จาก "K9" เม็กซิโกเสียชีวิต สู่ "ซาฮาร่า เซียร่า" สุนัขกู้ภัยไทย เสี่ยงแค่ไหน?
กู้ภัยนานาประเทศยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุ "แผ่นดินไหว" ตุรกี-ซีเรีย อย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกำลังสำคัญก็คือ "สุนัข K9" ล่าสุดมีข่าวเศร้าเมื่อ K9 จากเม็กซิโกเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ชวนส่องภารกิจ K9 ไทย ป้องกันความเสี่ยงอย่างไร
“สุนัข K9” ถือเป็นกำลังสนับสนุนสำคัญในการปฏิบัติภารกิจการตรวจค้นหาสิ่งต่างๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น การค้นหายาเสพติด, วัตถุระเบิด, สินค้าต้องห้าม รวมไปถึงภารกิจ “ค้นหาผู้รอดชีวิต” ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่ ตรุกี-ซีเรีย ในขณะนี้ด้วย
แต่ในขณะที่ทีมกู้ภัยทุกภาคส่วนกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย ก็มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้น เมื่อมีรายงาน (ณ 13 ก.พ. 66) จากเพจ “Environmental and Social Foundation (ESF)” ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ระบุว่า
“สดุดีวีรกรรม K9 Proteo ผู้กล้าจากประเทศเม็กซิโก รัฐบาลเม็กซิโกไว้อาลัยเมื่อเช้าวันเสาร์ (11 ก.พ.) ที่ผ่านมา ถึงการเสียชีวิตของ Proteo ซึ่งเป็นหนึ่งในสุนัข 10 ตัวที่ประเทศเม็กซิโกส่งไปยังตุรกี เพื่อช่วยในการค้นหาและช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเมืองคาห์รามานมารัส ศูนย์กลางแผ่นดินไหวตุรกี K9 USAR Thailand ขอไว้อาลัยกับการจากไปของผู้กล้าในครั้งนี้ พวกเราทุกคนจะสานต่อปณิธานอันแกร่งกล้าของ K9 Proteo และจะจดจำเรื่องราวความดีงามตลอดการช่วยชีวิตมนุษย์ของ K9 Proteo ตลอดไป”
K9 Proteo จากเม็กซิโก เสียชีวิตในหน้าที่ ภาพจาก K9 USAR Thailand
นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับสุนัข K9 จากเกาหลี ชื่อ “โทแบกี” อายุ 6 ปี และ K9 จากสหราชอาณาจักร ชื่อ “โคลิน” ได้ออกปฏิบัติการไปช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวตุรกี แต่ได้รับบาดเจ็บจากของมีคมที่บริเวณอุ้งเท้า หลังได้รับการรักษาแผลและพักฟื้นแล้ว น้องๆ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจต่อไป
จากหลายๆ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้คนในสื่อสังคมโซเชียลต่างเข้าไปแสดงความเสียใจกับกรณีของ K9 Proteo กันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังส่งกำลังใจไปให้น้อง K9 ตัวอื่นๆ ที่บาดเจ็บ รวมถึงแสดงความเป็นห่วงไปยังเจ้าสี่ขา K9 ของไทยอย่าง “ซาฮาร่า-เซียร่า” ด้วย เนื่องจากกังวลว่าน้องจะได้รับบาดเจ็บเหมือนสุนัขกู้ภัยตัวอื่นที่ประสบเหตุ
ภาพจาก : stitch_pololo, Lincs Fire&Rescue
ล่าสุด.. ผู้เชี่ยวชาญสุนัขกู้ภัยและผู้ควบคุมน้อง “ซาฮาร่า-เซียร่า” ออกมาไขข้อสงสัยและคลายความกังวลให้แก่ผู้ติดตามข่าวชาวไทยที่เป็นห่วงน้องๆ แล้ว โดยระบุว่า
จากกรณีที่หลายคนมีความเป็นห่วง K9 ของไทยในภารกิจช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกรณีของ K9 จากหลายประเทศได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติงาน ทาง ESF จึงได้ ขอคำอธิบายจาก Mrs. Redmond Sue (ผู้ควบคุมซาฮาร่า) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการฝึกสุนัขและการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ มาชี้แจงดังนี้
1. ความปลอดภัยต้องมาอันดับแรก!
การดูเเลความปลอดภัยเเละผลประโยชน์ของ K9 มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของทีมเรา ขอบคุณทุกท่านในความห่วงใยที่มีต่อความปลอดภัยของเซียร่าและซาฮาร่า ในการปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยที่สูญหายในครั้งนี้
ภาพจาก : ESF.thailand
ภาพจาก : ESF.thailand
2. การดูเเลป้องกันอุ้งเท้าให้กับ "เซียร่า-ซาฮาร่า"
K9 ทั้งสองตัวมี “รองเท้าบูท” พร้อมใส่ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เเละมีคู่สำรองเผื่อไว้ในเป้ของผู้ควบคุม ซึ่งการจะสวมใส่รองเท้าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของเเต่ละพื้นที่ หากพื้นที่ที่ไปปฏิบัติงานมีผิวลื่นจะเหมาะกับการไม่สวมรองเท้ามากกว่า เพื่อที่อุ้งเท้าจะเกาะพื้นได้ดีกว่า เเต่ถ้าพื้นที่ไหนมีเศษเเก้วหรือสิ่งมีคม ก็จะให้ K9 สวมรองเท้าบูทตามดุลพินิจของผู้ควบคุมสุนัขโดยทันที
3. ประเมินสถานการณ์ก่อนปฏิบัติหน้าที่เสมอ
หนึ่งในตัวอย่างภารกิจของน้องๆ “ซาฮาร่า-เซียร่า” ที่ต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อนก็คือ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากที่ K9 USAR Thailand เคลื่อนกำลังไปปฏิบัติงานตามการร้องขอ แต่เมื่อผู้ควบคุมประเมินแล้วเห็นว่า ในพื้นที่นั้นกำลังดำเนินการรื้นถอนอาคารและมีความเสี่ยงสูง หัวหน้าทีม K9 USAR Thailand จึงมีคำสั่งถอนกำลังกลับที่ตั้งในช่วงเย็นของวันดังกล่าว ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศตุรกี
ในลักษณะเดียวกัน รู้หรือไม่? ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีตัวอย่างของสุนัขกู้ภัย K9 ที่ชื่อ "แบร์" มีการสวมใส่ "ถุงเท้าป้องกันความร้อน" ขณะออกปฏิบัติภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือสัตว์ป่าจากเหตุ "ไฟไหม้ป่า" ครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
โดยในครั้งนั้น "เจ้าแบร์" ได้ออกปฏิบัติภารกิจการค้นหาและช่วยชีวิตโคอาลาที่ติดอยู่ในไฟป่าที่กำลังลุกลามอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นภารกิจลุยไฟป่าครั้งแรกของเจ้าแบร์เลยทีเดียว
แบร์สวมถุงเท้ากันความร้อนทุกครั้งขณะทำภารกิจในพื้นที่ไฟป่า
ในรายงานข่าวอธิบายด้วยว่า เจ้าหน้าที่จะให้เจ้าแบร์สวมถุงเท้าป้องกันความร้อนที่อุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างทุกครั้งก่อนลงพื้นที่ทำภารกิจ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาจนเกรียม วิธีการค้นหาสิ่งมีชีวิตคือ ดมกลิ่นจากอุจจาระและขนของสัตว์ เมื่อใดก็ตามที่แบร์นั่งนิ่งระหว่างการค้นหา ผู้ดูแลจะรู้ทันทีว่ามีสัตว์อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น
นอกจากนี้ทางองค์กร ESF ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “สุนัขกู้ภัย” ทั้งสองตัว รวมถึงบุคลากรที่เข้าร่วมปฎิบัติการกู้ภัยเหยื่อ “แผ่นดินไหวตุรี-ซีเรีย” ครั้งนี้ เอาไว้ดังนี้
ภาพจาก : ESF.thailand
1. หัวหน้าทีมนำโดย นายสุทธิเกียรติ โสภณิก ผู้เป็นประธานมูลนิธิฯ เพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และเป็นผู้เชี่ยวชาญสุนัขกู้ภัย
2. ผู้ควบคุมสุนัขสองท่าน คือ Mrs.Redmond Sue และ Mr.Redmond Andy โดยทั้งสองท่านสังกัดมูลนิธิฯ มาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปีในประเทศไทย โดยบุคลากรทั้งสามท่านเป็นเจ้าหน้าที่ของ USAR Thailand ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
3. สุนัขที่ร่วมปฏิบัติการทั้งสองตัว สังกัดอยู่ในองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ หรือ K9 Thailand Rescue Dog Association ภายใต้มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ชื่อ Sahara อายุ 5 ปี และ Sierra อายุ7 ปี โดยสุนัขทั้ง 2 ตัวปฏิบัติงานในประเทศไทยมาตั้งแต่ได้รับการฝึกจนถึงปัจจุบัน
เอาเป็นว่า ผู้ที่ติดตามข่าวสถานการณ์ “แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย” ครั้งนี้ น่าจะคลายกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ “ซาฮาร่า-เซียร่า” ไปได้บ้างแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมน้องๆ K9 ของไทย ทำหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยให้น้องๆ ได้อย่างดีที่สุด
-----------------------------------------
อ้างอิง : ESF.thailand, K9 USAR Thailand