ครั้งแรกในเมืองไทย! ‘โคอะลา มาร์ช’ ยกโรงงานบุกกรุงเทพฯ

หนึ่งในขนมที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในวัยเด็ก คงหนีไม่พ้น “โคอะลา มาร์ช” หรือ Koala’s March บิสกิตอบกรอบสอดไส้มาพร้อมลวดลายโคอะลาสุดน่ารักหลากหลายอิริยาบท ที่ล่าสุดได้ยกโรงงานจำลองในรูปแบบนิทรรศการมาไว้ที่กรุงเทพฯ เพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้เข้าชมความน่ารักพร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย 

โคอะลา มาร์ช หนึ่งในแบรนด์ขนมสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปี 1984 แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมญี่ปุ่น แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการทำบิสกิตให้พองกรอบและสามารถสอดไส้เข้าไปได้มีจุดเริ่มต้นมาจากเกาหลี

ในปี 1983 Lotte กลุ่มบริษัทอาหารของเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งในกรุงโตเกียว ได้พัฒนาเทคนิคในการ “อบบิสกิตกลวง” ที่สามารถฉีดช็อกโกแลตเข้าไปได้ และหลังจากนั้นในปีต่อมา ญี่ปุ่นก็ได้นำวิธีนี้มาใช้ในการผลิตบิสกิตสอดไส้ในชื่อ “โคอะลา มาร์ช” เพื่อเฉลิมฉลองการที่ออสเตรเลียได้มอบโคอะลาตัวแรกใหักับญี่ปุ่น ซึ่งขนมดังกล่าวก็ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน มีการพัฒนารสชาติ บรรจุภัณฑ์ และรายละเอียดต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลวดลายบนตัวขนมที่มีถึง 214 แบบ

ปัจจุบัน “โคอะลา มาร์ช” ได้รับความนิยมไปในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย เช่น มาเลเซีย, เวียดนาม, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย, จีน และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ผลิตและส่งออก โคอะลา มาร์ช ไปยังประเทศอื่นๆ มากกว่า 25 ประเทศอีกด้วย

ล่าสุด “โคอะลา มาร์ช” ได้ยกโรงงานจำลองมาเปิดให้แฟนคลับชาวไทยเข้าชมฟรี! ที่ ริเวอร์ ซิตี้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 12 พ.ย. 2023 (เข้าชมได้ทุกวันในเวลา 10.00-20.00 น.) ภายใต้ธีม “โคอะลา มาร์ช เวิลด์ เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช” ที่มีการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ผ่านห้องนิทรรศการ 10 ห้อง

ภายในนิทรรศการนอกจากจะมีจุดให้เช็กอินถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “มาร์ชคุง” โคอะลาที่เป็นคาแร็กเตอร์ประจำแบรนด์แล้ว ยังมีบางจุดที่สามารถสแกน QR code ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยนิทรรศการทั้งหมด 10 ห้อง ได้แก่

1. ห้องเฮกซากอน มิลเลอร์ (Hexagon Mirror) ห้องกระจกหกเหลี่ยม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกล่องขนม สามารถถ่ายภาพได้ในมุมที่หลากหลาย
2. ห้องแห่งแสงไฟ (Lighting Room) เป็นอุโมงค์แสงไฟที่มีโคอะลา มาร์ช ร้องเพลงต้อนรับ
3. ห้องแบล็กแอนด์ไวท์ (Black & White Zone) มีจุดเด่นคือการใช้โทนสีขาวดำที่ตัดกันชัดเจน มี “โคอะลา แองเจิล” และ “โคอะลา เดวิล” นั่งจิบชาอยู่กลางห้อง
4. ห้องโคอะลา โปรไฟล์ (Koala’s Profile) เล่าเรื่องราวความเป็นมาของ “มาร์ชคุง” และ “วอลซ์จัง”  2 คาแรกเตอร์หลักของแบรนด์ รวมถึงลวดลายของโคอะลา มาร์ช ที่มีทั้งหมด 214 คาแรกเตอร์ และลายพิเศษประจำแต่ละจังหวัดในประเทศไทย
5. ห้องโคอะลา แฟ็คทอรี่ (Koala’s Factory) จำลองโรงงานขนมสุดอลังการแสดงให้เห็นถึงวิธีการผลิตที่ใส่ใจและพิถีพิถันทุกขั้นตอน 
6. ห้องความเป็นมา (Koala’s Timeline) เล่าจุดกำเนิดของโคอะลา มาร์ช ตั้งแต่ปี 1984 ถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
7. ห้องเซอร์ราวด์ โคอะลา (Surrounded Koala) เป็นห้องสีเหลืองที่มีมาร์ชคุงขนาดใหญ่ให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
8. เกาะโคอะลา (Koala's Island) เป็นเกาะที่มีชายหาดสีสันสดใสของโคอะลามาร์ช และมีการ์ดให้ผู้เข้าชมนำไปเขียนความในใจที่มีต่อนิทรรศการอีกด้วย
9. Intro to Flower Zone เป็นทางเดินเชื่อมจากเกาะโคอะลาไปยังสวนดอกไม้
10.  สวนดอกไม้ของโคอะลา มาร์ช (Flower Zone) สร้างสรรค์ขึ้นโดยศิลปินชาวไทย เนรมิตให้กลายเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ด้วยดอกไม้กระดาษสาที่ทำจากมือ

ด้านซาดาฟูมิ มัตซึชิตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด ระบุว่าที่ผ่านมา โคอะลา มาร์ช เป็นหนึ่งในแบรนด์ขนมที่เข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยได้ทุกช่วงวัย นอกจากรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคาแรกเตอร์ของโคอะลาที่โดดเด่นด้วย จึงเชื่อว่าการจัดนิทรรศการครั้งนี้จะทำให้หลายคนให้ความสนใจเรื่องราวของโคอะลา มาร์ช มากขึ้น

สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของ “โคอะลา มาร์ช” ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากจะได้ภาพน่ารักๆ และของรางวัลติดมือกลับบ้านไปแล้ว ยังได้เรียนรู้ไปถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ โคอะลา มาร์ช ที่ไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย

อ้างอิงข้อมูล : SCMP และ Lotte Koala's March