ทำไม “งานอดิเรก” ถึงดีต่อใจ ในยุคที่ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ
“งานอดิเรก” หรือ “กิจกรรมยามว่าง” สิ่งที่หลายคนมองข้ามและไม่มีเวลาทำ แต่รู้หรือไม่แท้จริงแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิต การสร้างแรงบันดาลใจและการสร้างความภาคภูมิใจให้ตนเอง นอกจากนี้ยังมีทริคสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มหางานอดิเรกทำมาฝากอีกด้วย
การมีงานอดิเรก กิจกรรมทำนอกเวลางานเป็นสิ่งสำคัญต่อทั้งสุขภาพและอาชีพของเรา ทำให้เรามีจุดมุ่งหมายนอกเหนือจากการทำงานและช่วยลดระดับความเครียดของเราจนสามารถอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยความสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ นอกเหนือจากการทำงานนี้สามารถหาความเชื่อมโยงใหม่ ๆ หรือสร้างข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน เป็นตัวเชื่อมกลมกลืนระหว่างชีวิตและการทำงาน
นอกจากนี้ งานวิจัยหลายชิ้นยังแสดงให้เห็นว่า การทำงานอดิเรกนั้นเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของคุณ และทำให้ความเป็นอยู่โดยรวมของคุณดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะของบุคคล จะช่วยเพิ่มความรู้สึกที่ดี ด้วยการกระตุ้นให้สารโดพามีนหลั่ง ทำให้ “อารมณ์ดี” ตามไปด้วย
ขณะที่ งานวิจัยอื่น ๆ พบว่า เวลาที่ใช้ในกิจกรรมเกี่ยวกับงานอดิเรกนั้นสัมพันธ์กับความดันโลหิต ดัชนีมวลกาย และรอบเอวที่ลดลง นอกจากนี้ยังสามารถทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าน้อยลง และเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการทำงานทางร่างกายที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจรู้สึกว่า ตนเองไม่มีเวลาที่จะทำสิ่งที่ตนสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองของประเทศไทยที่กว่าจะทำงานและเดินทางกลับบ้านก็ใช้เวลาแทบจะหมดวันแล้ว ทำให้งานอดิเรกมักถูกผลักไสไปอยู่ลำดับท้าย ๆ ของสิ่งที่ต้องทำ และกลายเป็นสิ่งที่จะทำเมื่อ “มีเวลา” เท่านั้น
ดังนั้น งานอดิเรกที่คนส่วนใหญ่มักทำ รวมถึงผู้คนในหลายประเทศ เช่น สหรัฐ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร คือ การนั่งดูโทรทัศน์ในยามค่ำ หลังเลิกงานที่พอจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าในแต่ละวันไปได้บ้าง แต่คงจะดีไม่น้อยหากคุณเริ่มทำงานอดิเรกเป็นกิจวัตร
กรุงเทพธุรกิจ รวบรวมเคล็ดสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มต้นทำงานอดิเรก แล้วคุณจะพบว่าการเริ่มต้นทำสิ่งที่รักนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย
- มองหากิจกรรมที่อยากทำ
ถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณอยากทำคืออะไร ซึ่งมีวิธีสำรวจความต้องการที่แท้จริงของคุณผ่านการคิดถึงสิ่งที่คุณอยากทำในวัยเด็ก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ หรืออยากลองกลับไปทำ หรือบางทีคุณอาจต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ เช่น การเล่นเครื่องดนตรี การเรียนรู้ภาษาที่ 3 การอบขนม การทำเครื่องปั้นดินเผา
ทักษะเหล่านี้จำเป็นต้องเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะทาง ซึ่งคุณอาจจะทดลองเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ผ่านการชมวิดีโอตัวอย่างการเรียนการสอนของสถาบันที่ฝึกสอนแต่ละแห่งจากเว็บไซต์ก่อน หากรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ต้องการค่อยลงคอร์สเรียนตัวเต็ม หรือเวิร์กช็อปต่าง ๆ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถพิจารณาจากสิ่งที่คุณชอบทำในเวลาว่าง เพราะการสร้างงานอดิเรกจากกิจกรรมที่คุณชอบหรือสิ่งที่ทำอยู่แล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าไปเริ่มต้นใหม่ เช่น หากคุณชื่นชอบการช้อปปิ้งเสื้อผ้า อาจจะหันมาเย็บเสื้อผ้า หรือนำเสื้อผ้าที่มีอยู่มาตกแต่ง ปรับปรุง ให้กลายเป็นชุดใหม่ก็ยังได้
รวมไปถึงการเข้าร่วมกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน ที่มีผู้ใช้มาแบ่งปันประสบการณ์และแชร์กิจกรรมที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานอดิเรกนั้น ๆ ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกอยากเข้าร่วมได้ง่ายยิ่งขึ้น
- จัดการเวลาให้สมดุล
เหตุผลหลักประการหนึ่งที่ผู้คน “เลิกทำงานอดิเรก” คือ พวกเขารู้สึกว่า “ไม่มีเวลา” แต่ในความเป็นจริง มีแนวโน้มว่าคุณมีเวลามากกว่าที่คุณคิด ตามรายงานของ Nielsen Holdings บริษัทวัดข้อมูลทางการตลาดและพฤติกรรมผู้ชม พบว่า ผู้คนในสหรัฐใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง 39 นาที ต่อวันบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ วิดีโอเกม วิทยุ แท็บเล็ต และโทรทัศน์ในแต่ละวันของเรา ซึ่งมากกว่าเวลานอนเสียอีก
แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่ที่อยู่หน้าจอนั้นอาจจะเป็นเวลาในที่ทำงาน แต่ที่จริงแล้ว มีเวลาแฝงที่คุณเสียไปกับการเล่นโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok และ Reels ใน Instagram ไปหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว
จากข้อมูลของ We Are Social ที่สรุปสถิติการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทั่วโลก พบว่า ในปี 2565 คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนมากที่สุด ถึง 96.2% นั่นแสดงว่าคนไทยใช้เวลาไปกับการดูคอนเทนต์ต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟน ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาระหว่างการเดินทาง หรือเวลาว่างก่อนนอน
คุณสามารถนำเวลาตรงนี้ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้สมาร์ทโฟนเหมือนกัน แต่ช่วยให้ผ่อนคลายได้มากกว่า เช่น ระบายสี อ่านหนังสือผ่าน E-Book หรือเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ แม้กระทั่งการถักนิตติ้ง หรืออ่านหนังสือแบบเล่ม ระหว่างการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็เป็นการฆ่าเวลาที่ได้ประโยชน์กับตัวเองด้วยเช่นกัน
- เปลี่ยนมุมมอง
ในโลกปัจจุบัน มนุษย์หมกมุ่นอยู่กับวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความสำเร็จ ทำให้คนเรายากที่จะสลัดจากแรงกดดันในแต่ละวัน ลองปล่อยวางสิ่งเหล่านั้นและหันมาใช้เวลากับงานอดิเรกที่คุณเลือก เพียงใช้เวลาวันละ 15-30 นาที สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายและเติมเต็มพลังให้คุณได้อย่างแท้จริง
แน่นอนว่า งานอดิเรกส่วนใหญ่อาจจะไม่สร้างรายได้ คุณอาจจะสงสัยว่าจะเสียเวลาทำไปทำไม โดยเฉพาะในยุคที่บางคนบอกว่าต้องมีรายได้หลายทาง ทั้งจากอาชีพหลัก อาชีพรอง อาชีพเสริม แต่กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้คุณได้สัมผัสโลกใบใหม่ที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน ทั้งจากเพื่อนร่วมทำกิจกรรม สังคมแบบใหม่ สถานที่ใหม่ ๆ และสร้างความสุข สร้างแรงบันดาลใจที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับงานของคุณ
นอกจากนั้น งานอดิเรกยังพาคุณหลีกหนีจากความจำเจ ความน่าเบื่อหน่ายจากกิจกรรมที่ทำอยู่ในชีวิตประจำวันที่ซ้ำไปซ้ำมา ตลอดจนสร้างความมั่นใจและเพิ่มความคุณค่าในตนเองได้อีกด้วย เพราะงานอดิเรกจะทำให้คุณค้นพบความหลงใหลและทักษะใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ จนคุณอาจแปลกใจเมื่อคุณทำมันออกมาได้ดี ท้ายที่สุดจะนำความภาคภูมิใจมาสู่ตนเองด้วย
ที่มา: Challenge, Harvard Business Review, Inpathy Bulletin, Mindeedge,