'เจน X' ไม่พร้อมเกษียณ เงินเก็บไม่มี ค่าใช้จ่ายรุมเร้า อีกส่วนขอทำต่อ เพราะอยากก้าวหน้า

'เจน X' ไม่พร้อมเกษียณ เงินเก็บไม่มี ค่าใช้จ่ายรุมเร้า อีกส่วนขอทำต่อ เพราะอยากก้าวหน้า

ผลสำรวจชี้ ชาว “เจน X” ยังไม่พร้อมเกษียณ จำเป็นต้องทำงานต่อไปเรื่อย ๆ เพราะค่าใช้จ่ายรุมเร้า ไม่มีเงินเก็บ ขณะที่อีกกลุ่มยังอยากทำงานต่อเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายทางอาชีพที่ตั้งไว้

แม้ว่าคนเจน X (กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1965-1980) หลายคนจะใกล้สู่วัยเกษียณเข้ามาเต็มที อันที่จริงวัยนี้ควรต้องเริ่มวางแผนการเงินหลังเกษียณ เตรียมส่งต่องานให้คนอื่นในทีม หรือมองหากิจกรรมทำในช่วงที่ว่างงาน แต่หลายคนไม่เป็นเช่นนั้น ยังคง “ต้องทำงาน” อย่างต่อเนื่อง 

จากผลสำรวจของ NerdWallet บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล รวมกับ The Harris Poll การวิจัยทางการตลาด โดยทำการสำรวจความเห็นชาวอเมริกันวัยทำงานมากกว่า 2,000 ในประเด็นการวางแผนเกษียณ ซึ่งเกินกว่าครึ่ง (58%) ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาวางแผนเกษียณในช่วงอายุมากกว่า 60 ปี 

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาชาวอเมริกันราว 30% ได้วางแผนเปลี่ยนช่วงเวลาเกษียณอายุใหม่ โดย 16% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าจะเกษียณอายุช้าลงกว่าแผนเดิมที่วางไว้ ส่วน 11% กล่าวว่า พวกเขาเกษียณอายุเร็วขึ้น ขณะที่ ชาวอเมริกัน 2% ไม่มีแผนที่จะเกษียณเลย

เมื่อถามถึงเหตุผลของคนที่ไม่คิดจะเกษียณเลย ก็สามารถแยกคำตอบหลัก ๆ ได้เป็น 2 เหตุผลใหญ่ คือ 

  • ค่าใช้จ่ายรุมเร้า

เหตุผลหลักที่ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าไม่สามารถเกษียณได้เป็นเพราะพวกเขามี “ภาระ” ที่ต้องแบก ทำให้ไม่สามารถทิ้งรายได้ประจำและการงานที่มั่นคงได้ โดย 31% ระบุว่าพวกเขาไม่มีเงินเก็บพอสำหรับชีวิตหลังเกษียณ ส่วนอีก 18% บอกว่า เป็นเพราะพวกเขาต้องสนับสนุนทางการเงินแก่สมาชิกในครอบครัว ขณะที่ 13% ระบุว่าพวกเขายังไม่ได้เริ่มเก็บเงินสำหรับเกษียณเลยด้วยซ้ำ

ไมเคิล เอส นอร์ธ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า เหตุผลหนึ่งที่คนเจน X หลายคนลังเลที่จะลาออกจากงาน เป็นเพราะภาระผูกพันทางการเงินและช่วงชีวิตปัจจุบันของพวกเขาไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น

นอร์ธกล่าวว่า วัยกลางคนเป็นวัยที่มีความกดดันมากขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องหารายได้เพื่อผ่อนบ้านผ่อนรถ พร้อมต้องเก็บหอมรอมริบและลงทุนทางการเงินเพื่อไว้ใช้ในวัยเกษียณด้วย นอกจากนี้ชาวเจน X ส่วนใหญ่เป็นคนหาเลี้ยงพ่อแม่และลูกของพวกเขา หรือที่เรียกว่า “เจนแซนด์วิช” จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเจนนี้จะมีหนี้สินมากที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมที่จะเสียงานประจำที่มีอยู่ไป แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการเหยียดอายุในที่ทำงานก็ตาม

ยิ่งในปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย ยิ่งทำให้คนเจน X ต้องเกาะตำแหน่งงานไว้ให้แน่นที่สุด เพราะพวกเขาเคยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ดอตคอม (Dot-com Bubble) ในยุค 90 และ วิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” ในปี 2008 ทำให้พวกเขารู้ว่างานประจำมีความสำคัญมากเพียงใดในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว 

ในตอนนี้ชาวเจน X หลายคนกำลังตกที่นั่งลำบาก แม้ว่าจะมีตำแหน่งงานที่สูง แต่ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถเป็นเกราะป้องกันให้พวกเขาไม่ต้องตกงานเพราะพวกเขาอาจจะมีตำแหน่งงานซ้ำซ้อน หรือตำแหน่งงานชื่อแปลก ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการปลดพนักงานจำนวนมากทั่วโลก 

หนำซ้ำ ด้วยตำแหน่งระดับสูงของเหล่าเจน X ยังอาจย้อนกลับมาเป็นจุดอ่อนให้ตัวเอง เพราะเงินเดือนที่สูงลิ่วอาจทำให้บริษัทเลิกจ้าง และหันไปจ้างเด็กรุ่นใหม่ที่มีค่าจ้างถูกกว่าแทน ซึ่งนอร์ธชี้ให้เห็นว่า การเลิกจ้างครั้งใหญ่รอบล่าสุดส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้บริหารอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

เมื่อตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น คนวัยกลางคนเลยถูกคาดหวังให้เป็น “เสาหลัก” ของครอบครัว และคอยดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในบ้าน ดังนั้น การสูญเสียงานประจำที่เป็นเหมือนวิถีชีวิตของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลิกจ้างหรือพักงาน ย่อมเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อสถานการณ์ทางการเงินของพวกเขาทั้งสิ้น

 

  • สู่ความฝันอันสูงสุด

นอกจากเหตุผลทางเศรษฐกิจแล้ว ผลสำรวจของ NerdWallet ยังระบุอีกว่า 42% ของชาวอเมริกันไม่ต้องการเกษียณ แค่เพราะยังไม่อยากจะหยุดทำงาน

แม้ว่า “เงิน” จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิตในโลกแห่งทุนนิยมใบนี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่รั้งให้คนเจน X ยังต้องบากบั่นทำงานต่อไป ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า “ตำแหน่ง” ก็มีส่วนขับเคลื่อนให้คนในวัยนี้ไม่พร้อมจะสละเก้าอี้ให้คนรุ่นใหม่

หลังจากการพยายามทำงานและฝึกฝนพัฒนาทักษะอย่างหนักตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ชาวเจน X หลายคนเพิ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่าย หรือเป็นผู้บริหารคนสำคัญขององค์กร 

“ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมานานทำให้กลุ่มวัยกลางคนสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจ รวมถึงสามารถแก้ปมขัดแย้งภายในองค์กรได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกทีม เมื่อต้องเจอสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ” นักวิจัยกล่าว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าคนเจน X สามารถออกจากตลาดแรงงานไปใช้ชีวิตหลังเกษียณได้ แต่หลายคนไม่ต้องการ เพราะพวกเขายังมีแรงปรารถนาที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดของเส้นทางอาชีพที่พวกเขาหวังไว้ หลังจากทำงานหนักมาหลายสิบปี 

“มันจริงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว ที่ชาวเจน X มีแรงจูงใจในการทำงานที่แตกต่างจากวัยอื่น ๆ” นอร์ธกล่าวสรุป

ด้วยปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงทำให้ชาวเจน X ยังไม่พร้อมจะออกจากงาน ซึ่งอันที่จริงในปัจจุบันเราก็ยังเห็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์หลายคนยังมีไฟในการทำงานอยู่ และยังทำได้ดี แต่ถ้าเมื่อใดที่ประสิทธิภาพร่างกายและศักยภาพในการทำงานลดลง ก็คงต้องถึงเวลาปล่อยให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวขึ้นมาทำงานเช่นกัน


ที่มา: BBCNerd Wallet