‘แคน นายิกา’ กับตำราที่ชื่อว่าการเดินทาง

ไม่ว่าจะใน Instagram หรือ Facebook ของแคนตั้งแต่เป็นไอดอลจนกระทั่งวันนี้ ภาพที่ระลึกจากการเดินทางไปแทบจะทั่วโลกมีมาอวดให้แฟนคลับติดตามอยู่ตลอด รวมทั้งภาพถ่ายฝีมือเด็กสาวคนนี้ก็อยู่ในระดับน่าชื่นชมอีกด้วย

“แคนจะไปเฉพาะประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า เพราะมันง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเอกสาร และทำให้เวลาเราชวนเพื่อนก็จะมีคนไปด้วย ถ้าเป็นประเทศที่มีวีซ่าจะรวมกลุ่มกันยาก” แคนเล่าถึงกติกาแรกในการเลือกประเทศที่จะไปเยือน เพียงครึ่งปีที่ผ่านมาเธอจึงไปแถบเอเชียเป็นส่วนมาก ทั้ง จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย แต่ถ้าถามว่าประเทศใดเธอหลงใหลมากที่สุดก็ตอบได้ทันควันว่า ญี่ปุ่น

“ตอนเด็กๆ หนูฝันว่าอยากไปญี่ปุ่น และรอบแรกที่ได้ไปคือตอนมัธยม ตอนนั้นไปเที่ยวก็หลงรักญี่ปุ่นมาก ชอบมาก แต่ต่อมาพอเราต้องกลับไปญี่ปุ่นในรูปแบบการทำงาน ความรู้สึกชอบญี่ปุ่นเลยลดลง เพราะเราไปทำงานอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปเที่ยว ทำให้หลังจากนั้นเราเอียน ไม่อยากไปญี่ปุ่น

จนกระทั่งเมื่อต้นปีได้กลับไปญี่ปุ่น ครั้งนี้ไปทำงาน แต่เป็นการทำงานแบบเราเลือกได้ ก็คือการไปทำเพลงกับวงที่ญี่ปุ่น (เพลง Line ร่วมงานกับวง Lucky Tapes) ระหว่างนั้นเราว่างก็ได้ไปเที่ยวในแบบที่เราอยากไปจริงๆ ก็ทำให้กลับมาชอบญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง และกลายเป็นประเทศที่ชอบที่สุด”

ความลงตัวที่แคนยกใจให้แดนอาทิตย์อุทัยคือตั้งแต่อาหาร อากาศ ผู้คน บรรยากาศ และการเดินทาง รถไฟที่ตรงเวลาและรวดเร็วทำให้เธอบอกว่าสะดวกสบาย ผลพลอยได้อีกอย่างคือสุขภาพ เพราะก่อนที่รถไฟจะหมดตอนห้าทุ่ม ต้องรีบกลับที่พัก ได้พักผ่อนไว ได้ตื่นเช้า

หลงใหลญี่ปุ่นขนาดนี้แถมยังร่วมงานกับวงดนตรีเจ้าถิ่น แต่แคนกลับไม่คิดว่าตัวเองจะต้องโกอินเตอร์ในฐานะนักร้อง ความฝันกลายเป็นอยู่บนรันเวย์ เพราะได้เคยมีโอกาสได้เดินแบบที่ญี่ปุ่นแล้ว ปรากฏว่ารู้สึกสนุกกับเจแปนนิสสไตล์คือโชว์ความเป็นตัวเอง สนุกไปกับดนตรี สนุกไปกับเสื้อผ้า

ด้วยความที่เป็นแฟชั่นนิสต้าพอสมควร การไปญี่ปุ่นโดยเฉพาะโตเกียวแต่ละที ชิโมกิตาซาวะ (Shimokitazawa) จึงเป็นย่านที่แคนไม่เคยพลาด

“ที่นี่เป็นย่านขายของมือสอง มีวันรุ่นเดิน แล้วคนก็จะแต่งตัวกันน่ารักๆ ดูแล้วสบายตาดี ส่วนมากไปก็ซื้อเสื้อเชิ้ตมือสองแต่คุณภาพดี”

อีกที่หนึ่งคือดิสนีย์แลนด์ หากใครติดตามแคนจะทราบว่าเธอคือแฟน Star Wars ตัวยง การได้ไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยตัวละครและสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ในดวงใจคือความสุขที่สุด

“ล่าสุดก็ได้ไปดิสนีย์แลนด์ โอ้โห คือนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เล่นเครื่องเล่นธีมสตาร์วอร์ส ตอนนั้นหนูไปถึงน้ำตาไหลเลย หนูตื่นเต้นที่วันหนึ่งได้มาอยู่ในบรรยากาศที่มีตัว CTPO ยืนต้อนรับพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น น้ำตาคลอเบ้า เพื่อนหันมาล้อเลย

แต่ตอนนั้นไม่ได้เจอชิวเบคคา เพราะชิวเบคคาจะมีที่ฮ่องกง ฮ่องกงจะมีชิวเบคคากับ R2-D2 ตอนหนูไปก็เจอแค่ R2-D2 เพราะวันนั้นเขาบอกชิวเบคคาลาหยุดงาน แต่ไม่เป็นไรเพราะการได้ไปดิสนีย์แลนด์สองที่ก็ตอบโจทย์การเป็นแฟนคลับสตาร์วอร์สของหนูแล้ว”

อีกอย่างที่ไม่ว่าใครไปญี่ปุ่นก็ต้องฟินกับสมญานาม ‘แดนปลาดิบ’ ซึ่งแคนและครอบครัวไม่กินสัตว์เลือดอุ่น ทำให้เรื่องอาหารการกินง่ายมากสำหรับเธอ สารพัดปลาทั้งดิบทั้งสุกล้วนเป็นที่โปรดปราน ตรงกันข้ามกับตอนไปเกาหลีใต้ ที่เพื่อนล้อมวงกินหมูย่าง แต่แคนต้องนั่งกินข้าวกับกิมจิรอเพื่อน

แม้แคนจะเคยไปไกลกว่าประเทศแถบเอเชียหลายครั้ง เช่น ตุรกี ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอย่างที่หลายคนอยากไปเห็น แต่กับเด็กสาวคนนี้ก็ยังไม่ให้คะแนนตุรกีมากกว่าญี่ปุ่น

“ที่ไม่ได้ประทับใจตุรกีมากหนูตอบได้เลยว่าเพราะเหนื่อย และหนูไปกับทัวร์ ต้องนั่งเครื่องบินนาน นั่งรถนาน เปลี่ยนที่นอนทุกคืน แต่ความประทับใจก็มีคือวิวทิวทัศน์ที่เราไม่เคยเห็น มันเป็นสถาปัตยกรรมคนละแบบกับที่เราอยู่ แต่ถามว่าการใช้ชีวิตและตรงจริตเรา หนูจะชอบแถบนี้มากกว่า”

จากแดนซามูไรที่เธอคลั่งใคล้ แต่พอถามว่าที่ไหนคือประสบการณ์ร้ายๆ แคนบอกว่า “จริงๆ ไม่มีที่ไหนไม่ดีนะ เพราะทุกที่มีความหลากหลาย แตกต่างกัน แต่ก็มีพวกที่ไม่ถูกจริตเรามากกว่า อาจจะเป็นมาเลเซีย เพราะการเดินทางยาก รถไฟมีแค่ในกัวลาลัมเปอร์ อย่างเราไปทำงานในกัวลาลัมเปอร์แต่จะแวะไปหาเพื่อนต้องใช้เวลาอยู่ในรถไฟฟ้าเกือบสองชั่วโมง เพราะต้องผ่าน 30 สถานี เส้นทางรถไฟฟ้าเขายาวมาก แล้วสถานีไม่เชื่อมต่อ สมมติหนูอยู่จุดหนึ่งแล้วข้างหน้ามีทั้งรถไฟลอยฟ้า ทั้งใต้ดิน แต่เราจะไปสถานที่หนึ่งลอยฟ้าก็ไปไม่ถึง ใต้ดินก็ไปไม่ถึง แต่ก็มีลอยฟ้าอีกจุดหนึ่งที่ไปถึง แต่ไม่ใช่ที่นี่”

นอกจากต่างประเทศที่หลงใหล หลายจังหวัดในประเทศไทยเธอก็หลงรัก กระเป๋าเดินทางของแคนแทบไม่เคยว่าง ในกล้องมีรูปนับร้อยนับพันผ่านเข้ามาให้บันทึกไว้ เด็กสาวคนนี้นิยามทุกการเดินทางที่เกิดขึ้นว่าเป็นดั่งหนังสือเรียน การได้พบปะพูดคุยกับคนจะได้รับสารที่เขาสื่อมากกว่าการได้อ่านหนังสือจริงๆ การเดินทางบ่มเพาะให้แคนเป็นเด็กวัยรุ่นที่ความรู้รอบตัวค่อนข้างเยอะ

  “ไม่มีการเดินทางครั้งไหนที่เสียน้ำตา หนูแฮปปี้กับการเดินทางมาก อย่างที่มาเลเซียหนูก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ แต่อาจจะอยู่ยากสำหรับหนูนิดหนึ่ง แต่ก็ปรับตัวได้ถ้าใช้เวลาอยู่นานๆ และเขาก็มีเอกลักษณ์ของเขาที่ที่อื่นไม่มีเหมือนกัน” แคน นายิกา กล่าวทิ้งท้าย