วันสารทจีน 2566 ตรงกับวันไหน เปิดประวัติความสำคัญ วิธีไหว้ - ข้อห้ามปฏิบัติ
'วันสารทจีน 2566' ปีนี้ตรงกับวันไหน เปิดประวัติความสำคัญ รวมของไหว้วันสารทจีน - วิธีการไหว้ และข้อห้ามปฏิบัติ
'วันสารทจีน' ตามปฏิทินทางจันทรคติจะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน 'เทศกาลสารทจีน' ถือเป็นวันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษด้วยพิธีเซ่นไหว้ และยังถือเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญได้ โดยวันจ่ายสารทจีนปีนี้คือวันที่ 29 สิงหาคม 2566 หรือก่อนหน้านั้น และวัน ไหว้สารทจีน 2566 ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566
- ประวัติวันสารทจีน
ตำนานที่ 1 ตำนานนี้กล่าวไว้ว่า 'วันสารทจีน' เป็นวันที่ 'เงี่ยมล้อเทียนจือ' (ยมบาล) จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์ และส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้ายจึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ดังนั้นเพื่อให้วิญญาณร้ายออกมารับกุศลผลบุญนี้จึงต้องมีการเปิดประตูนรกนั่นเอง
ขณะที่ ตำนานที่ 2 ระบุว่า มีชายหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า 'มู่เหลียน' (พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เคยเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจ นางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้าน โดยนางจะทำอาหารเลี้ยง 1 มื้อ
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวว่ามารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียน แต่หาทราบไม่ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจี มหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดาก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่ามารดาของตนกำลังอดอยาก จึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมด และเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส มู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ว่า ตนขอรับโทษแทนมารดา
แต่ก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อ ก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้น และพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋วหลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่างๆได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋วหลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิด จึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการ 'เซ่นไหว้' โดยจะนำอาหารทั้งคาว หวาน และกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก มีนัยว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน
การไหว้ในเทศกาลสารทจีนแบ่งออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
1. ชุดสำหรับไหว้เจ้าที่ (ไหว้ในช่วงเวลา 06.00-07.00 น.)
จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวานกุยช่าย ส่วนขนมไหว้พิเศษที่ต้องมีซึ่งเป็นประเพณีของสารทจีนคือขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อที่ว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทอง
2. ชุดสำหรับไหว้บรรพบุรุษ (ไหว้ในช่วงเวลา 09.00-11.00 น.)
คล้ายของไหว้เจ้าที่พร้อมด้วยกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ ตามธรรมเนียมต้องมีน้ำแกงหรือขนมน้ำใส ๆ วางข้างชามข้าวสวย และน้ำชาจัดชุดตามจำนวนของบรรพบุรุษ ขาดไม่ได้ก็คือขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้และกระดาษเงินกระดาษทอง
3. ชุดสำหรับไหว้ดวงวิญญาณเร่ร่อนหรือสัมภเวสี (ไหว้ในช่วงเวลา 13.00 - 14.00 น.)
วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า สัมภเวสี หรือ ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการสะท้อนความสุภาพและให้เกียรติของคนจีน เรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดีของเรา โดยการไหว้จะไหว้นอกบ้านของไหว้จะมีทั้งของคาวหวานและผลไม้ตามต้องการและที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ ปลานึ่ง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้
ขนมที่ใช้ไหว้เทศกาลสารทจีน
สำหรับขนมที่ใช้ไหว้ในเทศกาลสารทจีน ในสมัยโบราณชาวจีนใช้ขนมไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า 'โหงวเปี้ย' หรือเรียกชื่อเป็นชุดว่า 'ปัง เปี้ย หมี่ มั่ว กี'
- ปัง คือขนมทึงปัง เป็นขนมที่ทำมาจากน้ำตาล
- เปี้ย คือขนมหนึงเปี้ย คล้ายขนมไข่
- หมี่ คือขนมหมี่เท้า ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าข้างในไส้เต้าซา
- มั่ว คือขนมทึกกี่ เป็นขนมข้าวพองสีแดงตรงกลางมีไส้เป็นแผ่นบาง
- กี คือขนมทึงกี ทำเป็นชิ้นใหญ่ยาวเวลาจะกินต้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ
แต่ชาวไทยเชื้อสายจีนมักใช้ขนมเทียน ขนมเข่งในการไหว้ โดยหลักของที่ไหว้ก็จะมี 'ของคาว' 3 หรือ 5 อย่าง เช่น ไก่ หมู เป็ด ไข่ หมึก ปลา ฯลฯ ส่วน 'ของหวาน' 3 หรือ 5 อย่าง เช่น ขนมเทียน ขนมมัดไต้ ขนมถ้วยฟู หรือขนมสาลี่ปุยฝ้าย ขนมเปี๊ยะ ส้ม กล้วย แอปเปิล องุ่น สาลี่
ข้อห้ามปฏิบัติในวันสารทจีน
- ห้ามแต่งงาน : ชาวไทยเชื้อสายจีนถือเป็นเดือนปล่อยผี เดือนที่ไม่เป็นมงคล
- ห้ามเดินทางไกล : ความเชื่อของชาวจีนเชื่อว่าวันสารทจีนเป็นวันประตูนรกเปิด การออกเดินทางไกลอาจจะทำให้มีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้มากกว่าช่วงอื่นๆ
- ห้ามออกจากบ้านช่วงกลางคืน : ความเชื่อเรื่องประตูนรกเปิดในวันสารทจีนว่า วิญญาณของคนตายจะออกมาเดินตามถนนในตอนกลางคืน จึงไม่ควรออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น เพราะอาจพบเจอวิญญาณได้
- ห้ามซื้อบ้านหรือย้ายบ้าน : เพราะเชื่อว่าวิญญาณอาจไปสิงอยู่ในที่เหล่านั้นในขณะที่มันว่างอยู่
- ห้ามเริ่มงานก่อสร้างใดๆ : เพราะเชื่อว่าอาจรบกวนวิญญาณของบรรพบุรุษที่อยู่ที่บ้านได้
- ห้ามดำเนินการเริ่มธุรกิจใดๆ : เพราะมีความเชื่อว่าเป็นเดือนที่มีวันประตูผีเปิด จะทำให้ธุรกิจ กิจการต่างๆไม่ราบรื่น
- ห้ามว่ายน้ำตอนกลางคืน : เพราะเชื่อกันว่าวิญญาณที่จมน้ำตายมักจะออกมาหาตัวตายตัวแทนในช่วงวันสารทจีน