"วันหยุดยาว" คริสต์มาสและ "วันปีใหม่" อาจไม่ใช่เทศกาลแห่งความสุขเสมอไป

"วันหยุดยาว" คริสต์มาสและ "วันปีใหม่" อาจไม่ใช่เทศกาลแห่งความสุขเสมอไป

"วันหยุดยาว" ปลายปีช่วงเทศกาลคริสต์มาสและ "วันปีใหม่" อาจไม่ใช่เทศกาลความสุขของทุกคน เมื่อสังคมกดดันให้จัดปาร์ตี้สุดหรู ภาษีสังคม และบางคนอาจเคยประสบเหตุการณ์เลวร้าย ซึ่งแบกรับไม่ไหวจนทำให้เครียดและกังวลในช่วงเวลานี้ของปี

เมื่อใกล้ถึง "วันหยุดยาว" ช่วงปลายปีทีไร หลายคนมักนึกถึงบรรยากาศแห่งความสนุกสนานรื่นเริง แชมเปญ อาหารอร่อย ของขวัญ คาราโอเกะ ไฟประดับสวยงามในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ "วันปีใหม่" และการจัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และครอบครัว

แต่รู้หรือไม่? บางคนไม่ได้รู้สึกมีความสุขไปกับเทศกาลนี้ แต่กลับรู้สึกเครียด กดดัน กังวล และไม่มีความสุขมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปีด้วยซ้ำ

ดร.ไอลีน เอส. โคเฮน นักจิตบำบัดอายุรเวทจากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา อธิบายภาวะอารมณ์ของกลุ่มคนเหล่านี้ว่า อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บางคนต้องกลับบ้านเกิดในช่วง “วันหยุดยาว” ปลายปี แล้วมักจะถูกกดดันจากครอบครัวในเรื่องหน้าที่การงานหรือการแต่งงาน บางคนถูกกดดันจากแวดวงสังคมให้เป็นเจ้าภาพจัดปาร์ตี้สุดอลังการและมีค่าใช้จ่ายสูง

บางคนอาจมีความทรงจำเกี่ยวกับวันหยุดที่น่าผิดหวัง เช่น การเลิกรากับคนรัก, คำสัญญาที่ว่างเปล่า, คริสต์มาสที่ไร้ของขวัญจากสภาวะการเงินที่ย่ำแย่, หลายคนสูญเสียสมาชิกในครอบครัวเนื่องจากการเจ็บป่วย ความตาย ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปี ซึ่งเพิ่มความเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

เหตุการณ์เหล่านี้ ล้วนทิ้งความว่างเปล่าไว้ในใจของผู้คนทั่วโลกจำนวนไม่น้อย ดังนั้น ช่วงเวลานี้ของปีอาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากทางอารมณ์และเพิ่มความเหนื่อยล้าให้ผู้คนได้เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วอาจพบว่าตัวเองเต็มไปด้วยความทรงจำที่เลวร้ายในช่วงวันหยุด และต้องอยู่บ้านคนเดียวโดยไม่มีที่ไป

ดร.ไอลีน วิเคราะห์ถึงต้นตอที่ทำให้บางคนเกิด “ภาวะเครียดในช่วงวันหยุดเทศกาล” ว่า เนื่องจากวันหยุดยาวช่วงปลายปี (End of Year Holidays) มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น จึงมีแรงกดดันเพิ่มเติมที่บังคับให้คนเราต้องมีความสุข สนุกสนาน และร่าเริง แต่หากสิ่งนั้นไม่เกิดขึ้น บางคนจึงรู้สึกเศร้าและสงสัยว่าฉันเป็นคนเดียวที่ต้องเจอเหตุการณ์นี้หรือไม่?

แน่นอนว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่กำลังเผชิญกับสภาวะนี้อยู่ ในฐานะนักบำบัด ดร.ไอลีน ระบุว่า ช่วงเวลาปลายปีแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอยุ่งที่สุดในรอบปีในการให้คำปรึกษาและบำบัดจิตใจให้คนไข้ 

โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีนี้ ผู้คนทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบและมีความเครียดที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น ในช่วงเทศกาลวันหยุดในปีนี้ ควรอนุญาตให้ตัวเองได้พักจากความกดดันและความเครียด และใช้เวลานี้ให้ของขวัญแก่ตัวเอง โดยเลือกทำสิ่งที่คุณมีความสุขกับตัวเองมากที่สุด โดยมีคำแนะนำจากนักจิตบำบัด ดังนี้

  • หากคุณไม่มีเงินในปีนี้ อย่าซื้อของขวัญราคาแพงเกินตัว

อันที่จริงไม่ต้องหาซื้อของขวัญปีใหม่หรือปฏิเสธการเข้าร่วมการจับฉลากของขวัญไปเลยก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากทำ หรือหากคุณไม่สบายใจที่จะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำมื้อใหญ่ๆ อย่าเสนอตัวเองที่จะทำ ให้ปล่อยผ่านไป แล้วควรหันมาดูแลตัวเอง และระวังสิ่งต่างๆ ที่จะกระตุ้นให้คุณกังวลและซึมเศร้า

  • ให้เวลากับตัวเองเพื่อแยกแยะว่ารู้สึกอย่างไร

จริงๆ แล้วการหลีกเลี่ยงปัญหาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แต่แทนที่จะหนีปัญหา ลองเปลี่ยนมาให้เวลากับตัวเองเพื่อแยกแยะว่าคุณรู้สึกอย่างไร หากพบว่าคุณรู้สึกเครียดและหนักใจกับวันหยุดยาวที่จะมาถึง (ไม่อยากกลับบ้านเกิดไปพบญาติ) คุณอาจต้องการคิดทบทวนใหม่ว่าคุณต้องการใช้เวลาช่วงวันหยุดกับตัวเองอย่างไร

  • รู้จักปล่อยวางอดีต

ในกรณีที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ หากคุณรู้สึกสะเทือนใจมาก ให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว และคุณจะผ่านมันไปได้ ขอให้มีความเห็นอกเห็นใจและอดทนกับตัวเองเข้าไว้ และพยายามปล่อยวางอดีตให้ได้

  • หากเกิดความตึงเครียดขึ้น คุณมีสิทธิ์ที่จะพูดว่า “ไม่”

เมื่อมีใครสักคนร้องขอให้เป็นเจ้าภาพจัดปาร์ตี้ใหญ่ๆ หรือขอให้เป็นธุระจัดการงานช่วงวันหยุดยาวปลายปี จำไว้ว่าคุณสามารถปฏิเสธได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด แล้วเลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง เมื่อคุณรู้สึกควบคุมปฏิกิริยาตอบสนองของตัวเองได้ คุณจะจัดการกับสถานการณ์ที่อาจดูหนักหนาสาหัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ลองใช้เวลาวันละครั้งเพื่อดึงสติและจดจำไว้ว่าความรู้สึกเครียด กังวล และกดดันเนื่องจากวันหยุดยาวนั้น เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และในหลายๆ กรณีจะพบว่าสิ่งที่เราเคยรู้สึกว่าติดขัดอยู่ จริงๆ แล้วเราสามารถปลดล็อกมันได้ และเราคู่ควรที่จะมีความสุข ไม่เฉพาะแค่ช่วงวันหยุดแต่ในช่วงเวลาอื่นๆ ของชีวิตด้วย

-------------------------------------------

อ้างอิง : Psychology TodayGenesismedical.org