (เลอ นอร์มังดี)
3. Chef’s Table (เชฟส์เทเบิล)
4. Mezzaluna (เมซซาลูน่า)
5. Sühring
6. Sorn (ศรณ์)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 1 ดาว หรือ High quality cooking
High quality cooking, worth a stop หมายถึง ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล, พื้นที่ภูเก็ตและพังงา ได้รางวัลนี้รวมทั้งสิ้น 29 ร้าน ได้แก่
1. Saneh Jaan (เสน่ห์จันทน์)
2. Le Du (ฤดู)
3. Nahm (น้ำ)
4. PRU (พรุ) *ภูเก็ตและพังงา
5. Sushi Masato (ซูชิมาซาโตะ)
6. Savelberg (ซาเวลเบิร์ก)
7. Yu Ting Yuan (ยวีทิงหยวน)
8. Cadence by Dan Bark (เคเดนซ์ บาย แดน บาร์ค)
9. 80/20 (เอ็ทตี้ ทเวนตี้)
10. J’AIME by Jean-Michel Lorain
11. Elements (เอเลเมนท์)
12. Chim by Siam Wisdom (ชิม บาย สยาม วิสดอม)
13. Canvas (แคนวาส)
14. Khao Ekkamai (ข้าว สาขาเอกมัย)
15. Sra Bua by Kiin Kiin (สระบัวบายกินกิน)
16. Methavalai Sorndaeng (เมธาวลัย ศรแดง)
17. Suan Thip (สวนทิพย์)
18. Paste (เพสท์)
19. Blue by Alain Ducasse
20. Jay Fai (เจ๊ไฝ)
21. Igniv (อิคนิฟ)
22. Côte by Mauro Colagreco
23. GAA (กา)
24. Aksorn (อักษร)
25. Signature *ร้านเลื่อนขั้น มิชลิน 1 ดาวปีแรก!
26. Baan Tepa (บ้านเทพา) *ร้านใหม่ มิชลิน 1 ดาวปีแรก!
27. Haoma *ร้านใหม่ มิชลิน 1 ดาวปีแรก!
28. Potong (โพทง) *ร้านใหม่ มิชลิน 1 ดาวปีแรก!
29. Maison Dunand *ร้านใหม่ มิชลิน 1 ดาวปีแรก!
- รางวัลพิเศษ รางวัลใหม่ รางวัลความยั่งยืน ประจำปี 2566
นอกจากนี้ยังมีการประกาศรางวัลพิเศษ 2 รางวัลที่เชิดชูบุคลากรในวงการอาหาร คือ
- รางวัลพิเศษ “Service Award” มิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์ 2023 ได้แก่ คุณอุทิศ สองโท จากห้องอาหารบ้านพระยา โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- รางวัลพิเศษ “Young Chef Award” มิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์ 2023 ได้แก่ Mr.Davide Garavaglia จากร้านอาหาร Côte by Mauro Colagreco โรงแรม Capella Bangkok
อีกทั้งมีการประกาศรางวัลใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้เป็นปีแรก มี 2 รางวัล คือ Opening of the year award ได้แก่ เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ แห่งร้าน Potong ในย่านเยาวราช และอีกหนึ่งรางวัล คือ Sommelier award ได้แก่ Mr.Guillaume Perdigues จากร้าน Mezzaluna
ส่วนอีกรางวัลที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ รางวัล Michelin Green star ส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร โดยผู้คว้ารางวัลนี้ในปี 2566 มี 3 ร้านด้วยกัน ได้แก่ ร้าน PRU (พรุ) ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินในจังหวัดภูเก็ต, ร้านจำปา (Jampa) และ ร้าน Haoma
คู่มือฉบับล่าสุดนี้บรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 441 แห่ง นอกจากจะมีร้านที่ได้รับรางวัล ‘2ดาวมิชลิน’ และ รางวัล ‘1 ดาวมิชลิน’ แล้ว ยังมีร้านที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 189 ร้าน โดยในจำนวนนี้ 53 ร้านได้รับการจัดอันดับครั้งแรก และ 6 ร้านได้รับการเลื่อนระดับจากปีก่อน ซึ่งประกอบด้วย
- 82 ร้านตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- 13 ร้าน ในอยุธยา
- 27 ร้าน ในเชียงใหม่
- 23 ร้าน ในภูเก็ต
- 11 ร้าน ในพังงา
- 33 ร้าน ในภาคอีสาน (9 ร้านอยู่ในนครราชสีมา, 11 ร้านใน ขอนแก่น, 6 ร้านใน อุบลราชธานี และ 7 ร้านในอุดรธานี)
ทั้งนี้ Michelin Guide และรางวัลดาวมิชลิน มีต้นกำเนิดจากสองพี่น้อง André and Edouard Michelin ได้ก่อตั้งบริษัทผลิตยางรถยนต์ในชื่อว่า Michelin และในช่วงนั้นกิจการของทั้งคู่เจริญรุ่งเรืองและเติบโตอย่างเต็มที่ และในปี 2432 ทั้งคู่คิดว่าควรจัดทำคู่มือสำหรับคนขับขี่รถยนต์ โดยใช้ชื่อว่า Michelin Guide เพื่อสำรวจเส้นทาง แล้วทำข้อมูลแนะนำที่เป็นประโยชน์กับนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น แผนที่ สถานที่พักผ่อน รวมไปถึงร้านอาหารด้วย
หลังจากนั้น บรรดาร้านอาหารต่างๆ ที่ได้รับคำแนะนำจาก Michelin Guide ได้กลายเป็นหนึ่งในคู่มือท่องเที่ยวของโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยทาง Michelin Guide ใช้การจัดอันดับโดยให้คะแนนเป็นดาวมิชลิน ทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน และก็ยังคงใช้การให้คะแนนด้วยดาวมาจนถึงปัจจุบันด้วย ครอบคลุมการมอบรางวัลให้แก่ร้านอาหารใน 40 ประเทศทั่วโลก
โดยรางวัล “ดาวมิชลิน” ในแต่ละระดับ มีเกณฑ์การตัดสินจะวัดจาก 5 เกณฑ์หลักๆ ด้วยกัน คือ คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้, ความโดดเด่นของรสชาติและเทคนิคการรังสรรค์อาหาร, เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่นำเสนอผ่านมื้ออาหาร, ความคุ้มค่าสมราคา, ความคงที่ของรสชาติ
ส่วนความหมายของระดับดาวมิชลินแต่ละดวงนั้น มีดังนี้
1 ดาว : High quality cooking, Worth it Stop คือ ร้านอาหารที่ดีมีคุณภาพ การปรุงรสชาติสม่ำเสมอ ควรค่าแก่การหยุดแวะชิมระหว่างเดินทาง แต่ยังขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาทานซ้ำ
2 ดาว : Excellent Cooking , Worth a Detour คือ ร้านอาหารรสชาติดี คุณภาพเยี่ยม มีการนำเสนอที่พิเศษและไม่ซ้ำใคร เหมาะกับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
3 ดาว : Exceptional cuisine Worth a Special journeys คือสุดยอดร้านอาหารชั้นเลิศ ได้มาตรฐานทั้งรสชาติ เทคนิคการนำเสนอและรังสรรค์อาหารของเชฟที่ไม่เหมือนใคร เป็นร้านที่ควรค่าแก่การตั้งเป็นจุดมุ่งหมายเพื่อวางแผนออกเดินทางไปลองชิมโดยเฉพาะ
