รู้จัก Water Sommelier "นักชิมน้ำดื่ม" พร้อมสำรวจตลาดน้ำดื่มล่าสุด

รู้จัก Water Sommelier "นักชิมน้ำดื่ม" พร้อมสำรวจตลาดน้ำดื่มล่าสุด

ไขขอสงสัย! ทำไม "น้ำเปล่า" แต่ละยี่ห้อถึงมีรสเค็ม-หวาน-จืด แตกต่างกันออกไป และน้ำดื่มแบรนด์ไหนครองใจคนไทยมากที่สุด รวมถึงพาไปรู้จักอาชีพแปลกอย่าง "นักชิมน้ำดื่ม" หรือ Water Sommelier 

"น้ำเปล่า" ที่คนเราควรดื่มให้เพียงพอประมาณ 8 แก้วต่อวันนั้น มีความลับซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละยี่ห้อ 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนสำรวจตลาดน้ำดื่มไทยปี 2564 ว่าที่ผ่านมาแบรนด์ไหนครองใจคนไทย เจาะลึกสิ่งที่ทำให้รส-กลิ่นของน้ำเปล่ามีความแตกต่างกัน รวมถึงพารู้จักอาชีพสุดแปลก "นักชิมน้ำเปล่า" ที่เป็นที่ต้องการตัวในอุตสาหกรรมน้ำดื่มในปัจจุบัน

 

  • สำรวจตลาดน้ำดื่มปี 2564 

ตลาดน้ำดื่มไทยปี 2564 มีมูลค่ากว่า 58,715 ล้านบาท และคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2564-2569 คิดเป็นร้อยละ 4.7 แบ่งเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดหรือน้ำเปล่า 44,607.7 ล้านบาท (75.97%), น้ำโซดาบรรจุขวด 8,869.8 ล้านบาท (15.11%), น้ำดื่มฟังก์ชัน 5,039.6 ล้านบาท (8.58%) 

ซึ่งในปีที่ผ่านมาตลาดน้ำดื่มเติบโตกว่าปี 2563 ที่มีมูลค่า 56,303.7 ล้านบาท โดยในปี 2454 พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเน้นการบริโภคน้ำดื่มที่บ้านเป็นหลัก ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจากช่วงก่อนโควิดระบาดที่มีพฤติกรรมเน้นซื้อที่ร้านอาหาร-นอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแล้วในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทน้ำดื่มจึงมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด และรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ขวดให้เหมาะกับการซื้อกลับบ้านมากขึ้น รวมถึงจัดโปรโมชั่นส่งฟรีถึงบ้าน

สำหรับผู้นำตลาดด้านน้ำดื่มบรรจุขวด (น้ำเปล่า) 

  • อันดับหนึ่งคือ น้ำสิงห์ ของบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด 
  • อันดับสองคือ คริสตัล ของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) 
  • อันดับสามคือ เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ของบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

นอกจากนี้ Infosearch สถาบันวิจัยตลาดชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสำรวจน้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคนึกถึงหรือ Top-of-mind Brand ในช่วงปี 2555-2564 หรือตลอดระยะเวลา 10 ปี พบว่าในภาพรวม “น้ำดื่มสิงห์” สามารถครองความเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแข็งแกร่ง

ด้านความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) น้ำดื่มสิงห์ยังคงเป็นที่ 1 อย่างยาวนานนับ 10 ปีเช่นกัน รวมถึงการเป็นแบรนด์น้ำดื่มที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากสุด (Brand Preference) โดยทั้งหมดได้รับการการันตีจากเวทีต่างๆ เช่น No.1 Brand in Thailand และ Thailand’ s Most Admired Brand เป็นต้น โดยปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ยังครองการเป็น “ผู้นำ” ตลาดน้ำดื่มด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 อีกด้วย

 

  • "น้ำเปล่า" แต่มีรสเค็ม-หวาน-จืด

เป็นที่สงสัยและถกเถียงกันในโซเชียลมีเดียหลายครั้ง ในเรื่องรสชาติของน้ำเปล่าบรรจุขวดปัจจุบันว่ามีรสชาติและกลิ่นต่างกัน ซึ่งขัดกับชื่อ ‘น้ำเปล่า’ ที่ไม่ได้มีรสชาติ หรือมีรสจืดจริงๆ ตามชื่อ โดยส่วนใหญ่ชาวเน็ตลงความเห็นว่า

  • น้ำสิงห์ มีรสชาติออกเค็มๆ กร่อยๆ เล็กน้อย
  • น้ำคริสตัล ออกรสหวาน
  • น้ำทิพย์ ไม่มีกลิ่น และรสชาติ
  • น้ำออร่า รสชาติออกหวาน
  • น้ำมองต์เฟลอร์ รสชาติออกหวานเล็กน้อย

เป็นเรื่องจริงที่ว่าน้ำเปล่าแต่ละขวดจะมีรสชาติและกลิ่นต่างกัน โดยปัจจัยที่ทำให้น้ำมีรสชาติแตกต่างกันนั้น ประกอบด้วยทั้งชนิด และแหล่งที่มาของน้ำ การบรรจุ และการจัดเก็บรักษา โดยทั่วไปแล้วน้ำเปล่า ถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด คือ 

1) น้ำประปา : ได้มาจากการเอาน้ำดิบไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคแล้วใส่ท่อ

2) น้ำแร่ : มาจากใต้ดินซึ่งมีส่วนผสมของ magnesium / manganese / calcium เป็นต้น นำมาบรรจุขวดโดยไม่เพิ่มเติมสิ่งใด บางครั้งมีการสกัด manganese ออก หรือเติมก๊าซคาร์บอนให้ซ่า ซึ่งน้ำแร่ของแต่ละแบรนด์จะมีแร่ธาตุต่างกันและมีรสชาติต่างกันด้วย ส่วนใหญ่มีรสเค็มกว่าน้ำปกติเล็กน้อย

3) น้ำพุ : มาจากน้ำใต้ดินอันเกิดจากน้ำฝนสะสมมานานอยู่ใต้ดินและ “รั่ว” ออกมา

4) น้ำบ่อ : มาจากแหล่งน้ำใต้ดิน

5) น้ำกรอง : นำน้ำมาผ่านกระบวนการทำให้สะอาด โดยนำน้ำดิบมาจากบ่อหรือใต้ดินและนำมาผ่านการขจัดแบคทีเรีย เชื้อโรค และสารแขวนลอยต่างๆ ออกไป

6) น้ำกลั่น : มาจากการต้มจนเป็นไอและกลายเป็นน้ำ เป็นน้ำบริสุทธิ์ที่ขาดเกลือแร่

7) น้ำอัดก๊าซ (sparkling water) : เพื่อให้มีฟองเมื่อดื่มแล้วรู้สึกซ่า

ด้วยเหตุเช่นนี้เองจึงทำให้รสชาติของน้ำเปล่าแต่ละขวดแตกต่างกันออกไป เป็นอันยุติข้อถกเถียงว่าน้ำเปล่ามีรสชาติจริงหรือไม่

 

  • อาชีพสุดแปลก ‘นักชิมน้ำดื่ม’ 

เนื่องจากน้ำเปล่ามีรสชาติต่างกัน และแต่ละรสชาติก็ขึ้นอยู่กับความคุ้นชิน และความชื่นชอบส่วนบุคคล จึงทำให้เกิดอาชีพ Water Sommelier หรือ นักชิมน้ำดื่ม ซึ่งหากใครอยู่ในวงการไวน์ หรือสายงานบริการจะรู้จักสายงานของซอมเมอลิเยร์(Sommelier) เปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญ และบาเทนเดอร์ด้านเครื่องดื่ม ที่สามารถช่วยชี้แนะ หรือเลือกจับคู่อาหารและเครื่องดื่มเพื่อให้รสชาติเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับ Water Sommelier ก็เช่นเดียวกัน คือมีหน้าที่หลักในการชิมน้ำเพื่อวิเคราะห์และแยกรสชาติของน้ำดื่ม เช่น น้ำแร่ธรรมชาติ น้ำแร่ น้ำพุธรรมชาติ น้ำบาดาล และทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ-ที่ปรึกษาแก่ร้านอาหาร

โดยสถาบันด้านการสอน Water Sommelier ที่โด่งดังที่สุดในโลกคือ Doemens Academy ในประเทศเยอรมนี มีการเปิดอบรมหลักสูตรอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล และมีสมาคม Water Sommelier เป็นตัวกลางในการประสานงาน รวมถึงเป็นแหล่งความรู้ด้านน้ำดื่มโดยเฉพาะ 

ทั้งนี้ อาชีพ Water Sommelier กลายเป็นอาชีพเฉพาะที่มีความสำคัญกับอุตสาหกรรมน้ำดื่มและร้านอาหารที่ไม่ว่าใครก็ทำแทนไม่ได้ เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท สำหรับในประเทศไทยมีนักชิมน้ำดื่มคนแรกที่จบหลักสูตร Water Sommelier คือ ปอ-วรจรรย์ เที่ยงธรรม

------------------------------------

อ้างอิง : fic.nfi.or.thdoemenswatersommelier