รู้จัก 2 แบรนด์หรู ‘DAKS-Bottega’ มูลค่าเกือบครึ่งแสน ที่ ‘ทักษิณ’ เลือกใส่

เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจมากพอสมควรสำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางกลับมาประเทศไทยในรอบ 17 ปี ที่แม้เจ้าตัวยืนยันว่าจะกลับมาต่อสู้คดี แต่ก็ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ จากโทษจำคุก 8 ปี เหลือจำคุก 1 ปี และเข้าหลักเกณฑ์พักโทษ ได้รับการปล่อยตัวช่วงที่ครบ 6 เดือน วันที่ 18 ก.พ. 2024 ทำให้ได้กลับมาใช้ชีวิตที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” กับครอบครัวอีกครั้ง

นอกจากเรื่องราวทางการเมืองที่เข้มข้นและหมายเลขทะเบียนรถที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจก็คือ “แฟชั่น” ของทักษิณชุดแรกหลังจากออกจากโรงพยาบาลตำรวจที่ได้เห็นกันผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร (ingshin21) ที่เมื่อดูเพียงผิวเผินอาจเหมือนเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่รู้หรือไม่ว่าแค่รองเท้าคู่เดียวก็มีราคาประมาณ 44,943 บาทเลยทีเดียว (อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการ Bottega Veneta ราคา 1,250 ดอลลาร์) โดยครั้งนี้กรุงเทพธุรกิจจะพาไปทำความรู้จัก 2 แบรนด์หรูชื่อดังที่ “ทักษิณ” เลือกใส่ว่ามีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

“Bottega Veneta” เครื่องหนังสุดหรูสัญชาติอิตาลี

หากพูดถึงแบรนด์เครื่องหนังสุดหรูที่ได้รับความนิยมในแวดวงแฟชั่นก็คงหนีไม่พ้น “Bottega Veneta” แบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1966 และยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยสินค้าที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ก็คือ “กระเป๋า” และ “รองเท้า” ที่นอกจากมีดีไซน์สวยงามแปลกตาแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องความคงทนอีกด้วย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนที่ชื่นชอบแฟชั่นและกลุ่มคนที่มองหากระเป๋าหรือรองเท้าที่ค่อนข้างทนทาน

บริษัท Bottega Veneta ก่อตั้งขึ้นในเมืองวิเชนซา ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1996 โดย Michele Taddei (มิเคเล ทัดเดอิ) และ Renzo Zengiaro (เรนโซ เซนจาโร) ก่อนจะเปลี่ยนมือมาบริหารโดย Laura Braggion (ลอรา บรักจอน) และ Vittorio Moltedo (วิตตอริโอ มอลเตโด) ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 ซึ่งถือเป็นช่วงที่แบรนด์เริ่มประสบความสำเร็จในสหรัฐ จนได้เปิดสาขาแรกที่นิวยอร์กในปี 1972 และเริ่มขยายไปทั่วโลกทั้งในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย

ต่อมาในปี 2001 Gucci Group หรือปัจจุบันคือ Kering ได้เข้าซื้อกิจการของ “Bottega Veneta” เพราะเชื่อมั่นว่าสินค้าของแบรนด์มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะในเรื่องของงานฝีมือที่มีความประณีต ทำให้เชื่อว่าแบรนด์จะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งข้อมูลจาก WWD ระบุว่าในปี 2021 แบรนด์มีรายได้เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับปี 2020

สำหรับสินค้าจาก “Bottega Veneta” ที่อดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” เลือกใส่หลังออกจากโรงพยาบาลก็คือ “Sunday Slipper” รองเท้าแตะแบบเปิดหลังทำจากหนังลูกแกะสีดำ มีจุดเด่นอยู่ที่เทคนิค Intrecciato หรือการสานหนังด้วยมือทั้งผืน มีราคาหน้าเว็บไซต์อยู่ที่ 1,250 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 44,943 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 19 ก.พ. 2024)

“DAKS” จากการปฏิวัติกางเกง สู่แบรนด์ระดับโลก

อีกแบรนด์หนึ่งที่ “ทักษิณ” เลือกใส่คู่กับรองเท้าก็คือ เสื้อของ “DAKS” แบรนด์หรูจากอังกฤษที่เกิดขึ้นจาก Alexander Simpson โดยเขาได้คิดค้นกางเกงที่สามารถสวมใส่ได้เองขึ้นมา เพราะกางเกงสำหรับผู้ชายในอดีตจำเป็นต้องใช้เข็มขัดหรือสายรัดแบบอื่นๆ เพื่อไม่ให้เอวหลุด แต่เขาได้แก้ไขให้มีแผ่นยางขนาดเล็กเย็บไว้ที่ด้านในของขอบกางเกงเพื่อยึดกับเสื้อเชิ้ตได้พอดี หลังจากนั้นกางเกงลักษณะนี้ก็กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เขานำไปจนสิทธิบัตรและกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของแฟชั่นบุรุษชาวอังกฤษในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นเมื่อขายกางเกงไปได้มากกว่า 10,000 ตัว Alexander Simpson (อเล็กซานเดอร์ ซิมป์สัน) และ Dudley Beck (ดัดลีย์ เบ็ค) ก็ร่วมมือกันก่อตั้งธุรกิจด้านแฟชั่นขึ้นมา ซึ่งเลือกใช้คำว่า DAD ที่แปลตรงตัวว่า พ่อ และคำว่า SLACKS ที่มาจากคำอเมริกันแปลว่ากางเกงแบบไม่เป็นทางการ จนกลายเป็นชื่อแบรนด์ “DAKS” ในช่วงทศวรรษ 1930 ก่อนจะใช้ความรู้ความชำนาญในการผลิตเสื้อผ้าแตกไลน์มาเริ่มต้นธุรกิจเสื้อผ้าสตรีในปี 1937

โดยสินค้าจากแบรนด์ DAKS ที่ ทักษิณ ชินวัตร เลือกใส่หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลแล้วก็คือเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ที่ปัจจุบันไม่มีให้เห็นในเว็บไซต์ทางการแล้ว แต่จากข้อมูลของ CH3 plus ระบุว่ามีราคาอยู่ที่ 4,200 บาท

ถือว่าได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียวสำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ไปทางไหน หรือสวมใส่อะไรก็เป็นกระแสไปเสียหมด ก็คงต้องจับตาต่อไปว่านอกจากประเด็นทางการเมืองแล้วจะมีอะไรออกมาให้ติดตามกันอีก โดยเฉพาะเรื่องความหรูหราของไลฟ์สไตล์ที่เราเคยเห็นกันมานาน

อ้างอิงข้อมูล : CH3 plus, Bottega Veneta, DAKS และ WWD