รู้จัก“เสียงบำบัด’ จาก ‘ขันทิเบต” แนวทางใช้เสียงและสมาธิช่วย "บำบัดจิตใจ"
รู้จักการบำบัดด้วย "ขันทิเบต" (Tibetan Singing Bow) หนึ่งในวิธีใช้ “เสียงบำบัด” ซึ่งใช้คลื่นเสียงทำงานกับสมองและสร้างสมาธิ ช่วยบำบัดอาการต่างๆ
“เสียงบำบัด” คืออะไร? คำนิยามซึ่งเป็นคำตอบของคำถามนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก เพราะปัจจุบันการใช้ “เสียง” เพื่อบำบัดอาการต่างๆ เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย
คลื่นเสียงมีผลกับสมอง โดยสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับความตื่นตัวของสมอง เช่น การฟังเสียงโทนความถี่ต่ำ ซึ่งมีงานวิจัยระบุว่า กระตุ้นให้กิจกรรมคลื่นสมองช้าลงและช่วยให้ผ่อนคลาย หรือบทความวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่า คลื่นบำบัดสมองในช่วงเดลต้า (1-4 เฮิรตซ์) สัมพันธ์กับการนอนหลับสนิทและการพักผ่อน เป็นต้น
ถึงเช่นนั้น เมื่อพูดถึงเสียงกับการบำบัด เรามักพูดถึงเสียงดนตรีหรือเสียงจากแหล่งธรรมธรรมชาติเท่านั้น หาก ณ ปัจจุบันนี้ มีการใช้ “ขันทิเบต” Tibetan Singing Bowl เข้ามาเป็นอุปกรณ์ในการช่วยบำบัด
- “ขันทิเบต” คืออะไร
ขันทิเบต คือ ขันที่ทำขึ้นจากเหล็กผสมทองเหลือง มีเสียงก้องกังวาลเมื่อใช้ไม้ถูวนรอบ ๆ เป็นขันที่พระสงฆ์ในทิเบตใช้เพื่อทำสมาธิประกอบพิธีการสวดมนต์ เพราะเชื่อว่าคลื่นเสียงของขันทิเบตนี้จะช่วยทำให้ผู้ฟังรู้สึกสงบใจได้เร็วขึ้น
อุปกรณ์การบำบัดด้วยขันทิเบต
ครูบิ๊ก – จิตตินันท์ นันทไพบูลย์ นักเขียน ผู้บรรยายธรรม ซึ่งศึกษาด้านการบำบัดด้วยขันทิเบต บอกว่า ขันทิเบตปล่อยพลังงานออกมาใน 2 รูปแบบ คือ พลังงานเสียง (Sound) และพลังของความ สั่นสะเทือน (Vibration) ซึ่งพลังทั้งสองจะตรงเข้าไปทำงานกับน้ำในร่างกาย และคลื่นสมอง
ครูบิ๊ก – จิตตินันท์ นันทไพบูลย์
“พระทิเบตท่านตีขันด้วยตนเองเพื่อใช้ประกอบการภาวนา ขันทิเบตโบราณจึง มีความศักดิ์สิทธิ์ โดยเมื่อปล่อยพลังงานออกมาใน 2 รูปแบบ คือ พลังงานเสียง (Sound) และพลังของความสั่นสะเทือน (Vibration) ซึ่งพลังทั้งสองจะตรงเข้ำไปทำงานในร่างกายและคลื่นสมองของมนุษย์”
ผู้ที่เล่นขัน จะต้องมีความรู้ ความชำนาญ และได้รับการฝึกฝนนานแรมปี เพราะมีเทคนิคมากมาย ในการรักษาเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ไม้ตีที่มีขนาด ผิวสัมผัส วัสดุที่แตกต่างกันไป รวมถึงความหนัก-เบาในการตีก็มีผลกับคลื่นเสียงเช่นเดียวกัน
ในศาสตร์การบำบัด คลื่นเสียงจากขันทิเบต มีคุณสมบัติในการเยียวยารักษาอาการปวดเมื่อยทางร่างกาย ปลายประสาท และที่โดดเด่นที่สุดก็คือ สามารถเหนี่ยวนำคลื่นสมองให้สงบ สบาย ผ่อนคลายลงได้จนบางท่านสามารถเข้าสมาธิได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ ขันทิเบตยังสามารถปรับสมดุลย์ให้กับอารมณ์ได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมีอาการซึมเศร้าหรือคิดฟุ้งซ่านก็ตาม”
- ขันทิเบต กับการบำบัด
สำหรับ "ขันทิเบต" (Tibetan Singing Bow) เป็นศาสตร์หนึ่งของ Sound Healing (คลื่นเสียงบำบัด) ที่นำเอาเสียงมาบำบัดอาการเจ็บป่วยของโรค
ครูบิ๊ก – จิตตินันท์ กล่าวว่า การบำบัดด้วยขันทิเบต ไม่ใช่แค่การเคาะขันให้เกิดเสียงแล้วจบไป แต่เป็นการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างๆ มาทำปฏิกิริยากับร่างกายมนุษย์ เพื่อให้สมองผ่อนคลาย หรืออยู่ในช่วงความถี่ต่ำ และเข้าสู่โหมดการพักผ่อนที่คล้ายกับการหลับลึก
บรรยากาศชั้นเรียนเสียงบำบัดด้วยขันทิเบต
“ขันทิเบตที่นำมาใช้บำบัดจะทำด้วยมือ ซึ่งต่างจากที่วางขายตามร้านทั่วไป เพราะการทำด้วยมือคือการใช้พลังชีวิตของคนผลิต เมื่อผู้บำบัดใช้แรงกายแรงใจตีลงบนขัน เสียงก็จะมีความไพเราะ และเมื่อคนได้ฟัง ก็จะได้รับพลังชีวิตเหล่านั้นไปด้วย ทำให้รู้สึกสดชื่นหรือแฮปปี้ขึ้น”
“เราอยู่ในแวดวงการบรรยาย ก็เห็นคนเข้าสมาธิกันได้ยาก มันคิดวุ่นวายไปหมด ก็คิดว่าการใช้เสียงจะเป็นตัวช่วย ให้ผู้อบรมเข้าสมาธิได้มากขึ้น ฟังแล้วสงบได้จริงๆ จึงเริ่มแสวงหาแล้วมาเจอคลื่นเสียง และก็เจอขันทิเบตที่จะเป็นแหล่งกำเนิด ซึ่งมีลักษณะเสียงทุ้มต่ำ นิ่ง ให้ลักษณะเป็นหยาง ที่ต่างจากขันคริสตัล”
คลื่นเสียงบำบัดจากขันทิเบต เยียวยาร่างกายและจิตใจอย่างไร? ครูบิ๊ก – จิตตินันท์ อธิบายว่า คลื่นเสียงบำบัดจำกขันทิเบตจัดเป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกของ Energy Medicines โดยใช้พลังงานจากคลื่นเสียงและความสั่นสะเทือนจากขันโดยหลักการทำงานนของกระบวนการนี้คือ คลื่นเสียงของขันทิเบตจะเป็นตัวปรับคลื่นสมองให้สงบอยู่ในระดับ Alpha Wave ที่ทำให้จิตใจสงบ รู้ตื่น และ Theta Wave ก่อให้เกิดความปีติสุข ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อพลังงานชีวิต (Life Energy) ในร่างกายและเป็นกาปรับแก้ไขจุดจักระที่ไม่สมดุลของส่งผลให้เกิดพลังกายทิพย์หรือออร่าที่ทำให้ภูมิชีวิตแข็งแรงและมีความสุข
จากการวิจัยของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ สหรัฐอเมริกา พบว่าการบำบัดด้วยคลื่นเสียงนี้สามารถช่วยลดอาการปวดหลัง โรคเครียด ซึมเศร้าจากการประสบเหตุการณ์ร้ายแรง โรคการนอนไม่หลับและโรคอื่นๆ ให้มีอาการดีขึ้นส่งผลให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถลดปริมาณการใช้ยาให้น้อยลงได้
วิธีบำบัดดังกล่าวนี้ ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยการจับไม้วนไปรอบขัน ตามเข็มนาฬิกา พร้อมตั้งจิตให้เป็นสมาธิ คลื่นเสียงที่ดังกังวานออกมา จะทำให้จิตสงบและเข้าถึงสมาธิได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับเวลาในการบำบัดที่เหมาะสมต่อครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 นาที หรือทำร่วมกับการสวดมนต์ 1 บท โดยในทางการแพทย์เราเรียกการบำบัดควบคู่ระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกว่า Complimentary Medicine ซึ่งเป็นการแพทย์แบบเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ผู้สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ BangkokSoundhealing