ไหว้เจ้าตรุษจีน 2566 ขอพรเทพ "ไฉ่ซิงเอี้ย" "ไท้ส่วยเอี้ย" เสริมทรัพย์ร่ำรวย
ลูกหลานชาวจีนต้องรู้! "ไหว้เจ้าตรุษจีน 2566" ต้องไหว้ขอพรกับเทพเจ้าจีน 2 องค์ที่สำคัญ เพื่อขอพรด้านการเงิน การงาน และดวงชะตาชีวิตอย่าง เทพเจ้า "ไฉ่ซิงเอี้ย" และเทพเจ้า "ไท้ส่วยเอี้ย" แล้วทั้งสององค์นี้ต่างกันอย่างไร?
เทศกาล “ตรุษจีน 2566” กำลังมาถึงในช่วงสุดสัปดาห์นี้แล้ว สิ่งสำคัญที่ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนยังคงปฏิบัติตามประเพณีกันเสมอ ก็คือการ “ไหว้เจ้าตรุษจีน”
โดยปกติก็จะมีทั้งการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้เทพเจ้า ซึ่งลูกหลานคนเชื้อสายจีนรุ่นใหม่บางคน อาจจะสับสนเกี่ยวกับการไหว้เทพเจ้าอยู่บ้าง เช่น ต้องไหว้เทพองค์ไหนบ้าง? และไหว้ยังไงถึงจะช่วยเสริมเฮงรับทรัพย์และแคล้วคลาดปลอดภัย? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าจีนองค์สำคัญในเทศกาลตรุษจีนมาฝากกัน
- ธรรมเนียม “ไหว้เจ้าตรุษจีน” มีต้นกำเนิดอย่างไร ?
“การไหว้เจ้า” เป็นประเพณีที่ชาวจีนประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมากว่า 3,000 ปี (ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว) นิยมทำกันในวันตรุษจีนเพื่อให้เกิดความสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุขความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเองและครอบครัว
โดยชาวจีนมีความเชื่อกันว่า การใช้ชีวิตในแต่ละปีมักจะพบเจอสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดี หรือเรื่องอัปมงคล มากระทบกระทั่งหรือรบกวนการดำเนินชีวิต จนทำให้เกิดอุปสรรคต่างๆ เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย การงานติดขัดไม่ราบรื่น เงินทองไม่คล่อง ค้าขายลำบากมีอุปสรรค บุตรบริวารก่อเรื่องวุ่นวาย หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผิดปกติ
พวกเขาตระหนักว่าสิ่งเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับ "ดวงชะตา" ของแต่ละคน จึงมีการขวนขวายหาที่พึ่ง และก่อกำเนิดประเพณีการไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไหว้บรรพบุรุษ ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนขึ้นมานั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- “ไฉ่ซิงเอี้ย ไท้ส่วยเอี้ย” เทพเจ้าสำคัญในวัน “ตรุษจีน”
หากเจาะจงเฉพาะการไหว้เจ้า จะพบว่าเทพเจ้าองค์สำคัญของชาวจีนที่จะต้องไหว้ช่วงปีใหม่หรือเทศกาลตรุษจีนก็คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เพื่อขอพรเรื่องโชคลาภ ความมั่งมี ความมั่งคั่งในการค้ากขาย
ส่วนเทพเจ้าอีกหนึ่งองค์ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “ไท้ส่วยเอี้ย” หรือ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ซึ่งในทางโหราศาสตร์จีนนั้น ชาวจีนมีความผูกพันกับเรื่องนักษัตรปีเกิดหรือดวงชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม การไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับเทพเจ้าองค์นี้ไม่แพ้กัน
- "ไฉ่ซิงเอี้ย" เป็นใคร? ทำไมต้องไหว้ช่วง "ตรุษจีน"
สำหรับเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง และโชคลาภด้านเงินทอง มีความสำคัญมากที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่านของแต่ละปี โดยท่านจะลงมาจากสวรรค์เพียงวันเดียวเท่านั้นคือ “วันตรุษจีน” ชาวจีนจึงนิยมกราบไหว้ขอพรจากท่านในวันตรุษจีนเป็นกาลเฉพาะ เช่น ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งโชคลาภเงินทอง มีลาภลอย ตลอดจนเสริมดวงให้โชคดีด้วย
อีกทั้ง มีข้อมูลจากหนังสือ "หลากเรื่องวัฒนธรรมผีสางเทวดาของจีน" อธิบายว่า "ไฉ่ซิงเอี้ย" มีที่มาจากเทพแห่งทางเดิน ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เทพสำคัญของจีนโบราณ เดิมทีคนเซ่นไหว้เทพองค์นี้เพื่อขอให้เดินทางปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เดินทางมาก เช่น พ่อค้าเร่ ศิลปินเร่ ซึ่งเมื่อเดินทางก็จะมีรายได้ตามมา ดังนั้นจุดประสงค์ในการเซ่นไหว้จึงเพิ่มเรื่องขอให้มีรายได้ดีด้วย นานวันเข้ากลายเป็นจุดประสงค์หลัก จากเทพแห่งการเดินทาง ก็ค่อยๆ กลายเป็นเทพแห่งทรัพย์สินเงินทอง
ส่วนวิธีการไหว้ในยุคปัจจุบัน คือ เมื่อเริ่มเข้าสู่วันตรุษจีน ชาวจีนจะตั้งโต๊ะบูชากราบไหว้ “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย” ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันก่อนตรุษจีน (21 ม.ค. 66) ไปจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันตรุษจีน (22 ม.ค. 66) โดยต้องหันหน้าไปทางทิศที่เชื่อว่าไฉ่ซิงเอี้ยจะเสด็จลงมา ซึ่งแต่ละปีจะแตกต่างกันไป สำหรับปี 2566 “เทพไฉ่ซิงเอี้ย” จะเสด็จลงมาทางทิศตะวันออก
การตั้งโต๊ะไหว้ “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย” ตามแบบอย่างที่บรรพบุรุษปฏิบัติสืบต่อกันมา ให้เริ่มจากการเตรียมของไหว้ ได้แก่ รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย, แจกันดอกไม้สด 1 คู่, เทียนแดง 1 คู่, กระถางธูป พร้อมธูป 3 5 9 หรือ 12 ดอกก็ได้, น้ำชา 5 ถ้วย, ขนมอี้ 5 ถ้วย, อาหารเจ 5 ถ้วย, ผลไม้มงคล 5 อย่าง และ กระดาษเงินกระดาษทอง
ส่วนบทสวดมนต์สำหรับไหว้บูชา “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย” ให้กล่าวคำบูชา ดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ” (3 จบ) จากนั้นสวดมนต์ว่า “โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา” (สวด 3 จบ 5 จบ 9 จบ หรือ 12 จบก็ได้)
- ชวนรู้จัก “ไท้ส่วยเอี้ย” ประจำปี 2566
เทพเจ้าอีกหนึ่งองค์ที่ชาวจีนนิยมไหว้วันตรุษจีน นั่นคือ “เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย” หรือ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา โดยมีทั้งหมด 60 องค์ ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละปี สำหรับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยประจำปี 2564 นี้ เป็นองค์ที่ 40 มีพระนามว่า “ขุนพลผ่วยซี้ไต่เจียงกุง” เทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีกุ่ยเบ้า (ปีกระต่าย) ธาตุน้ำหหยิน (2506, 2566)
ประวัติของ “ขุนพลผ่วยซี้ไต่เจียงกุง” เล่าต่อๆ กันมาว่า พระองค์มีอีกนามหนึ่งว่า “ผี่สี่” เป็นชาวเมือง อิ๋วหยาง ในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ค.ศ. 386-534) ซึ่งปัจจุบันคาดว่าคือพื้นที่ในอำเภอจี้เซียน เมืองเทียนสิน ว่ากันว่าบิดาของท่านเป็นนายทหารโด่งดัง มีนามว่า “ผี่เบ้าจื่อ” และท่านก็เป็นผู้ปราบปราบพวกถู่ฟาน (ทิเบตสมัยโบราณ) จนสมัยนั้น รัฐหลู่ ที่เป็นเมืองชายแดนจนสงบราบคาบ
นอกจากนี้ ขุนพลท่านนี้ยังโจมตีเมืองเจี๋ย, เมืองลู่ จนยอมศิโรราบ และสามารถสังหารแม่ทัพฝ่ายตรงข้าม ที่ชื่อ “หยางเหวินตู้” ที่มีชื่อเสียงลงได้ และท่านได้มีเกียรติประวัติในการชิงชัยข้าศึกครั้งแล้วครั้งเล่าอีกนับครั้งไม่ถ้วน
แล้วทำไมต้องไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย? คำตอบคือ.. ชาวจีนให้ความสำคัญเรื่องโหราศาสตร์หรือดวงที่ผูกพันกับนักษัตรปีเกิด หรือดวงชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ชาวจีนจึงนิยมไหว้เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา เพื่อให้คุ้มครองชีวิตให้ปราศจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง นิยมไหว้กันในช่วงเปลี่ยนผ่านปีของแต่ละปี เพราะเทพในการดูแลดวงชะตาจะเปลี่ยนเป็นองค์ใหม่นั่นเอง
โดยลักษณะการไหว้เรียกว่า “ไหว้แก้ชง” หรือ “การฝากดวงชะตาไว้กับองค์ไท้ส่วย” โดยเชื่อกันว่าเมื่อการไหว้แก้ชงแล้ว ใครที่ดวงชะตาชีวิตดีอยู่แล้วก็จะช่วยส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ถ้าชะตาชีวิตไม่ดีก็จะช่วยให้หนักเป็นเบา คุ้มครองป้องกันภัยทั้งปวง ให้ชีวิตราบรื่นผ่านพ้นปีนี้ไปด้วยดี
สำหรับปี 2566 ผู้ที่ควรไหว้ไท้ส่วยเอี้ย ได้แก่ คนที่เกิดปีชงกับปีกระต่าย นั่นคือ ปีระกา ส่วนปีร่วมชงในปี 2566 ได้แก่ ปีเถาะ ปีมะเมีย ปีชวด
โดยสามารถไปไหว้แก้ชงได้ตามวัดจีนต่างๆ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรไปวัดที่มีเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยประจำปี 2566 ประดิษฐานอยู่ ก็จะทำให้การไหว้แก้ชงสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การ “ไหว้แก้ชง” เป็นความเชื่อส่วนบุคคล สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธลัทธิเต๋าและขงจื๊อเท่านั้น ไม่จำเป็นว่าต้องไหว้ทุกคน ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลเหล่านี้ด้วย
--------------------------------------
อ้างอิง : ฮวงจุ้ยกับชีวิต, sages9, silpa-mag, chineseGods