ฟุตบอลทีมชาติโมร็อกโก ผู้แพ้ที่น่าจดจำ แพ้ในเกมแต่ชนะใจแฟนบอลจากทั่วโลก
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รอบรองชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา มีภาพที่กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์หลังเหล่าทีมงาน โค้ช และผู้เล่นนักฟุตบอลทีมชาติโมร็อกโก ก้มคุกเข่าขอบคุณและขอโทษแฟนบอลในสนามหลังเกมที่ทัพสิงโตแอตลาส พ่ายต่อ ฝรั่งเศส 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รอบรองชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา มีภาพที่กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์หลังเหล่าทีมงาน โค้ช และผู้เล่นนักฟุตบอลทีมชาติโมร็อกโก ก้มคุกเข่าขอบคุณและขอโทษแฟนบอลในสนามหลังเกมที่ทัพสิงโตแอตลาส พ่ายต่อ ฝรั่งเศส 0-2 ต้องอกหักไปชิงอันดับ 3 กับ โครเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขากลายเป็นทีมม้ามืดและสร้างประวัติศาสตร์มากมาย และสามารถเอาชนะใจแฟนบอลจากทั่วโลก
แม้ว่า โมร็อกโก จะพ่ายต่อฝรั่งเศส ชวดเข้าชิงเป็นครั้งแรกอย่างน่าเสียดาย แต่รายละเอียดเกมนั้น พวกเขาแทบไม่ได้เป็นรองเลย แถมยังสู้กับแชมป์เก่า และอดีตแชมป์โลก 2 สมัยได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ซึ่งจากสถิติหลังเกมนั้น โมร็อกโก เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่า ฝรั่งเศส ที่ 61-39% และสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำประตูได้ถึง 13 ครั้ง มีโอกาสได้ประตูหลายครั้งด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นโอกาสจากลูกปั่นด้วยขวานอกกรอบเขตโทษของ อัซเซดีน อูนาฮี ทว่า อูโก้ โยริส นายทวารฝรั่งเศสบินปัดไว้ได้ หรือลูกตีลังกาจักรยานอากาศของ ยาวัด อิล ยามิค ที่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย รวมถึงช่วงทดเวลาครึ่งหลังที่สร้างความปั่นป่วนให้เกมรับของ ฝรั่งเศส ก่อนที่ ฌูลส์ กุนเด้ จะเคลียร์บอลออกจากเส้นประตูไปได้อย่างหวุดหวิด
เกมจบ 90 นาที โมร็อกโก แพ้ฝรั่งเศส 0-2 อกหักต้องไปรีแมตช์ชิงที่ 3 กับ โครเอเชีย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมสายในรอบแบ่งกลุ่ม ในวันที่ 17 ธ.ค.2565 นี้ ซึ่งทั้งสองทีมดวลกันมาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งผลตอนนั้นเสมอกัน 0-0
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้สร้างประวัติศาสตร์เข้าไปชิงแชมป์โลกสมัยแรกของพวกเขา แต่ โมร็อกโก ก็สร้างสถิติมากมายและจะเป็นที่จดจำของแฟนบอลไปอีกนานแสนนาน หากพูดถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์
ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มซึ่ง โมร็อกโก นั้นอยู่ร่วมสายกับทั้ง โครเอเชีย อดีตรองแชมป์โลกปี 2018 เบลเยี่ยม ที่เคยมีอันดับฟีฟ่าแรงค์กิ้งอันดับ 1 รวมถึง แคนาดา ยอดทีมจากโซนคอนคาเคฟ
โดยผลงาน 3 นัดพวกเขาเสมอ โครเอเชีย และเอาชนะได้ทั้ง เบลเยี่ยม และแคนาดา คว้าแชมป์กลุ่มได้อย่างหักปากกาเซียนจากหลายสำนัก ทะลุเข้ารอบน็อกเอาท์อย่างสง่าผ่าเผย
นอกจากนั้น ในรอบน็อกเอาท์ พวกเขาล้มทั้ง สเปน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และยังยัดเยียดความปราชัยให้ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กลายเป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทีมแรกที่สร้างประวัติศาสต์ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเวิลด์คัพ และยังเก็บคลีนชีตได้ถึง 4 นัดและเสียไปแค่ประตูเดียวเท่านั้นก่อนดวลกับ ฝรั่งเศส
หลังเกมนั้น วาลิด เรกรากี กุนซือทีมชาติโมร็อกโก ก็ได้เปิดใจว่า ตนเองและลูกทีมรู้สึกภูมิใจที่มาไกลมากๆในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แล้ว โดย เรกรากี ยังบอกอีกว่า ตนเองนั้นรับรู้ได้ถึง ผู้คนทั้งโลกที่ต่างชื่นชมและภูมิใจกับโมร็อกโกชุดนี้ เราแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้า การทำงานหนัก และพวกเราต่างเล่นฟุตบอลด้วยความตั้งใจจริง
ภาพหลังจบเกมที่แพ้ ฝรั่งเศส 0-2 ที่สนามอัล เบย์ต สเตเดี้ยม , อัล กอร์ กลายเป็นภาพที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล มีแฟนบอลจากทั่วโลกชื่นชมในความสู้สุดใจของทีมจากแอฟริกาทีมนี้
ซึ่ง โมร็อกโก ได้แสดงให้เห็นถึงทีมสปิริต ที่แม้จะไม่มีดาวดังระดับซุปเปอร์สตาร์ แต่ทัพสิงโตแอตลาสช่วยกันเล่นด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง และกล้าหาญ ช่วยกันสู้จนทะลุเข้ามาถึงรอบตัดเชือก และสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้สำเร็จ
ภาพที่พวกเขาก้มคุกเข่าขอบคุณและขอโทษแฟนบอลในสนาม ซึ่งแฟนบอลทั้งโลกก็ต่างนับถือ ชื่นชม และต่างโค้งคำนับกลับให้กับทีมฟุตบอลทีมชาติโมร็อกโก ที่ได้เข้ามาสร้างสีสันในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายหนนี้ ซึ่งแม้จะแพ้ในเกม แต่พวกเขาก็สามารถชนะใจแฟนบอลจากทุกทั่วมุมโลกได้อย่างเป็นเอกฉันท์