สรุปดราม่าฟุตบอลซีเกมส์ 2023 ลำดับเหตุการณ์ตะลุมบอนเดือด ไทย-อินโดนีเซีย
สรุปดราม่า ลำดับเหตุการณ์ฟุตบอลซีเกมส์ นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งสุดท้ายเป็น อินโดนีเซีย ที่เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้ 5-2 ซึ่งเหตุการณ์นี้มีการตะลุมบอนจนมีการแจกการแบบปลิวว่อนทั้งนักเตะและสตาฟฟ์ของทั้ง 2 ทีม
สรุปดราม่า ฟุตบอลซีเกมส์ นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งสุดท้ายเป็น อินโดนีเซีย ที่เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้ 5-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ (90 นาทีเสมอ 2-2) พร้อมผงาดคว้าเหรียญทองในรอบ 32 ปี เกมนี้เป็นไปอย่างดุเดือดทั้งในและนอกสนาม โดยหลังเสียงนกหวีดของผู้ตัดสิน ในสนามผู้เล่นไทยเหลือแค่ 7 คนจากการโดน 3 ใบแดงและบาดเจ็บอีก 1 ส่วนอินโดฯโดนใบแดงไป 1 คน นอกจากนี้ยังไม่รวมข้างนอกที่มีการแจกการแบบปลิวว่อนทั้งนักเตะและสตาฟฟ์ของทั้ง 2 ทีม
ลำดับเหตุการณ์ จุดเริ่มต้นเกมสุดเดือดในศึกฟุตบอลซีเกมส์ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ อินโดนเซีย นั้น อาจจะเริ่มจากจังหวะที่ประตูขึ้นนำ 2-0 ของอินโดนีเซียในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ซึ่งจังหวะนั้นเป็นจังหวะดร็อปบอล จากที่ผู้เล่นอินโดฯ บาดเจ็บและไทยได้ครองบอลอยู่ จึงมีการเตะบอลออกให้เกมหยุดเพื่อปฐมพยาบาล โดยนักเตะไทยคิดว่าอินโดฯ จะส่งบอลคืนให้
แต่ปรากฏว่าอินโดฯฉวยโอกาสวางบอลยาวก่อนที่ รามาดาน ซานาต้า ที่วิ่งไปกระดกบอลเข้าประตูไป จังหวะนี้ทั้งผู้เล่นและสตาฟฟ์ไทยเข้าไปประท้วงว่า นักเตะอินโดฯควรส่งคืนหลัง แต่กลับฉวยโอกาสยิงประตู อย่างไรก็ตามการประท้วงไม่เป็นผล ผู้ตัดสินยืนยันประตูที่ 2 ของอินโดนีเซีย และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้
และจุดที่เริ่มมีการตะลุมบอลยกแรก เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาครึ่งหลังที่ผ่านไป 7 นาที จังหวะที่ไทยได้ฟาวล์ แต่ฝั่งอินโดนีเซียนึกว่าจบเกมไปแล้ว วิ่งลงมาในสนามแสดงความดีใจ ก่อนผู้ตัดสินจะเคลียร์ว่าเกมยังไม่จบ และจังหวะฟรีคิกจังหวะนั้น ทีมชาติไทย มาตีเสมอ 2-2 จากยศกร บูรพา และเป่าจบเกมไปเลย ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
แต่ในจังหวะนั้นเองที่ไทยตีเสมอ 2-2 กลุ่มสตาฟฟ์ไทยวิ่งกรูเข้าไปดีใจเยาะเย้ยที่ซุ้มม้านั่งสำรองของอินโดนีเซีย เป็นอารมณ์สะใจแบบสุดๆเนื่องจากตลอดทั้งเกม นักเตะอินโดฯพยายามนอนถ่วงเวลาทำให้เกมหยุดชะงักไม่ต่อเนื่อง และหลายจังหวะผู้เล่นอินโดฯ ก็มีจังหวะเข้าบอลหนักอยู่เรื่องๆ ซึ่งพอแข้งไทยตีเสมอในเพลย์สุดท้าย ทำให้ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างสุดเหวี่ยง
มีการท้าทายกันจนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์ ซึ่งหลังเคลียร์เหตุการณ์นี้เสร็จ กรรมการชูใบแดงไล่สตาฟฟ์ของไทยออกไป 1 คนพร้อมกับ ไล่นักเตะสำรองอินโดนีเซียไป 1 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกมสุดเดือด! บอลซีเกมส์ 2023 ทีมชาติไทย พ่าย อินโดนีเซีย 2-5 คว้าเหรียญเงิน
และเหตุการณ์ตะลุมบอนยกที่ 2 และนำไปสู่คำว่า อัปยศ เป็นช่วงต่อเวลานาทีแรก ผู้เล่นไทยผิดพลาดก่อนโดนอินโดนีเซีย ฉกบอลหลุดเข้าไปตักบอลเข้าไปตุงตาข่ายขึ้นนำ 3-2 จุดนี้เอง ฝั่งสตาฟฟ์ของอินโดนีเซียได้ทีเอาคืน และเข้ามาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรองของไทยบ้าง จนเกิดการณ์ตะลุมบอนกันขึ้นยกใหญ่ ทั้งสตาฟฟ์และนักเตะในซุ้มม้านั่งสำรอง ซึ่งผู้เล่นที่อยู่ในสนามก็มีทั้งเข้ามาห้าม และเข้ามาผสมโรงมั่วกันไปหมดจนเกิดเหตุชุลมุนเกมหยุดไปเป็น 10 นาที
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระงับเหตุการณ์จนสงบแล้ว ผู้ตัดสินก็ได้เรียกมาคุยระหว่างทั้งไทยและอินโดนีเซีย โดยมีทั้งตัวแทนจากฟีฟ่าเข้าไปคุยด้วย เหตุการณ์นี้ผู้ตัดสินชูใบแดงผู้เล่นในสนาม ประกอบด้วย ผู้เล่นกองหลังเบอร์ 4 โคมัง เทกู และฝั่งไทยคือ โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตู ออกจากสนามทั้งคู่ จากการสาวหมัดใส่กัน
ต่อมาชูใบแดงไล่สตาฟฟ์อินโดนีเซีย ที่เข้ามาพยายามกระโดดถีบฝั่งไทย แต่ไม่โดน และไล่สตาฟฟ์ของไทยที่สาวหมัดให้ออกจากสนามไปให้หมด และเมื่อเคลียร์แจกใบแดงเสร็จ ก็กลับมาเล่นกันต่อ ในสนาม ณ ตอนนั้นเหลือฝั่งละ 10 คน
พอกลับมาเล่นกันต่อ โจนาธาร เข็มดี ก็มาโดนใบเหลือที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม จากการไปทำฟาวล์ตัดเกมคู่แข่ง ทำให้ไทยเหลือผู้เล่น 9 คน ก่อนโดนประตูหนีห่างไปไกลเป็น 4-2 จากนั้น ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์ ได้รับบาดเจ็บต้องถูกหามออกไป จนทำให้ไทยต้องเล่นในสถานการณ์ 10-8 คน เพราะไทยหมดโควต้าเปลี่ยนตัวแล้ว
เท่านั้นยังไม่พอ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไปอีกคน กลายเป็นเหลือผู้เล่น 10-7 ก่อนโดนประตู 5-2 อินโดนีเซีย ผงาดคว้าแชมป์ซีเกมส์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ขณะที่ทีมชาติไทยได้เหรียญเงินเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน
หลังเกม อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้เผยว่า อย่างเเรกเลยต้องขอโทษแฟนบอลและผู้สนับสนุนทุกท่านที่เราก้าวไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้
น้องๆก็สู้ได้ดี ทำได้ดีที่เราสามารถกลับมาได้ แต่เราก็ทำได้ไม่สุด และก็มีหลายๆปัจจัยที่เข้ามาต้องยอมรับว่าสถานการณ์ตอนนั้นเราก็ทำได้ไม่ดีด้วย ยิ่งเวลาเดินเรายิ่งเสียเปรียบขึ้นเรื่อยๆ เราต้องไปแก้ไข ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับผมเองด้วยและน้องๆเองด้วย
อิสสระ พูดต่อว่า จริงๆแล้วจุดเปลี่ยนของเราคือลูกที่ 3 เราลงไปแล้วเราเสียเลย แต่เราก็คิดว่าเราจะกลับมาได้แต่เรามาโดนใบแดงอีกทำให้ตัวผู้เล่นมันน้อยกว่า ก่อนหน้านี้เราโดน 2-0 แล้วเราเร่งไปและใช้พลังงานไปค่อนข้างเยอะ และเราก็กลับมาได้แล้วพอมาช่วงต่อเวลาเราเสียง่ายไปนิดนึงต้องยอมรับเลยเราเสียง่ายและมาโดนใบแดงด้วย ตรงที่นี่มันก็สำคัญ
คือมันเป็นอารมณ์ร่วมของเกมทั้งสองฝั่งต่างฝ่ายก็ต่างดีใจครับแต่เราต้องควบคุมตัวเองให้อยู่และเราก็ไม่สามารถเข้าไปห้ามได้ทุกคนครับ แต่สุดท้ายเราก็จบกันด้วยดีครับ หลังจบเกมเราไม่มีปัญหากันครับ อาจมีปะทะกันแต่พอจบเกมก็จบครับ ก็ห้ามทีมของตัวเองครับเพราะมีผลกับแฟนบอลทุกคนครับและอันตรายต่อนักบอลของเรา
ตอนนี้ยังคงทำอะไรไม่ได้ก็หวังให้ทุกคนฟื้นฟูตัวเองและกลับไปที่สโมสรและก็อาจจะมีการพูดคุยกับหลายๆคนให้เป็นบทเรียนและก็ให้น้องๆได้คิดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าเราต้องควบคุมตัวเองให้ได้ไม่ว่าสถานการณ์จะออกมาเป็นในรูปแบบไหน ถ้าควบคุมไม่ได้ก็จะเป็นแบบนี้
คืออนาคตตัวผมเองก็ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่เลยครับ เพราะว่าเราทำงานเต็มที่และมีหลายปัจจัยค่อนข้างเยอะเกมมันแทบไม่ใช่เกมฟุตบอล เพราะว่ามันเหลือนักเตะค่อยๆน้อยลง โดนเหลืองสองเหลือง โดนแดง จนเหมือนเป็นเกมสมอลไซส์ในสนาม ที่เราเหลือ 7 คน
แม้แต้ลูกที่เราเสียลูกที่ 2 มันเป็นสปิริตของฟุตบอล โอเคมันอาจจะได้ประตู ใช่ครับ มันไม่ผิดกติกา จริงๆผมติดใจลูกนั้นมากเลยครับ คือตัวเขาเจ็บแล้วเราได้ครองบอลกกรรมการให้บอลฝั่งคู่ต่อสู้เตะมาแล้วเขาเจตนาเล่นชัดเจนถ้าเขาเตะมาแล้วลูกเข้าประตู เราก็เสียประตูอยู่ดี ผมมองเรื่องสปริต ผมเสียใจนะสำหรับคนทำทีมเป็นโค้ช ผมจะโดนยิง 7-8 ลูกผมไม่ได้ซีเรียสหลอก ผมเสียใจลูกนี้แหละ เรื่องอื่นๆเป็นเรื่องระหว่างเกมและการเปลี่ยนแปลงระหว่างเกมมากกว่า
เรื่องโซเชียลมีเดีย จริงๆแล้วความรู้สึกนั้นมันเป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับมันก็ไม่ได้มีผลต่อคนอื่นนักหรอกผมมองว่า ทุกคนทำเพื่อทีม แต่เขายังไม่โต และคงยังไม่รอบคอบในการใช้คำ
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก