DDOS Attack โลกวุ่น แต่อย่าวุ่นตามโลก

DDOS Attack โลกวุ่น แต่อย่าวุ่นตามโลก

ได้ยินได้ฟังเรื่องแย่ๆ กันแทบทุกวัน เช้าได้ยินเรื่องสงครามการค้า สายเรื่องตลาดหุ้น บ่ายเรื่องคนนั้นคนนี้ทะเลาะกัน ถ้าวุ่นไปกับโลกมากเกินไป

สมองเราจะไม่ต่างไปจากแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ ที่กำลังถูกโจมตีทางไซเบอร์ ให้วุ่นอยู่กับเรื่องวุ่นวายจนกระทั่งไม่เหลือความสามารถในการให้บริการเรื่องที่จำเป็นอื่น ๆ 

ตามปกติแม่ข่ายคอมพิวเตอร์จะรอรับคำร้องขอบริการจากผู้ใช้ อยากดูเว็ปอะไรก็ขอมา แม่ข่ายก็จะให้บริการไปตามลำดับที่ขอมา

แต่ถ้ามีใครสักคนไปเที่ยวนัดแนะกับคนอื่นอีกนับแสนนับล้านคน ร้องขอรับบริการมาที่แม่ข่ายตัวใดตัวหนึ่งพร้อม ๆกัน โดยเป็นคำขอบริการที่ไม่ได้มีความหมายใด ๆ ขอมามั่ว ๆเท่านั้น

ถ้าจำนวนคำขอที่ได้รับมานั้น มากเกินกว่าที่แม่ข่ายจะให้บริการพร้อม ๆกันได้ คือเกินกำลังที่แม่ข่ายจะทำงานให้ได้ ผู้ใช้คนอื่นก็จะหมดโอกาสได้รับบริการ เพราะมีคำขอที่ค้างรอรับบริการอยู่จนเกินความสามารถในการให้บริการของแม่ข่าย คำร้องขอบริการที่มาจากผู้ใช้รายอื่นๆ จึงถูกปฏิเสธ ไม่ได้รับบริการ

เราจึงเรียกการโจมตีทางไซเบอร์นี้ว่า Distributed Denial-of-Service Attack หรือ DDOS 

ถ้าเราหมดเวลาของสมองไปกับเรื่องที่อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญกับชีวิตเราโดยตรง   ขบคิดว่าใครนอกใจใคร ใครจะโดนคดีอะไร ใครบงการใคร มากเกินไป ก็จะเหลือสมองให้กับการงานเพียงนิดเดียว การงานในสภาพบ้านเมืองแบบนี้ก็ยากเย็นอยู่แล้ว สมองก็ยังหมดไปกับเรื่องที่ไม่มีผลิตภาพใดๆเสียอีก 

เราก็เปรียบเหมือนเป็นแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ที่กำลังถูกเล่นงานด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ DDOS จนกระทั่งเราไม่สามารถคิดอะไรที่มาช่วยแก้สารพัดปัญหาที่ล้อมรอบตัวไปได้ งานยากต้องใช้สมองคิดเยอะ

แต่เราเอาสมองไปคิดเรื่องง่ายหลากหลายเรื่อง ที่เราปรุงแต่งขึ้นมาเอง ถ้าคนนั้นทำอย่างนี้ คนโน่นจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง

โดยที่บ่อยครั้ง คนโน่นที่เกี่ยวกับเรื่องที่มโนขึ้นมา มักจะเป็นตัวเราเอง เราสมมุติไปอย่างนั้นอย่างนี้ จนสมองเราไปหยิบยืมความทุกข์ในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันล่วงหน้า

ถ้าไม่อยากให้ตัวเราเป็นเหมือนแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ที่ถูกเล่นงานด้วย DDOS  ให้เริ่มต้นด้วยการตระหนักว่า สรรพสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องติดตามไปเสียทั้งหมด

ลืมประโยคที่ได้ยินกรอกหูเป็นประจำว่า เรื่องนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด กระพริบตาไม่ได้เลย พยายามรู้ตัวให้ได้ว่าในขณะนี้ นอกเหนือไปจากการงาน และชีวิตของเรา เราเอาสมองไปเติมเต็มความวุ่นวายใด ๆ  ของโลกเอาไว้บ้าง

ถ้าตอบได้ว่าเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับผลิตภาพการงานและชีวิตมีมากไปหน่อย ให้ปล่อยวางไปบ้าง ใครจะนอกใจใคร ใครแอบถ่ายคลิปของใคร ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาขบคิดให้เปลืองสมอง

ถ้าชอบเรื่องทำนองนี้ ขอให้ทำใจเหมือนดูหนังดูละคร ดูแล้วจบแค่นั้น อย่าตามไปถกเถียงกันเองโดยไม่ไช่กงการอะไรของชีวิตเรา ที่แย่ลงไปอีกคือถกเถียงกันแล้วต่างคนต่างต้องการให้ความเห็นของตนเองชนะ

ถ้าไม่คุมอารมณ์กันอย่างจริงจังก็มักจบคล้ายๆ กับการสนทนาระหว่างผู้นำยูเครน กับสหรัฐ ปล่อยวาง เสียงรบกวนสมองลงไปบ้าง สนุกกับเสียงรบกวนสมองได้ แต่อย่ายึดถือเสียงรบกวนนั้นไว้เป็นสรณะ 

 

อะไรที่รู้แล้ว ทำอะไรไม่ได้ ถ้ายังไม่มากระทบอะไรกับตัวเราในวันนี้วันหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูแล้วใหญ่โตแค่ไหน ให้หยุดไว้แต่ตระหนัก  แยกแยะให้ออกระหว่าง ตระหนักรู้ เพื่อความไม่ประมาท กับตระหนกเกินสมควร 

ตระหนักรู้จะหาข้อมูลสาระว่าเรื่องนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงอย่างไร จะมาเมื่อใด   ต้องเตรียมการอะไรบ้าง ตระหนกจะมโนไปว่าถ้าเขาทำอย่างนั้น ฉันจะแย่อย่างนี้ โดยไม่มีข้อมูลประจักษ์หลักฐานใด ๆมาประกอบการวินิจฉัย มโนอนาคตให้ดูน่ากลัว ดูรายการคุยข่าวแล้วอาการเหมือนดูหนังผี

บ้านเมืองที่ไปไหนไม่ได้ไกลทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะบางคนใช้สมองแทบทั้งหมดไปกับเรื่องที่เต็มผลิตภาพสำหรับตนเองและพรรคพวก แต่เป็น DDOS สำหรับบ้านเมือง.