เส้นด้าย สอดอStyle ต้องสงสัยตกแต่งบัญชี จนท.บุกค้นบริษัทฯ พบความผิด 4 ข้อหา
ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเข้าตรวจค้น 4 บริษัท ซึ่ง 1 ใน 4 มีบริษัทฯของ 'เส้นด้าย สอดอStyle' ยูทูปเบอร์ เจ้าหน้าที่พบพิรุธไม่ส่งงบดุลบริษัท และเข้าข่ายต้องสงสัยตกแต่งบัญชีรายได้ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ฯเข้าตรวจค้น พบความผิด 4 ข้อหา
(24 มิ.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น 4 บริษัท ซึ่ง 1 ใน 4 มีบริษัทฯของ 'เส้นด้าย สอดอStyle' ยูทูปเบอร์ชื่อดังด้วย โดยเจ้าหน้าที่พบพิรุธไม่ส่งงบดุลบริษัท และเข้าข่ายต้องสงสัยตกแต่งบัญชีรายได้ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ฯเข้าตรวจค้น พบความผิด 4 ข้อหา
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจค้น 4 บริษัท บริษัท สอดอ สไตล์ จำกัด, บริษัท ไดนี่ กรุ๊ป จำกัด , บริษัท คาราเมล บิสคิท จำกัด และบริษัท แฮปปี้ทรีเฟรนด์ จำกัด บริเวณถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
หลังจากตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบเนื่องจากมีทรัพย์สินและพฤติกรรมใช้ชีวิตประจำวันอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีการโพสต์ไลฟ์สดว่าตนเสียเงินจากการเล่นพนันออนไลน์ 35 ล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ร้องจึงขอให้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า บุคคลผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวเป็นยูทูปเบอร์ มีผู้ติดตามหลายล้านคน โดยบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของกิจการหลายบริษัทโดยพบว่าไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฯเข้าตรวจค้นพบว่า บริษัทของ 'เส้นด้าย สอดอStyle' และแฟนหนุ่ม ที่เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นนั้น มีความผิดอื่นๆตาม พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 และ พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 ในข้อหา ดังนี้
- ไม่ได้จัดเก็บเอกสารทางบัญชีไว้ที่สถานประกอบการ ซึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 13 โทษตาม มาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
- ไม่ได้จัดทำใบหุ้นมอบให้กับผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- ไม่ได้จัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 10 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
- มีการย้ายเปลี่ยนแปลงสำนักงานและเพิ่มสาขาที่ใช้ในการประกอบกิจการ ซึ่งไม่ส่งคำบอกการเปลี่ยนย้ายสำนักงานแก่นายทะเบียนเพื่อจดทะเบียน อันเป็นความผิดตามมาตรา 14 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ทั้ง 2 บริษัท มีโทษปรับทั้งส่วนนิติบุคคล และกรรมการที่มีอำนาจลงนามในฐานะบุคคล รวมโทษปรับสูงสุดที่ 275,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบเอกสารทางบัญชีของบริษัทที่ อาจเข้าข่ายความผิดในเรื่อง การรายงานเท็จ แก้ไข ละเว้นการลงรายการในบัญชีหรือ งบการเงิน หรือแก้ไขเอกสารที่ต้องใช้ประกอบ การลงบัญชีเพื่อให้ผิดความเป็นจริง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543
เบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาข้างต้น และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเรื่องเอกสารทางบัญชีของบริษัทเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่ตำรวจขอเตือนภัยนิติบุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ครบถ้วน เช่น การจัดเก็บเอกสาร ณ ที่ตั้ง, การจัดทำใบหุ้น, สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น, นำส่งงบการเงินและรายงานประจำปี ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากปฏิบัติไม่ตรงตามระยะเวลาหรือระเบียบที่กำหนด จะมีโทษปรับ ตามที่กฎหมายกำหนด และการทำบัญชีประจำปีควรทำให้ถูกต้อง
หากมีการตรวจสอบและพบการกระทำความผิดในเรื่องการรายการเท็จ แก้ไข ละเว้นการลงรายการในบัญชีหรืองบการเงิน ซึ่งเป็นการทุจริต ถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ