เปิดลิสต์ 10 สายงานมาแรง และเติบโตเร็วที่สุดภายในปี 2573

ภายในปี 2573 หรืออีกประมาณ 6 ปีข้างหน้า ตลาดงานในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ด้วยมีเทคโนโลยี AI เข้ามาดิสรัปต์สายงานต่างๆ รวมถึงภาวะสังคมและสิ่งแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่มาแรงในตลาดงาน ขณะที่อาชีพดั้งเดิมบางสายงานก็อาจจะหายไป เพราะถูกจ้างงานน้อยลงเรื่อยๆ 

แล้ว “วัยทำงาน” จะรู้ได้อย่างไรว่าสายงานที่ตนเองทำอยู่ตอนนี้จะยังมั่นคงและเติบโตต่อไปในอนาคตหรือไม่ รวมถึงลูกจ้างที่กำลังมองหางานใหม่ อาจอยากรู้ว่าสายงานไหนตอบโจทย์โลกการทำงานในอนาคตมากที่สุด? 

ภายในปี 2573 จะเกิดการสร้างงานใหม่ 11.9 ล้านตำแหน่ง

เรื่องนี้มีคำตอบจากรายงานของ “สำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา (BLS)” ที่เคยเผยแพร่ไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อสองสามปีก่อน แต่เราขอนำกลับมาให้ทบทวนกันอีกครั้ง โดยในรายงานคาดการณ์ไว้ว่า ตลาดแรงงานในสหรัฐจะมีการสร้างงานใหม่ 11.9 ล้านตำแหน่งในช่วงปี 2563-2573 หรืออัตราการเติบโตของตำแหน่งงานโดยรวมที่ 7.7% 

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งงานบางสายงานมีอัตราการเติบโตที่เกินกว่าระดับนี้มาก ทั้งนี้ ในรายงานชุดนี้จะเน้นวิเคราะห์สายงานที่สะท้อนถึงการเติบโตของโครงสร้างของสายอาชีพในระยะยาวเป็นหลัก (ไม่นับอาชีพจ้างงานระยะสั้น/จ้างงานชั่วคราว)

ในรายงานได้ระบุถึงสายงานหรืออาชีพที่จะเติบโตเร็วและมีการจ้างงานเพิ่มมากที่สุด 20 อันดับ และสายงานที่จะมีการจ้างงานลดลงเร็วที่สุด 20 อันดับ แต่เราขอยกตัวอย่างมาให้ดูหมวดละ 10 อันดับแรกกันก่อน แบ่งเป็น 

งานที่คาดว่าเติบโตเร็วที่สุด 10 อันดับแรก 

1. ช่างติดตั้งและดูแลกังหันลม อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 68.2% หรือประมาณ 4,700 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 56,230 ดอลลาร์

2. กลุ่มงานพยาบาล อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 52.2% หรือประมาณ 114,900 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 111,680 ดอลลาร์

3. ช่างติดตั้งโซลาร์เซลล์ อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 52.1% หรือประมาณ 6,100 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 46,470 ดอลลาร์

4. นักสถิติ อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 35.4% หรือประมาณ 14,900 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 92,270 ดอลลาร์

5. ผู้ช่วยนักกายภาพบำบัด อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 35.4% หรือประมาณ 33,200 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 59,770 ดอลลาร์

6. นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 33.3% หรือประมาณ 47,100 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 103,590 ดอลลาร์

7. ผู้ช่วยด้านสุขภาพที่บ้านและการดูแลส่วนบุคคล อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 32.6% หรือประมาณ 1,129,900 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 27,080 ดอลลาร์

8. ผู้จัดการด้านการแพทย์-บริการสุขภาพ อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 32.5% หรือประมาณ 139,600 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 104,280 ดอลลาร์

9. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล-วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 31.4% หรือประมาณ 19,800 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 98,230 ดอลลาร์

10. ผู้ช่วยแพทย์ อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 31.0% หรือประมาณ 40,100 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 115,390 ดอลลาร์

งานที่คาดว่าจะถูกจ้างลดลงเร็วที่สุด 10 อันดับแรก 

1. พนักงานพิมพ์เอกสาร-งานเอกสาร อัตราจ้างงานลดลง 36.0% หรือประมาณ 16,300 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 41,050 ดอลลาร์

2. เจ้าหน้าที่ตรวจตราที่จอดรถ อัตราจ้างงานลดลง 35.0% หรือประมาณ 2,800 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 42,070 ดอลลาร์

3. ผู้ปฏิบัติงานเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ อัตราจ้างงานลดลง 32.9% หรือประมาณ 1,800 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 104,040 ดอลลาร์

4. ช่างตัดด้วยมือ (คัตเตอร์และทริมเมอร์) อัตราจ้างงานลดลง 29.7% หรือประมาณ 2,400 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 31,630 ดอลลาร์

5. โอเปอเรเตอร์ทางโทรศัพท์ อัตราจ้างงานลดลง 25.4% หรือประมาณ 1,200 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 37,710 ดอลลาร์

6. ช่างซ่อมนาฬิกา อัตราจ้างงานลดลง 24.9% หรือประมาณ 700 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 45,290 ดอลลาร์

7. พนักงานขายตามบ้าน-ร้านริมทาง อัตราจ้างงานลดลง 24.1% หรือประมาณ 13,000 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 29,730 ดอลลาร์

8. ผู้จัดการสายเรียกเข้า-โทรออก ระหว่างสำนักงาน อัตราจ้างงานลดลง 22.7% หรือประมาณ 13,600 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 31,430 ดอลลาร์

9. พนักงานคีย์ข้อมูล อัตราจ้างงานลดลง 22.5% หรือประมาณ 35,600 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 34,440 ดอลลาร์

10. ผู้ควบคุมเครื่องจักรทำรองเท้า อัตราจ้างงานลดลง 21.6% หรือประมาณ 1,100 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ย 30,630 ดอลลาร์

ความต้องการใช้ "พลังงานหมุนเวียน" กระตุ้นให้เกิดงานติดตั้งกังหันลม-โซลาร์เซลล์

ในภาพรวมพบว่า “ช่างเทคนิคติดตั้งกังหันลม” เป็นสายงานมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด โดยผู้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ (แผงโซลาร์เซลล์) เติบโตมาแรงเป็นอันดับที่สาม ทั้งนี้มีปัจจัยหนุนมาจากความต้องการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพที่ค่อนข้างเล็ก รวมแล้วทั้งสองสายงานนี้ทำให้เกิดตำแหน่งงานใหม่รวมกันประมาณ 10,800 ตำแหน่ง

ขณะที่สายงานเติบโตเร็วที่สุด 5 ใน 10 อันดับแรก พบว่า อยู่ในสายงานด้านสุขภาพหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการก้าวสู่สังคมสูงวัย ประชากรรุ่นเบบี้บูมเมอร์มีอายุมากขึ้นและเป็นโรคเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น งานในสาขาผู้ช่วยด้านสุขภาพและการดูแลส่วนบุคคลที่บ้าน เช่น การอาบน้ำและการให้อาหารผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย จะมีตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งล้านตำแหน่งภายในปี 2573 นี่ถือเป็นเกือบ 10% ของตำแหน่งงานใหม่ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นระหว่างปี 2563-2573 น่าเสียดายที่คนงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้างต่ำที่สุดในรายการ

ไม่เพียงเท่านั้น งานซึ่งเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์ ก็คาดว่าจะมีการเติบโตสูงเช่นกัน โดยความต้องการลูกจ้างในด้านความปลอดภัยไอทีและการพัฒนาซอฟต์แวร์จะแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนคนที่ทำงานจากที่บ้านเพิ่ม มากขึ้น

โครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้งานสำนักงาน ธุรการ งานขาย จะถูกจ้างงานลดลง

ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจจะทำให้งานบางตำแหน่งลดลงอย่างรวดเร็วภายในปี 2573 โดยงานที่จะถูกจ้างงานลดลงมากที่สุด มักเป็นตำแหน่งงานด้านสำนักงานและงานธุรการ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความกังวล เนื่องจากปัจจุบันหมวดหมู่นี้คิดเป็นเกือบ 13% ของการจ้างงานทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งใหญ่ที่สุดในหมวดหมู่หลักๆ ของงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าและบริการ เช่นเดียวกับงานขาย ก็กำลังลดลงเช่นกัน

ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยี AI น่าจะเป็นตัวการใหญ่ที่สุดที่เข้ามาดิสรัปต์สายงานบางอาชีพ ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ที่แปลงเสียงเป็นข้อความโดยอัตโนมัติ จะเข้ามาลดความจำเป็นของพนักงานพิมพ์เอกสาร เป็นต้น

แม้ว่างานที่ลดลงเร็วที่สุดมักจะอยู่ในช่วงเงินเดือนที่ต่ำกว่า แต่ก็มีค่าผิดปกติอยู่อย่างหนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์) ที่ได้รับเงินเดือนมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ จะเห็นการจ้างงานลดลงในอัตราที่สูงชันที่ 33% ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่เปิดดำเนินการนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 และพลังงานนิวเคลียร์เผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

เมื่อองค์ประกอบของการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป มันก็จะขจัดงานบางอย่างออกไปและสร้างงานใหม่อย่างอื่นขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ในขณะที่งานด้านการผลิตกำลังลดลง แต่ก็ยังมีโอกาสใหม่ๆ สำหรับ “โปรแกรมเมอร์เครื่องมือควบคุมตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์” ซึ่งพนักงานเหล่านี้ทำหน้าที่พัฒนาโปรแกรมเพื่อควบคุมอุปกรณ์อัตโนมัติอีกที

อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานที่เติบโตเร็วที่สุดจำนวนมากจะได้รับค่าตอบแทนสูงกว่า แต่โดยทั่วไปแล้วงานเหล่านั้นยังจำเป็นต้องมีการศึกษาขั้นสูงด้วย โดยส่วนใหญ่ยังต้องการการศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วย โอกาสเหล่านี้มาแทนที่งานที่ต้องการเพียงประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น