'วรภัทร์ ภู่เจริญ' โลกหลัง ‘โควิด’ ไทยจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์
มองมุมต่างต่อสถานการณ์การระบาด 'COVID-19' กับอดีตวิศวกรองค์การนาซ่า ที่ยืนยันว่าโอกาสมีเสมอ แต่ต้องใช้ครีเอทีฟ
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 คนส่วนใหญ่มองว่า ยากทั้งการใช้ชีวิตและการหารายได้ แต่สำหรับ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกร องค์การนาซ่า ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานในสหรัฐหลายปี โดยปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน วิทยากร อาจารย์สอนปฏิบัติธรรม รวมถึงมีผลงานเขียนหลายสิบเล่ม มองว่า โอกาสมีเสมอ แต่ต้องมีครีเอทีฟ และอย่าไปสั่งสมองว่า ทำไม่ได้
เขาเองไม่เคยนิ่งดูดาย ทำอะไรได้ก็ทำ โดยเฉพาะการทำตัวให้เกิดประโยชน์ ช่วงนี้เขาใช้เฟซบุ๊ค‘วรภัทร์ ภู่เจริญ ’ไลฟ์ สด(Live with Woraphat) ล้อมวงคุยกับหลายกลุ่ม ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตทางธรรม การงาน และการสร้างไอเดียใหม่ๆ
ผู้ชายคิดบวกอารมณ์ดีคนนี้ ย้ำระหว่างการสนทนาว่า ชีวิตมีทางเลือกเสมอ
นี่คือ ที่มาของการพูดคุยในครั้งนั้น และขอบอกก่อนว่าเป็นการพูดคุยในช่วงโควิดระบาดระลอกแรก (หนึ่งปีผ่านไป ปี 2564การระบาดของโควิดระลอก 3 แทบจะทำให้คนไทยมองไม่เห็นอนาคต ถ้าอย่างนั้นลองอ่านเรื่องราวของผู้ชายคิดบวกอีกครั้ง)
- มองวิกฤติครั้งนี้อย่างไร
พวกฝรั่ง ที่ใช้ระบบเสรีนิยม วัตถุนิยม ไม่ได้เตรียมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ทั้งยุโรปและอเมริกา ชะงักไปพักหนึ่ง แต่คนไทยมีความเก่ง มีความเป็นศิลปินหลายเรื่อง ไทยอาจจะแก้ปัญหาโควิดได้เร็วกว่ายุโรปและอเมริกา
ตอนนี้คนเมืองที่ต้องซื้ออาหารกินทั้งปี มนุษย์เงินเดือน ก็แย่คนต่างจังหวัดยังมีพื้นดินให้ปลูกผัก กลุ่มที่เข้มแข็งจะไม่เดือดร้อนส่วนคนที่กลับตัวไม่ทัน เวลาเกิดวิกฤติน้ำท่วมโรคระบาด สงคราม พวกเขาไม่ได้เตรียมทางออกไว้เลย นี่คือปัญหา
ฝรั่งมาเห็นการช่วยเหลือของคนไทย เขาบอกว่า คนประเทศเราใจดีมากโรคระบาดมาครั้งนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่า คนไทยต้องหาจุดแข็งของตัวเอง แล้วนำมาใช้ ไทยเป็นแหล่งอาหารโลกมีสมุนไพรระดับแถวหน้า แต่เราไปกินอาหารตามฝรั่ง กินขนมปัง ทั้งๆ ที่เครื่องแกงไทย มีสมุนไพรที่ทำให้ปอดแข็งแรง ง่ายๆ เลย ขิง ข่า ตะไคร้
- ในสถานการณ์แบบนี้ ธุรกิจไปต่อยากมาก ?
เมื่อพูดคำว่า ยาก คุณทำลายครีเอทีฟทันที ต้องสุมหัวกันระดมความคิด ใช้วิชา Design Thinking ผมเองก็แลกเปลี่ยนกับหลายชุมชนชาวบ้านหลายคนจบป.4รวมตัวกันก็ไปรอดแรกๆ ก็เริ่มจากความพอเพียง สรรหาผักไทยๆ ที่กินได้ช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย ชาวบ้านเริ่มเห็นสัตว์ และต้นไม้ที่ไม่เคยเห็น คลองก็ใสสะอาด ส่วนกลุ่มที่ทิ้งไร่ทิ้งนาไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะระบบการศึกษาไทยทำลายพวกเขา ไม่ได้สอนให้เขาหยิบความรู้ต้นทุนชุมชนออกมาใช้ พอโควิดมา กลับบ้านก็ไม่ได้ อยู่กรุงเทพฯก็ลำบาก
- แล้วต้องทำอย่างไร
คนไทยมีฝีมือหลายอย่าง ทำอาหารเก่งระดับโลก ผมชอบดูรายการมาสเตอร์เชฟ เมนูไทยสุดยอดเลย สิ่งที่เห็นคือ คนที่ตั้งหลักได้ หันมาทำอาหาร ทำสมุนไพร ส่วนโรงงานผลิตเสื้อผ้าไทย ก็ปรับตัวหันมาทำหน้ากากผ้าให้ประชาชนฟรีๆ ผมว่าประเทศไทยรอด ขอให้ขยันเหมือนเดิม อย่าอาย หรีอเสียศรัทธา หรือด่าคนนั้นคนนี้ว่าไม่มีใครช่วยกู ถ้าไม่ไหว หิวจริงๆ ไปกินข้าวที่วัด หากไวรัสระบาดสักปี สองปี เมื่อเศรษฐกิจฟื้น ความอั้นอยากจะเที่ยวมาละ แผ่นดินไทยฟ้าใส หาดสวย ตอนนั้นก็ดึงนักท่องเที่ยวกลับมา อดทนกันหน่อย
- ภาวะตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่ใครจะลุกขึ้นมาหาเงินเหมือนเดิม
ห้ามพูดว่า ไม่ง่าย เดี๋ยวสมองจะเสีย สมองส่วนคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า(prefrontal cortex, ตัวย่อ PFC) สมองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผน หรือโปรแกรมพฤติกรรมเกี่ยวกับการรับรู้ที่ซับซ้อนจะเสียหาย เราต้องพูดว่า ทำได้ แต่เรายังไม่ได้ออกไปเจออะไรมากขึ้น ผมกำลังเขียนหนังสือเรื่องมนุษย์เงินเดือนไทยที่ถูกระบบการศึกษาและสังคมไทยหลอกให้คิดอะไรไม่เป็น แล้วมากินเงินเดือน เช้าก็ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กลางวันกินอาหารข้างออฟฟิศ เย็นเดินห้างสรรพสินค้า ดูหนังซีรีี่ย์ ไม่ต้องมีครีเอทีฟ
ถ้าเป็นไปได้ ต้องกลับมาล้อมวงตั้งคำถาม แต่ละคนมีต้นทุนอะไรอยู่ มีความรู้ความสามารถอะไร ต้องเลิกคิดวิธีแบบเดิม มีธุรกิจอะไรที่ทำได้ กัปตันขับเครื่องบิน ตกงาน ยังไปขับมอเตอร์ไซค์ ส่งอาหาร
พวกเถ้าแก่ใจดำหรือเปล่า จากที่เคยมีกำไรสิบยี่สิบปี ลูกน้องเดือดร้อนแบบนี้ ออกอาการขี้เหนียวกระทันหันไหม หลายบริษัทที่ผมให้คำปรึกษา ผมก็ให้ล้อมวงคุยกัน
- ล่าสุดให้คำแนะนำบริษัทที่ต้องปิดตัวอย่างไร
ผมตอบไม่ได้ทันทีว่า พวกเขาต้องทำอะไรในวินาทีนี้ มีบริษัทหนึ่งเพิ่งปิด ก็เปิดโรงทาน ทำอาหาร ทำหน้ากาก เขาเชื่อว่า เขายังพอมีอะไรเหลืออยู่ หยุดธุรกิจมาช่วยเหลือคนไทย เมื่อทุกคนไม่มีเงินเดือนเลย ทั้งๆ ที่บริษัทนี้ไม่ได้ทำเรื่องอาหาร ก็พัฒนาฝีมือทำอาหาร เขาเชื่อว่า
เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เขาจะมีเมนูสูตรใหม่ๆ เขาไม่สิ้นหวัง แต่ต้องใช้หลัก Design Thinking ขว้างก้อนหินถามทาง แบ่งงานกันทำ ให้แผนกหนึ่งทำเรื่องข่าวกรอง ให้อ่านข่าวโควิด กรองข่าวปลอมออกไปมาสรุปให้เพื่อนๆ ฟัง บางแผนกพิสดารหน่อย มีหน้าที่ท่องอินเทอร์เน็ต เข้าไปดูธุรกิจขายของออนไลน์ พวกอาลีบาบา ลาซาด้า ฯลฯ แล้วมาสรุปว่า เราทำอะไรได้บ้าง
อีกกลุ่มต้องไปสำรวจว่า ตอนนี้คนกักตัวในบ้านอยู่ในสภาวะไหน ต้องการอะไร การรวมทีมแบบนี้ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักบัญชีหรือวิศวกร คนกลุ่มนี้ต้องโทรหาเพื่อนเช็คตลาดตรงนี้ การตลาดต้องเปลี่ยน มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องรวมพลังทั้งบริษัท ญาติพี่น้อง คิดคนเดียวไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มด้านเกษตรที่คุยๆ กัน ตอนนี้กำลังหาผักไทยถูกๆ ให้เชฟนานาชาติคิดว่า จะทำอย่างไรให้ผักไทยถูกปากคนอิตาลีคนฝรั่งเศส ทำอาหารไทยรสชาติผสมผสานตะวันตก ทำแพ็คดีๆ ส่งไปขายต่างประเทศได้
อยากยกอีกตัวอย่าง คนไทยเห็นกล้วยมองว่ากระจอก ฝรั่งเห็นกล้วยกรี๊ด คนจีนเห็นส้มไทยก็กรี๊ด เหมือนคนไทยเห็นแอปเปิ้ลหรือสตอร์เบอรี่ เวลาเราไปเมืองเขา เห็นเบอร์รี่สวยๆ กรี๊ด แต่เขาบอกว่า เอาให้ม้ากิน
เห็นไหมพอข้ามประเทศคิดแบบเดิมไม่ได้ อย่างปลาในอีสานบางชนิด ฝรั่งเห็นแล้วชอบมาก คนไทยมีอะไรดีเยอะ ผมพยายามลงข่าวสารว่า มีคนไทยทำอะไรดีๆ ที่ไหน เพื่อกระตุ้นต่อมสมองสร้างสรรค์ให้คน และอย่าไปใกล้คนคิดลบ
- แพลตฟอร์มออนไลน์จะสร้างทางเลือกให้ชีวิตมากขึ้นอย่างไร ?
จะมีระบบเงินตรา หรือ currency ที่ไม่จำเป็นต้องกู้ธนาคารหรือใช้เงิน ทุกอย่างกลับไปสู่สมัยพุทธกาลคือ ใช้การแลกเปลี่ยน โจทย์เปลี่ยนหมด ตอนนี้หลายประเทศเริ่มมีเงินตราของตัวเอง และกำลังสงสัยว่า อเมริกาพิมพ์ธนบัตรเองหรือเปล่าเริ่มเห็นกำพืดของอเมริกาตอนนี้
แม้ไทยต้องปิดประเทศ เราก็อยู่กันได้ ถ้าทั่วโลกปิดประเทศสามเดือน อเมริกาสะเทือน หลายประเทศเริ่มช่วยเหลือตัวเอง ดังนั้นหาจุดแข็งให้เจอ มีตำราทำอาหารสุดยอดๆ ของคนสมัยก่อน ควาญหากันแล้ว ต่อไปร้านอาหารไม่จำเป็นต้องเปิดใหญ่โต แล้วฟันราคาค่าอาหาร แค่คุณทำอาหารอร่อยๆ ในครัวบ้านคุณ แล้วมีวินมอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร อีกหน่อยอาจจะส่งอาหารทางโดรนก็ได้
- คาดคะเนว่า ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด
ในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ คำว่า ศิวิไลซ์ ในที่นี้คือ ในด้านน้ำใจ คุณความดี อาหาร ยารักษาโรค แต่พวกเราอย่าท้อ สุมหัวกันคิดครับ ขอทานสามคนสุมหัวกันดีกว่าขงเบ้งหนึ่งคน
ถ้าไม่ปรับตัว แย่แน่ อะไรทำได้ลงมือทำเลย ใช้ Design Thinking ลองหาต้นทุนชีวิต ทุกคนมีครับ ประสบการณ์แต่ละคนไม่กระจอก เพียงแต่คุณไม่เคยคุยกับคนที่เห็นอีกมุมในตัวคุณ ตอนนี้มหาอำนาจกำลังปั่นป่วน จังหวะของคุณมาละ แต่ต้องหากลุ่มช่วยคิด คนเราต้องมีมงคล 38 ด้วย อาทิ ข้อ 1 ต้องห่างไกลคนพาล อย่างบางคนชอบพูดว่า “ทำไม่ได้ คนรวยก็ทำได้สิ” คนพวกนี้ไม่ผ่าน คนที่ตั้งสติได้จะหาหนทาง เลิกโวยวาย
- ทั้งๆ ที่เป็นวิกฤติที่ยากกว่าทุกครั้ง อาจารย์ก็ยังมองว่า มีโอกาส ?
เราดูถูกประเทศเรามานาน ที่เราขาดคือ ไม่สุมหัวคุยกันเรื่องดีๆ แต่สุมหัวด่ารัฐบาล ลองรวมกลุ่มตั้งเป็นชมรม ผมเองก็ตามลูกสาวเข้ากลุ่มออนไลน์ ไอเดียบรรเจิดเลย มิน่าเราไม่เข้าใจเด็ก ตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่เด็ก ถ้าจะเข้าใจตลาด แต่ยังใช้สำนวณแบบตาแก่ก็แย่แล้ว
ผู้ใหญ่จะฟอร์มเยอะ กลัวเสียหน้า สุดท้ายก็เป็นตาแก่ตกเทรนด์ คนแก่ที่เป็นแบบวันแมนโชว์ไปไม่รอดครับ ต้องทิ้งตัวตน แล้วไปดูว่า เด็กๆ ต้องการอะไร เพราะตอนนี้โลกทั้งใบเป็นของคนไทยแล้ว รอน่านฟ้าเปิด เราจะค้าขายได้ทั่วโลก
- โลกหลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไร
ถ้าโควิดหายไปสักปี สองปี มนุษย์ก็กลับมาชั่วร้ายเหมือนเดิม กลับมาบริโภค ใช้ไฟถล่มทลาย เพื่อดูรายการฟุตบอลเหมือนเดิม มนุษย์จะกลับมาทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าคิดแบบชั่วร้ายสุดๆเลย คือ เมื่อไวรัสโควิดตัวนี้หายไป อาจมีคนชั่วนำไวรัสร้ายๆ ตัวใหม่ออกมาก็ได้นะ อย่าลืมว่าเศรษฐกิจไม่ได้ตกที่ใดที่หนึ่ง เศรษฐกิจที่หนึ่งตก อีกที่ก็กำลังขึ้น เหมือนที่มีการปล่อยไวรัสคอมพิวเตอร์ แล้วปล่อยแอนตี้ไวรัสออกมา
อีกอย่าง โควิดจะมาเปลี่ยนการตลาด เถ้าแก่ที่เห็นแก่ตัว ลูกค้าสมัยใหม่จะไม่ซื้อ จากที่มีพรมแดนจะกลายเป็นประเทศที่มองไม่เห็นพรมแดน คนที่ชอบเรื่องเดียวกัน จะมีแพลตฟอร์มของตัวเอง ตอนนี้ก็เริ่มซื้อขายในกลุ่มแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อขายด้วยเงิน มีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น
- งานของอาจารย์ถูกกระทบไหม
แน่นอน คนเราอย่างมาก ก็กินข้าวสามมื้อ ผมออกไปทำอะไรก็ได้ ปลูกต้นไม้ก็ได้ แต่ในสภาวะไวรัสระบาดแบบนี้ ผมต้องถามตัวเองว่า ผมจะมีส่วนช่วยประชาชนอย่างไรบ้าง อันนี้สำคัญมาก ประชุมออนไลน์ตลอด มีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มบริษัท ที่ให้คำปรึกษา ผมช่วยเต็มที่
ผมไม่กลัว เพราะผมผ่านความตายมา 7 ครั้ง รถคว่ำ แก๊สรั่ว จมน้ำ หัวใจล้มเหลวที่จีน หลังหักสองรอบนอนโรงพยาบาลเป็นปีๆ โชคดีที่ได้รับการฝึกให้อดทน ปฎิบัติธรรมช่วยได้ ธรรมแปลว่า ความจริง ปฎิบัติธรรมไม่ได้แปลว่า ต้องมาทางพุทธศาสนาเสมอไป จะเป็นฮินดู พุทธหรืออะไรก็ได้ แต่ให้รับรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง
- ถ้าคิดจะกลับมาตั้งตัวใหม่ ต้องทำอย่างไร
ข้อ 1 ห่างไกลคนพาล ข้อ 2 สำรวจต้นทุนตัวเอง เพื่อนที่ฉลาดกว่า คอนเนคชั่นเยอะกว่า เราได้คุยกับคนเหล่านี้ไหม บางทีทำธุรกิจแล้วไม่เคยไปหาเขา เช็คต้นทุนด้านคน แล้วลูกน้องมีต้นทุนชีวิตอะไรดีๆ บ้าง อย่าไปคิดแบบเดิม ข้อ 3 ขว้างก้อนหินถามทาง เขียนมายแมพ ดูว่าสังคมต้องการอะไร เรามีจุดแข็งอะไร ใช้ Design Thinking มาช่วยตรงนี้ เรียนวิชานี้ด่วนเลย ลองออกแบบโปรดักซ์ออกมา บางคนกลับไปทำไร่สมุนไพร ปลูกถั่ว ข้าวโพด ขายได้กิโลละบาทสองบาท แต่ปลูกสมุนไพรกิโลละพันบาท อย่าอยู่นิ่งๆ