"อนันดา" แจงดราม่าค่าตัว ซื้อคอนโด-รถ บอกแค่มุขโจ๊ก ไม่ใช่เรื่องจริง
"อนันดา" ตอบดราม่า ค่าตัว เล่นหนัง "ทิดน้อย" ซื้อคอนโดแถวทองหล่อได้ 1 หลัง พร้อมรถ บอกเป็นการแซว ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าจริงชีวิตนี้เล่นหนัง 30-40 เรื่อง คงได้คอนโดทั่วกรุงเทพฯแล้ว เข้าใจถูกเปรียบเทียบกับคนเบื้องหลัง เพราะมันละเอียดอ่อน
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก M39MovieClub ลงคอนเทนต์โปรโมตภาพยนตร์เรื่อง "ทิดน้อย" โดยโพสต์ภาพและข้อความว่า ค่าตัวอั้ม สร้างหนังได้ 1 เรื่อง ค่าตัว อนันดา ซื้อคอนโดแถวทองหล่อได้ 1 หลังพร้อมรถ จนมีดราม่า ถูกเปรียบเทียบกับค่าตัวของคนเบื้องหลัง ร้อนจนเพจต้องออกมาขอโทษในประเด็นดังกล่าว
ล่าสุด พระเอกหนุ่ม "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" ได้ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ ที่งานแถลงข่าว "ขุนพันธ์ 3" ว่า "ดราม่าไม่เห็นนะ หมายถึงโมเดลคอนโด โมเดลรถคือมันไม่ได้อะไรอย่างนั้นหรอก ถ้าจำได้เป็นเรื่องที่พี่เขาแซวตั้งแต่เราบวงสรวง มันโจ๊ก ไอเดียเขาคือพูดให้มันโอเวอร์แหละ มันไม่ใช่เรื่องจริง ถ้ามันเป็นอย่างงั้นจริงๆ ก็ดีสิครับ ผมเล่นหนังมา 30-40 เรื่อง คงมีคอนโดอยู่ทั่วกรุงเทพฯแล้วล่ะ"
เกิดการเปรียบเทียบกับคนเบื้องหลังที่เขาอาจจะไม่ได้ขนาดนี้?
"เราคงต้องจับเข่าคุยกันอีกนาน เพราะผมเป็นโปรดิวเซอร์อยู่แล้ว แล้วผมก็รู้เรื่องค่าตอบแทน ความไม่แฟร์ของงานในวงการนี้ มันมีหลายเลเวล ถ้าสมมติเรามามองกันแบบพื้นๆ ฉาบฉวย เป็นข่าวดราม่าเฉยๆ มันไม่เกิดประโยชน์
เพราะจริงๆ ถ้าเราจะมาแก้ไขปัญหาตรงนี้ มันเป็นนโยบายมากกว่า ต่างประเทศเขามีองค์กรที่ป้องกันคนในวงการแล้วบ้านเรามีที่ไหน จริงๆ ถ้าจะคอมเพลนก็ช่วยผลักดันให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วมันไม่ใช่แค่วงการหนังอย่างเดียว มันหลายวงการเลย ทั้งอุตสาหกรรม ถ้าจะพูดในมุมของนักแสดง มันก็พูดปกคลุมทั้งวงการไม่ได้อยู่แล้ว นักแสดงที่ได้เยอะก็ไม่ใช่ทุกคน มันเฉพาะบางคน"
เรื่องโจ๊กที่เราพูดกันวันนั้น มาโปรโมทภาพยนตร์มันดูไม่ดี?
"ผมว่าในมุมของผม มันละเอียดอ่อนเกินไป มันคือโจ๊ก ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าบางทีเราไปจับคำพูดจากคอมเมนต์ที่มันออกไปทางย้อนกลับมาแรง แล้วเราก็ไปจีบตรงนั้นมาตีความว่านี่คือเสียงของส่วนใหญ่ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ ส่วนใหญ่ทุกคนแยกแยะได้ และมองเห็นได้อย่างชัดอยู่แล้วว่านี่มันคือโจ๊ก มันคนละอย่าง ยังไงมันก็ยังเป็นโจ๊ก แค่รู้สึกว่าไม่ควรไปซีเรียสกับตัวเองจนเกินไป ถ้าแค่นี้คือดราม่าก็อาจจะเกินไป มันมีอะไรอีกเยอะที่จะคอมเพลนกันได้"
เราซีเรียสจากการวิจารณ์?
"ไม่ซีเรียส เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ลืม มันไม่ได้มีอิมแพ็กอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าสมมติอยากจะคุยกันในเรื่องของความแฟร์ในวงการ อันนี้เรามานั่งจับเข่าคุยกันดีกว่า ผมยินดีที่จะคุย ผมเคยบ่นมานานแสนนานแล้วล่ะ ว่าทำไมเราไม่มีองค์กรอะไรมาเซฟนักแสดง มันมีสิทธิอีกเยอะที่ผมอยากได้เหมือนกันนะ อย่างถ้าผมทำงานอยู่ในองค์กรต่างประเทศ ผมรีไทน์ไปได้ตั้งนานแล้ว เพราะหนังทุกเรื่องที่ผมได้แสดงมาเนี่ย ผมได้แบล็คเอ็นทุกครั้งที่เขาเอาไปฉายใหม่ สแตนดาร์ดก็ไม่มีในประเทศไทย"
ถ้าจะให้มันเท่าเทียมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม?
"ถ้าคนจะมาเปิดประเด็นนี้ผมยินดีมาก อยากพูดมาก มันเป็นส่วนที่เราแคร์ แต่ว่าในส่วนที่เราคุยกันในงานก็แค่โจ๊กอย่างที่บอกคุยกันแบบนี้มันอาจไม่ได้อะไรอยู่แล้ว คือมันอาจจะเริ่มมาจากวัฒนธรรมบ้านเรา เช่น บางคนให้พื้นที่ดารามาก่อนนักแสดง อย่างหลายๆ คนที่เข้ามาในวงการ เขาถูกปั้นมา เขาไม่ได้ถูกหยิบมาจากโรงเรียน พอเขาถูกปั้นจากทางค่าย เขาจะมีปากเสียงได้ยังไง เขาก็ต้องอยู่ในค่ายแล้วพออยู่จุดนั้นเขาก็กลายเป็นโปรดักซ์ของค่าย
ถ้าเป็นไปได้ มันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ถ้าเป็นเรื่องยูเนียนทั้งคนในวงการและอุตสาหกรรม ทุกเลเวลเลย ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟ ช่างภาพ แต่ครั้งนี้ก็ต้องได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ใหญ่ในวงการ และผม อยากให้ผมออกตัวตรงนี้ผมยินดีอยู่แล้ว รวมทั้งภาครัฐก็ต้องเข้ามา เพราะเราต้องยอมรับหลายอุตสาหกรรมในบ้านเรา ก็ถ้าเราแคร์กันจริงๆ อะไรที่อยู่ในใจก็อยากให้มันตาย ถ้ามันสามารถขยายต่อยอดเป็นการพูดคุยแบบจริงจัง ผมก็เป็นตัวแทนให้ได้อยู่แล้วยินดีครับ"