‘ลาบูบู้’ ฟีเวอร์! ชวนส่อง 7 ตุ๊กตา มหัศจรรย์ ราคา To the Moon!
ปรากฏการณ์ “ลาบูบู้” สุดฟีเวอร์! ชวนส่อง 7 ตุ๊กตาของสะสมที่ได้รับความนิยมในเวลาเพียงไม่นาน และกลายเป็นสินค้าราคาแพงที่ใคร ๆ ก็ต้องตะลึง ยกมาครบตั้งแต่ “ตุ๊กตาบลายธ์” จนมาถึง “เฟอร์บี้” และล่าสุด “ลาบูบู้”
KEY
POINTS
“ลาบูบู้” (Labubu) อาร์ตทอยคาแร็กเตอร์ปีศาจ หูยาว ฟันแหลม กลายเป็นของแรร์ไอเท็มที่คนตามหากันให้ควั่ก นับตั้งแต่ที่ “ลิซ่า BLACKPINK” โพสต์ไอจีสตอรี่ถือกล่อง “ลาบูบู้มาการอง” จนมีราคาเพิ่มขึ้น 400% ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหล่าคนดังได้ทำให้บรรดาอาร์ตทอย ตุ๊กตา ของเล่น และของสะสมมีมูลค่าพุ่งสูง
“กรุงเทพธุรกิจ” รวบรวม 7 ตุ๊กตาของสะสมที่ได้รับความนิยมในเวลาเพียงไม่นาน และกลายเป็นสินค้าราคาแพงที่ใคร ๆ ก็ต้องตะลึง
ตุ๊กตาบลายธ์ (Blythe)
“ตุ๊กตาบลายธ์” (Blythe) เป็นตุ๊กตาผู้หญิงตากลมโตสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วยการดึงเชือกที่อยู่ด้านหลังตุ๊กตา มีหัวโต ลำตัวสั้น แขนขาเล็ก ลักษณะเหมือนกับการ์ตูนนี้ ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 2515 โดย Kenner Products บริษัทผลิตของเล่น และวางจำหน่ายในสหรัฐ ซึ่งในช่วงแรกตุ๊กตานี้ไม่ได้รับความนิยม ทำให้วางจำหน่ายได้เพียงแค่ปีเดียว แล้วก็เลิกผลิตไป
ตุ๊กตาบลายธ์กลับมาได้รับความนิยมในช่วงปี 2543 หลังจากที่ จินา แกแรน ช่างภาพชาวสหรัฐตีพิมพ์หนังสือภาพถ่ายตุ๊กตาบลายธ์ ต่อมาตุ๊กตาบลายธ์ได้ถูกนำไปใช้ประกอบโฆษณาในญี่ปุ่นทำให้ตุ๊กตาดังกล่าวกลายเป็นของเล่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนต้องมีการผลิตตุ๊กตาบลายธ์อีกครั้งในชื่อ “นีโอ บลายธ์” (Neo Blythe) โดย Takara บริษัทของเล่นในญี่ปุ่น
ส่วนในประเทศไทยเริ่มมีกระแสในไทย ช่วงปี 2551 หลัง “ชมพู่-อารยา” หันมาเก็บสะสมตุ๊กตาบลายธ์ ทำเอาราคาพุ่งไปหลายหมื่นบาท เพราะในยุคนั้นยังไม่มีร้านค้านำเข้าอย่างเป็นทางการ ขึ้นแท่นเป็นตุ๊กตาที่ใคร ๆ ก็อยากได้ ฮิตจนมีเพลงชื่อ “ตุ๊กตาบลายธ์” ที่ร้องโดยแกรนด์ เดอะสตาร์ ซึ่งได้รับความอย่างมากเช่นกัน
แม้ตอนนี้จะไม่มีกระแสแล้ว แต่ตุ๊กตาบลายธ์ก็ยังคงทำราคาดีในหมู่นักสะสม โดยเฉพาะตุ๊กตาบลายธ์รุ่นแรกที่ผลิตโดย Kenner และรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตมาในจำนวนไม่มาก
เฟอร์บี้ (Furby)
“เฟอร์บี้” (Furby) ตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงขนปกปุย ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2541 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนูแฮมสเตอร์ผสมกับนกฮูก โดยสามารถพูดคุยโต้ตอบกับเจ้าของได้ ในช่วง 3 ปีแรกที่วางขายทำยอดขายได้มากกว่า 40 ล้านตัว และถูกแปลภาษาไปมากกว่า 14 ภาษา
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล บริษัทผู้ผลิตก็ได้มีการอัปเกรดเฟอร์บี้ให้มีความทันสมัยและมีฟังก์ชันมากขึ้น สำหรับเฟอร์บี้ที่ได้รับความนิยมในประเทศเป็นเฟอร์บี้เจน 3 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ตาเป็นจอ LED แสดงอารมณ์สื่อสารกับเจ้าของได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้อีกด้วยย ทำให้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เซเลบ-ดาราไทย และคนก็แห่ไปซื้อเล่นตามกันทั้งบ้านทั้งเมือง สนนราคาตอนนั้นอยู่ที่ราว 3,000-6,000 บาท
Hasbro บริษัทผู้ผลิตเพิ่งปล่อยเฟอร์บี้เจน 5 ออกมาเมื่อปลายปี 2023 โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่หูเรืองแสงที่สามารถขยับได้เมื่อถูกลูบคลำ เขย่า และให้อาหาร อีกทั้งยังสามารถรับคำสั่งผ่านเสียง และสามารถตอบสนองได้มากกว่า 600 รูปแบบ มาพร้อมอุปกรณ์เสริมในชุด
ตุ๊กตาลูกเทพ
ในปี 2559 เกิดกระแสคนไทยเลี้ยง “ตุ๊กตาลูกเทพ” ตุ๊กตาเด็กขนาดเท่ากับเด็กวัย 2-3 ขวบ ที่ผ่านพิธีการปลุกเสก โดยมีความเชื่อว่า ถ้าเลี้ยงดูลูกเทพดีก็จะมอบโชคลาภ และช่วยเรื่องทำมาค้าขายให้ดีขึ้น แถมยังช่วยเฝ้าบ้านได้อีก เปรียบเหมือนเป็นกุมารทองยุคใหม่นั่นเอง
ด้วยคุณสมบัติมากมายขนาดนี้ทำให้ราคาตุ๊กตาลูกเทพพุ่งไปหลักแสน และในตอนนั้นก็จะเห็นคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพที่แต่งตัวสวยงาม ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แต่ผ่านไปเพียงไม่นานกระแสลูกเทพก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
แบร์บริค (BE@RBRICK)
“แบร์บริค” (BE@RBRICK) ตุ๊กตาฟิกเกอร์รูปหมีผสมเลโก้ผลิตโดย Medicom Toy Incorporated บริษัทของเล่นในญี่ปุ่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นของที่ระลึกในงาน World Character Convention ครั้งที่ 12 เมื่อปี 2544 ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าของแจกฟรีที่มีจำนวนจำกัดนี้จะกลายเป็นสะสมมูลค่าแพงหูฉี่ในปัจจุบัน
ในแต่ละปีแบร์บริคจะออกคอลเล็กชั่นใหม่ปีละ 2 ครั้ง โดยจะเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการครีเอทีฟจากทั่วโลกร่วมออกแบบ หรือรวมคอลแลบกับแบรนด์ต่าง ๆ ทำให้แบร์บริคมีคอนเซ็ปต์ที่หลากหลาย แบร์บริคผลิตมาในจำนวนจำกัด อีกทั้งบางรุ่นจะมีการวางจำหน่ายเฉพาะประเทศ หรือให้สั่งจองแบบพรีออเดอร์เท่านั้น ที่สำคัญแบร์บริคจะถูกจัดส่งในกล่องทึบ ทำให้ผู้ซื้อต้องไปลุ้นเอาว่าจะได้รุ่นอะไร สีใด ซึ่งถ้าหากโชคดีอาจจะได้ตัวซีเคร็ทที่มีโอกาสได้เพียง 0.52% เท่านั้น
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แบร์บริคจะมีราคาเริ่มต้นหลักแสน เอาไปขายต่อก็มีแต่ได้ราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะตัวซีเคร็ทและรุ่นหายาก แบร์บริคจึงเป็นหนึ่งในอาร์ตทอยที่ไม่มีวันตาย ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ปัจจุบันแบร์บริคตัวที่แพงที่สุด คือ Yue Minjun ‘Qiu Tu’ 1000% BE@RBRICK ถูกประมูลไปในราคา 181 ล้านบาท
ครายเบบี้ (CRYBABY)
“ครายเบบี้” (CRYBABY) อาร์ตทอยคาแร็กเตอร์เด็กร้องไห้ เป็นผลงานการออกแบบของ “มอลลี่” หรือ “มด-นิสา ศรีคำดี” โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจาก “น้ำตา” เพราะเธอเชื่อว่าการร้องไห้ ไม่ได้หมายถึงอ่อนแอเสมอไป และต่อให้เราร้องไห้เพราะอ่อนแอจริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะแสดงออกมา
ในระยะแรกมอลลี่ได้จัดแสดงผลงานในนิทรรศการทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งผลงานที่จัดแสดงทั้งภาพวาด รูปปั้น และอาร์ตทอยได้ถูกจับจองไปจนหมด โดยขายได้ชิ้นละหลักแสนไปจนล้านบาท
ปัจจุบันครายเบบี้ได้ร่วมงานกับ POP MART บริษัทจำหน่ายสินค้าอาร์ตทอยของจีน ออกคอลเล็กชันสินค้ากล่องสุ่มมาให้เลือกซื้อมากมายหลายคอลเล็กขั่น โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดคงจะหนีไม่พ้น CRYBABY × Powerpuff Girls ที่มีคนรีวิวเต็มโซเชียล
แคร์แบร์ (Care Bears)
“แคร์แบร์” (Care Bears) คอลเลคชั่นตุ๊กตาหมีที่วาดขึ้นโดยเอเลนา คูชาริก นักวาดภาพประกอบหนังสือเด็ก เมื่อปี 2524 เพื่อเป็นตัวละครในบัตรอวยพรของ American Greetings บริษัทผลิตการ์ดอวยพรในสหรัฐ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จนทำให้แคร์แบร์ได้ถูกนำไปสร้างเป็นสื่อบันเทิง เช่น ภาพยนตร์ และการ์ตูนทางโทรทัศน์ ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ มากมาย รวมถึงผลิตออกมาเป็น “ตุ๊กตาหมี”
ตุ๊กตาหมีสุดน่ารักออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนแสดงอารมณ์และแบ่งปันความรู้สึกกับผู้อื่น โดยแต่ละตัวจะถูกตั้งชื่อตามความรู้สึกต่าง ๆ และมีโทนสีและสัญลักษณ์พิเศษแตกต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์ตรงบริเวณหน้าท้องของตุ๊กตา ทั้งนี้แคร์แบร์รุ่นแรก ๆ กลายเป็นของสะสมที่มีราคาสูงหลายหมื่นบาท
แคร์แบร์รุ่นแรกมีด้วยกัน 10 สี ประกอบไปด้วย สีฟ้าน้ำทะเล (หลับฝันดี) สีเหลืองทอง (สุขสันต์วันเกิด) สีชมพู (เป็นกำลังใจ/ขอบคุณที่ให้กำลังใจ) สีส้มอ่อน (เอาใจใส่/สนับสนุนผู้อื่น) สีเปลือกมะนาวเหลือง (สนุก สดใส ร่าเริง) สีเขียว (ขอให้โชคดี) สีฟ้าคราม (ขอให้เรื่องร้าย ๆ หายไป) สีชมพู (มอบความรัก ความปรารถนาดี) สีส้มอมน้ำตาล (เป็นผู้นำของเพื่อน ๆ จริงใจ ตรงไปตรงมา) และสีเทอร์ควอยซ์ (ขอให้ความปรารถนาเป็นจริง สมหวัง)
ลาบูบู้ (Labubu)
ปีศาจหูยาว ฟันแหลม ฉีกยิ้มกว้าง มีขนปุกปุยแสนน่ารักมีชื่อว่า “ลาบูบู้” (Labubu) เป็นหนึ่งในคาแร็กเตอร์ที่อยู่ใน อาณาจักร The Monster ที่ออกแบบโดย กาซิง ลุง ศิลปินชาวฮ่องกง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายนอร์ดิก
ลาบูบู้ออกมาแล้วมากกว่า 10 คอลเล็กชัน ซึ่งคอลเล็กชันที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะ “ลิซ่า Blackpink” ถ่ายรูปคู่โพสต์ลงไอจีสตอรี่ คือ “ลาบูบู้มาการอง” (Labubu-The Monsters Exciting Macarons) ซึ่งเป็นเซ็ตพวงกุญแจมีด้วยกัน 7 สีให้เก็บสะสม คือ สีชมพู (Lychee Berry) สีเขียว (Green Grape) สีครีม (Soymilk) สีฟ้า (Sea Salt Coconut) สีเทา (Sesame Bean) สีน้ำตาล (Toffee) และสีน้ำตาลเข้ม (Chestnut Cocoa) ที่เป็นสีหายาก
ราคาจากร้านค้าทางการของ POP MART ระบุว่า ลาบูบู้มาการอง มีราคาอยู่ที่กล่องละ 550 บาท และแบบยกชุด (6 ตัว) มีราคาอยู่ที่ 3,300 บาท แต่ในตอนนี้สินค้าหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้คนที่ต้องการอยากจะได้มาครอบครองจะต้องไปหาซื้อในตลาดรีเซล ที่ผู้ขายดันราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ตรงไหน
ที่มา: ELLE Thailand, Longtun Girl, Read the Cloud, The Better, The Standard
กราฟิก: ณัชชา พ่วงพี